Talon Esports สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการล้มแชมป์เก่า 2 สมัย อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ RoV Pro League 2020 Winter สุดยิ่งใหญ่ นี่คือแชมป์หนแรกของพวกเขา โดยมีผู้เล่นที่น่าจับตามองอย่าง Happy ผู้มีฝีมือเยี่ยมในตำแหน่งป่า ที่มีส่วนพาทีมมุ่งสู่ความสำเร็จ
- ONE on ONE : FirstOne ผู้เวียนว่ายตายเกิดกับวงการ MOBA ไทย
- ONE Esports Talk : MeMarkz การกลับมาของผู้ปลุกกระแส RoV เมืองไทย
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่า คือเส้นทางการเป็นโปรเพลย์เยอร์ของเขาที่ครั้งหนึ่งเกือบหันหลังให้กับการเป็นโปรอาชีพ ก่อนจะลุกขึ้นสู้ และประสบความสำเร็จกับ Talon Esports นี่คือเรื่องราวของ Happy หรือ อั้ม ชัชชนะพงศ์ พิจิตรวรการ โปร RoV วัย 20 ปี กับเส้นทางนักสู้ที่ One Esports จะพาไปรู้จักตัวตนของเขาแบบสุด Exclusive
RoV เกมเปลี่ยนชีวิต
ย้อนกลับไปในปี 2016 เป็นครั้งแรกที่เราได้รู้จักเกมมือถืออันโด่งดังอย่าง Realm of Valor หรือ RoV นี่คือ MOBA ที่เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนกลายเป็นกระแสเปลี่ยนโลกของเกมบนคอมพิวเตอร์ กระโดดสู่หน้าจอมือถือ กระทั่งไต่ระดับไปถึงการแข่งขันชิงแชมป์หลายรายการทั้งในไทย และต่างประเทศ
“Happy” หรือ อั้ม ชัชชนะพงศ์ พิจิตรวรการ(ชื่อเดิมในเกม Sadman) คือหนึ่งในคอเกมที่เกิดความสนใจ RoV ก่อนเปลี่ยนจากเกมบนคอมพิวเตอร์หันมาจับมือถือไล่ล่าฮีโร่จริงจัง จากความชื่นชอบเกมแนว MOBA เป็นทุนเดิม…
“ก่อนหน้านี้ผมทันเล่น Dota แต่เล่นไม่เยอะ ก่อนจะเปลี่ยนไปเล่น HoN แต่ช่วงหนึ่งค่อนข้างห่างจากคอมพิวเตอร์ครับ หันไปเล่นเกมโทรศัพท์ Mobile Legends เป็นเกมแรก แต่เล่นไปเล่นมาไปเจอ RoV เห็นว่าน่าสนใจก็เลยลองเล่นดู แต่ช่วงแรกก็แค่เล่นเอาสนุกครับ” Happy เล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นกับ RoV
“ด้วยความเป็นเกมแนว Moba ผมมองว่า RoV เป็นเกมที่น่าจะเบื่อยาก เบตาเปลี่ยนแปลงตลอด และมีสิ่งที่น่าสนใจที่ทำให้เราอยากเล่นตลอดเวลา” ความสนุกของ RoV ถูกพัฒนาสู่รูปแบบการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ที่มีทีมอีสปอร์ตเข้าร่วมชิงชัยกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางกระแสความนิยมที่พุ่งแรงไม่หยุด ทัวร์นาเมนต์ต่างๆกลายเป็นข้อดีที่ทำให้นักเล่น RoV รู้สึกอยากหาความท้าทายใหม่ๆ และกระตุ้นให้นักเล่นหน้าใหม่อยากประลองฝีมือกับโปรเพลย์เยอร์ ซึ่ง Happy เป็นหนึ่งในนั้น
“ครั้งแรกผมไปดูเขาแข่งรายการหนึ่งที่เอาทั้ง 4 แคลนมาเจอกัน พอได้เห็นก็อยากแข่งบ้าง เพราะคิดว่าเราก็สู้ได้เลยลองหาทีมซ้อม เพราะอยากไปแข่ง ตอนแรกมีกลุ่มพี่ที่เล่น LoL ด้วยกันชวนสร้างทีม แต่เขายังมีหน้าที่การงานต้องทำเลยเหลือผมคนเดียว แต่จากนั้นก็มีคนชวนไปตั้งทีมอีกครั้ง ผมจำชื่อทีมไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่า การเริ่มต้นของผมไม่เป็นไปตามที่หวังสักเท่าไหร่”
