ครั้งหนึ่งเขาตัดสินใจดร็อปเรียนเดินทางกว่า 700 กิโลเมตร เพื่อทำตามความฝัน ก่อนจะล้มลุกคลุกคลานทั้งเป็นตัวสำรอง ทีมแตก แต่วันหนึ่งสามารถไปถึงแชมป์ RoV โปรลีก 2 สมัยซ้อน

นี่คือเรื่องราวของ ม่อน – วัชรนันท์ ถาวร หรือ Summer ดีกรีแชมป์ RoV 2 สมัย และโปรเพลย์เยอร์ RoV ของ EVOS Esports ที่กำลังพาทีมมุ่งสู่ความสำเร็จใน RoV Pro League 2021 Summer เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ติดตามได้ที่นี่

เข้าวงการ MOBA

Dota และ League of Legends (LoL) คือสองเกมแนว MOBA ที่เคยโด่งดังอย่างมาก ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่ซ้ำใคร ต้องใช้ความคิดในการเล่น และนั่นคือเกมแรกๆที่ทำให้ ม่อน ก้าวเท้าสู่โลก MOBA

“ผมเล่นเกมแนว moba มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว อย่าง Dota แต่ก็มาเริ่มจริงจังกับเกมตอนเรียนมหาวิทยาลัย” โปรเพลย์เยอร์วัย 25 ปี เริ่มเล่าจุดเริ่มต้นกับเกม MOBA

“จริงๆก่อนหน้านั้นผมชอบเล่นกีฬามากกว่า เกมก็แค่เล่นเอาสนุก แต่หลังจากนั้นผมเริ่มไม่ออกไปเจอเพื่อน อยู่แต่ห้องเล่น LoL วนอยู่แบบนี้เป็นปี”

“ตอนนั้นผมเริ่มมีแพชชั่นกับเกม จากนั้นมีคนมาชวนเข้าทีม เมื่อก่อนไม่มีทีมใหญ่ๆแบบทุกวันนี้ ตอนนั้นเป็นทีมที่เดินสายแข่ง LoL อยู่แล้ว ไม่ได้มีเงินเดือน เป็นแค่เด็กกลุ่มหนึ่งเท่านั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของผม แต่ก็ไปได้ไม่ดีหรอก เพราะยังไม่รู้ว่า ในการแข่งเราต้องทำอย่างไร”

หลังได้ลิ้มลองการแข่งขันบนสนามจริว ม่อน เริ่มรู้สึกสนุก และมีไฟกับการแข่งเกมมากขึ้น ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 โอกาสที่จะก้าวไปอีกขั้นก็มาถึง เมื่อทีม BKT ซึ่งเป็นทีม LoL ชักชวนเขาไปร่วมทีม ครั้งนี้มีเงินเดือนให้ แต่มีเงื่อนไขคือ เขาต้องดร็อปเรียน หากเลือกเส้นทางนี้

ดร็อปเรียนไปเล่นเกม

เดิม ม่อน เป็นคนกรุงเทพมหานคร แต่