“ช่วงนั้นตระเวนล่าทุกทัวร์นาเมนต์เลยครับ มีรายการแข่งที่ไหนก็ไปตลอด แต่ตอนนนั้นยังไม่อยากทำเป็นอาชีพเต็มตัว เพราะยังเรียนไม่จบ เพราะถ้าจะทำจริงๆต้องโฟกัสเยอะ ซึ่งตอนนั้นผมโฟกัสการเรียนด้วย ทางบ้านเองไม่ได้ซัพพอร์ตการเล่นเกมของผม ช่วงนั้นผมกังวลเรื่องแข่งออฟไลน์มาก เพราะแม่ไม่ให้ออกไปข้างนอก”
“มีครั้งนึงเป็นการแข่งออฟไลน์ครั้งแรก มีพี่ในทีมเขามารับ ผมคุยกับพี่ชายให้พาหนีแม่ออกจากบ้าน ให้พี่รับหน้าให้ แต่กลับมาก็โดนจับได้ครับ(ฮา) แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร หลังจากนั้นแม่ก็ไม่ว่าอะไรแล้ว จริงๆเขาแค่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเราก็แค่นั้น”
แม้จะห่วงเรื่องการเรียน แต่ท้ายที่สุด Happy ตัดสินใจทำสองอย่างไปพร้อมกัน มุ่งมั่นตั้งใจเรียนไปพร้อมกับการเล่นเกม อาจยังไม่ได้ตัดสินใจเป็นโปรอาชีพ แต่เขาก็ได้ทำสองสิ่งที่ตั้งใจไปพร้อมกันได้
เทิร์นโปร RoV
ด้วยความที่ไม่ได้เป็นโปรในทีมอีสปอร์ตเต็มตัว ทำให้ Happy สนุกไปกับ RoV แบบไร้แรงกดดัน อย่างไรก็ตามด้วยฝีมือการเล่นของเขา ทำให้สุดท้ายได้รับโอกาสขยับเข้าใกล้การเป็นโปรเพลย์เยอร์อีกขั้น
“ผมได้เข้าทีม White Forest แต่ก็อยากเรียนให้จบแล้วค่อยไปแข่งจริงจัง” Happy กล่าวถึงการตัดสินใจที่ยังลังเลกับการโฟกัสเรื่องเรียน และเป็นนักแข่งเกมในเวลาเดียวกัน ก่อนจะตัดสินใจทำสองอย่างพร้อมกันในที่สุด
“ช่วงที่มี RoV Pro League ซีซั่น 1 ผมไปคัดติดในนามทีม White Forest มีการเข้าแคมป์ซ้อม จริงๆ ตอนนั้นยังลังเล เพราะยังเรียนอยู่ แต่สุดท้ายก็ดร็อปมาเป็นโปรเต็มตัว ได้มีเงินเดือน ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นครับที่ได้เป็นนักเล่นเกมจริงจัง ผมอยากทำให้เต็มที่ พยายามตั้งใจเต็มที่ตลอด แต่ผลออกมายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
“ผมคิดว่าตอนนั้นอาจเป็นเพราะเรายังเล่นฮีโร่น้อยไปเลยตัดสินใจเล่นมันทุกตัว มันเหมือนหาเบตาไปในตัวว่า ตัวนี้สามารถสู้กับฮีโร่ตัวไหนได้บ้างเหมือนได้หาจุดลงตัวที่ดีที่สุด”
หลังจากนั้น Happy ได้รับคำชวนให้ย้ายไปร่วมทีม Black Forest ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผู้คนรู้จักชื่อของเขามากยิ่งขึ้น(ในเวลานั้นยังใช้ชื่อ Sadman)
“หลังย้ายมาทีมใหม่มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย ผมรู้สึกเหมือนเราย้ายบ้านใหม่ แรกๆก็เกร็งทำตัวไม่ถูกต้องพยายามปรับตัว ส่วนเรื่องผลงานก็ยังออกมาไม่ดีมาก แต่ผมอยากพัฒนาตัวเอง เวลามีทัวร์นาเมนต์แข่งที่ไหน ผมลงหมดเลยเพราะอยากเก็บประสบการณ์”
“ผมคิดว่า ผมไม่สามารถจะเก่งขึ้นได้ ถ้าไม่มีประสบการณ์เลยตัดสินใจเลือกเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆทุกรายการที่มีแข่ง”
เกือบทิ้งฝัน ก่อนเกิดใหม่ที่ Talon
Happy มุ่งมั่นเก็บประสบการณ์ทุกเวทีที่สามารถลงแข่งขันได้ อย่างไรก็ตามแม้จะพยายามทำงานหนักอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ได้กลับมาจะยังไม่น่าพอใจนัก
“พอเริ่มการแข่งจริง มันกลายเป็นซีซั่นที่ผมรู้สึกแย่ที่สุดในชีวิต” Happy เริ่มเล่าถึงความผิดหวังในเวลานั้น
“ผลงานที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมันยังไม่ได้ตามที่หวังสักที ผมคิดกับตัวเองว่า เราพยายามมาตั้ง 4 ซีซั่น แต่ทำไมมันยังไม่ดีขึ้น ตอนนั้นถึงขั้นอยากจะพักแล้วหันกลับไปเรียนต่อให้จบ”
“ช่วงนั้นต้องบอกว่า ค่อนข้างผิดหวังมาก ผมตั้งใจจะพักเรื่องอีสปอร์ตไว้ก่อนเพื่อกลับไปเรียน เพราะผมห่วงเรื่องการเรียนด้วย แต่ตอนนั้น Talon ติดต่อเข้ามาพอดี เป็นการตัดสินใจที่ยากนะ”
“แต่ก็ได้คำปรึกษาจากพี่ๆ เขาก็แนะนำว่า ถ้าอยากจะไปก็ไปให้สุด เกมนี้อาจอยู่ไม่นาน เพราะทุกเกมมันมีช่วงเวลาของมัน ทำให้ผมตัดสินใจไปต่อ จากนั้นก็ได้ย้ายมาอยู่กับ Talon”
หลังได้รับคำปรึกษา Happy ตัดสินใจสู้ต่อบนเส้นทางโปร RoV ด้วยการเซ็นสัญญากับ Talon Esports และเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับการเดินตามความฝันต่อไป
การมาของ JJak ผู้เปลี่ยนทุกอย่างในทีม Talon
เวลานั้น Talon Esport ถือเป็นน้องใหม่ถอดด้ามในวงการ RoV แม้จะคัดผู้เล่นมีฝีมือมาร่วมทีม แต่ต่างคนต่างที่มา ทำให้ยังต้องปรับจูนความเข้าใจในทีม เช่นเดียวกับ Happy ที่ต้องเจอกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ บรรยากาศที่ไม่คุ้นประกอบกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งหลายปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมอย่างมาก
“ด้วยความที่ทุกอย่างใหม่หมด ทำให้หลายๆอย่างไม่ลงตัว การอยู่ร่วมกันของทีมไม่เวิร์คเท่าไหร่” Happy เล่าถึงช่วงแรกกับการฟอร์มทีม RoV ของ Talon แต่แล้วเกิดจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เมื่อพวกเขาคว้า JJak อดีตผู้เล่น RoV ชาวเกาหลีใต้ ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์โลก AWC 2018 เข้ามาร่วมทีม
“พอได้ Jjak เข้ามา มันมีการเปลี่ยนแปลงเยอะ เพราะเขาพาให้ทุกคนในทีมเดินไปในทิศทางเดียวกัน จากตอนแรกเหมือนไม่มีผู้นำ ต่างคนต่างเล่น พอเขาเข้ามามันเปลี่ยนให้ทุกคนไปในทางเดียวกัน เหมือนทีมได้เกิดใหม่”
“ซีซั่นนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ Most Killer ด้วย แต่ด้วยความเป็นน้องใหม่ มีบ้างที่ทีมเราโดนประมาทจากรอบข้าง อาจถูกมองว่า ผมไม่เคยออฟไลน์เลยคิดว่าเราไม่เก่ง ช่วงแรกรู้สึกแย่ไปกับมันคิดว่า เราก็เล่นมานานทำไมไม่พัฒนาสักที แต่ผมพยายามคิดบวกเข้าไว้ หาสิ่งอื่นที่ทำให้เราไม่เศร้าเกินไปเพื่อทำให้ตัวเองพร้อมแข่งต่อไป”
“JJak มีส่วนช่วยให้ผมพัฒนาเยอะครับ ผมได้ประสบการณ์ในการตัดสินใจจากเขา เขาสอนอะไรหลายอย่างให้ผม มีความเป็นผู้นำ มีหลายอย่างที่เห็นแล้วว่า เรารู้สึกว่ามันดี และอยากทำตาม เขาสอนทุกอย่างจริงๆ แต่ติดปัญหาเรื่องการสื่อสารที่พูดคนละภาษาทำให้การสื่อสารในเกมเป็นไปได้ยาก”
“บางครั้งเราอาจเข้าใจ แต่บางคนในทีมอาจไม่เข้าใจเลยทำให้กลายเป็นอุปสรรค ในทีมได้คุยกันใหม่ ซึ่งทุกคนมีความเห็นอยากให้สมาชิกเป็นคนไทยล้วนเพื่อคุยกันง่ายขึ้น เพราะเวลาต้องตัดสินใจอะไรเร็วๆมันเป็นเรื่องยาก”
ด้วยปัญหาดังกล่าว ท้ายที่สุด JJak ต้องลดบทบาทไปเป็น สตรีมเมอร์ ฝากผลงานในการพา Talon จบอันดับ 3 ในศึกโปรลีก 2020 Summer และประกาศอำลาทีมในที่สุด
“หลัง JJak ออกจากทีมก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อยครับ ผมกับเขาค่อนข้างสนิทกัน อาจไม่ได้อยู่ทีมเดียวกัน แต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”
กลบรัศมีแชมป์เก่าในโปรลีก
แม้จะยังอยู่ในฐานะทีมน้องใหม่ แต่ Talon ได้รับการจับตามองไม่น้อย ในศึก RoV Pro League 2020 Winter ในส่วนของสมาชิกทีม Talon ต่างมีความมุ่งมั่นกับการแข่งรายการนี้ รวมถึง Happy ที่มองไปถึงแชมป์
“ตอนศึกลีกผมตั้งใจไว้เลยว่าต้องแชมป์เท่านั้น เพราะคิดว่าทำได้ ทีมของเราในตอนนี้มีเคมีตรงกัน คุยได้ทุกเรื่อง ทีมเลยไปในทิศทางเดียวกันเร็วมากทำให้คิดว่า ครั้งนี้ต้องไปถึงแชมป์แน่นอน”
ผลงานในศึก RoV Pro League 2020 Winter เป็นไปตามที่ทีมคาดหวัง เมื่อมีฟอร์มร้อนแรงตั้งแต่เริ่มแรกไปจนถึงการเจอแชมป์เก่า 2 สมัย อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาจัดการถล่มขาดลอย 4-1
“บุรีรัมย์ อาจมีประสบการณ์เยอะกว่า ทำให้มีความกดดันที่ต้องเจอพวกเขา แต่ผมและทีมก็ยังมองว่า ด้วยความสามารถของเรา สู้ได้แน่ๆเลยไม่ได้กลัว เจอหนแรกเราพยายามกดดันให้น้อยที่สุด เราค่อนข้างมั่นใจว่าสู้ได้ ขอทำให้เต็มที่ก็พอ” Talon ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศ แต่เหมือนโชคชะตาทำให้ บุรีรัมย์ มีโอกาสกลับมาแก้มืออีกครั้ง เมื่อโคจรมาพบกันในรอบชิงฯ แต่ครั้งนี้เป็น บุรีรัมย์ ที่ออกนำไปก่อน 1-0
“ตอนนั้นเหมือนเครื่องเรายังไม่ร้อน ส่วนทีมเขาชนะติดต่อกันมันต่อเนื่องมาแล้ว เครื่องเขากำลังร้อน ทำให้แพ้ในเกมแรก ทุกคนในทีมพยายามเก็บข้อผิดพลาดมาปรับปรุงว่า เกมแรกเราโดนอะไรมา ต้องแก้ยังไงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมต่อไป ทีมเรามีนักจิตวิทยาที่พยายามบอกให้เราจิตนาการว่า เราได้แชมป์มาแล้ว ตอนนี้ก็แค่ย้อนกลับไปเพื่อแข่งอีกรอบ ซึ่งมันลดความตื่นเต้นได้เยอะครับ”
Talon พลิกกลับมาเอาชนะ บุรีรัมย์ 4-1 คว้าแชมป์ RoV Pro League 2020 Winter ได้สำเร็จ วึ่งถือเป็นครั้งแรกของทีม นอกจากนี้ในการจัดทีมยอดเยี่ยม Happy และสมาชิกทีม Talon เหมาทุกตำแหน่ง ถือเป็นการการันตีความยอดเยี่ยมของเหล่าขุนพล เหยี่ยวแดง ว่านาทีนี้ไม่มีใครร้อนแรงเกินพวกเขาอีกแล้ว
สู่เวทีนานาชาติ
จากการคว้าแชมป์ RoV Pro League 2020 Winter ทำให้ Talon เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันรายการระดับนานาชาติที่ยังไม่ได้ประกาศชื่ออย่างเป็นทางการ ช่วงปลายปี 2020 ร่วมกับอีกหนึ่งตัวแทนอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมจากรอบเพลย์ออฟ
สำหรับ Happy ความสำเร็จรายการที่ผ่านมาไม่ใช่แค่การคว้าแชมป์ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้พิสูจน์ถึงความพยายามที่เขากัดฟันสู้มาโดยตลอด เพื่อนำตัวเองไปสู่เป้าหมาย
“การคว้าแชมป์ที่ผ่านมา มันเหมือนเป็นการพิสูจน์ทุกอย่างทั้งตัวผมเอง ทั้งคนอื่น และพี่ๆในทีมให้เห็นว่า เราสามารถทำได้ และสามารถเป็นแชมป์ได้แล้วจริงๆ ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกกับการคว้าแชมป์ครั้งที่ผ่านมา แต่เหมือนเราได้ปลดล็อคไปแล้ว”
“ส่วนตัวผมภาคภูมิใจมากครับการเป็นแชมป์รายการนี้ เพราะนอกจากจะคว้าแชมป์แล้วยังทำให้เราได้เป็นหนึ่งในทีมตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งรายการใหญ่ในปลายปีนี้อย่าง Arena of Valor Premier League”
สำหรับรายการที่ มีทีมอีสปอร์ตจากหลายชาติมาร่วมประชันฝีมือ แน่นอนว่า Happy และ Talon ต้องเจองานที่ยากขึ้น แต่นับเป็นความท้าทายที่อยากจะลองแสดงฝีมือให้เต็มที่ โดย Happy มองว่า คู่แข่งจากทีมไต้หวัน คือทีมที่น่ากลัวที่สุดสำหรับรายการนี้
“ผมคิดว่าทีม ไต้หวันเขาน่าจะเป็นทีมที่น่ากลัวที่สุดในอาเซียน เขาเล่นค่อนข้างเป็นระเบียบ มีแบบแผนที่ชัดเจน มีการดราฟตัวค่อนข้างดี พร้อมที่จะสู้กับเราทำให้เป็นทีมที่สู้ด้วยยากแน่นอน”
แม้จะเป็นศึกใหญ่ และเต็มไปด้วยโปรฝีมือเทพ แต่ Happy ไม่แสดงความกังวลใดๆ เป้าหมายของเขาคือ การเดินหน้าสู่แชมป์โลกในสักวัน แต่ตอนนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จก่อน นั่นคือ การคว้าแชมป์รายการต่อไปในฐานะตัวแทนประเทศไทย
เปรียบชีวิตดั่ง Level RoV
เส้นทางที่ผ่านมาของ Happy ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน แพ้บ้าง ชนะบ้าง จนวันหนึ่งก้าวไปสู่แชมป์ได้สำเร็จ แต่หากเปรียบชีวิตกับ Level ในเกม RoV เขามองว่า ตนเองเพิ่งเดินมาถึง Level 8 เท่านั้น
“หากเปรียบตัวเองกับเลเวลในเกม ผมคิดว่า ตัวผมน่าจะเลเวล 8 ครับ(เลเวลสูงสุดของ RoV คือ 15)”
“จนถึงตอนนี้ ผมมองว่า ตัวเองยังต้องฝึกฝนให้หนักกว่านี้ อย่างการแข่ง ที่ต้องเจอกับตัวแทนชาติอื่นๆ เราก็ต้องพยายามศึกษาการเล่นของทีมต่างประเทศด้วยเพื่อที่ให้เราพร้อมจะเจอเขา”
“แต่การแข่งขันครั้งนี้ ผมจะตั้งเป้าไว้ว่า จะเอาแชมป์ให้ได้เหมือนเดิมแน่นอนครับ” Happy ปิดท้าย
Happy กับ Talon จะไปได้ไกลแค่ไหนในรายการ Arena of Valor Premier League เป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่สุดท้าย หากยังไม่สำเร็จ สิ่งที่รู้ได้คือ Happy จะยังคงมุ่งมั่น พัฒนาฝีมือตัวเองต่อไป เพราะเขามาไกลเกินฝัน และยังไม่หยุดฝันก่อนถึงวันที่ได้เป็นแชมป์โลก RoV เหมือนที่ตั้งใจไว้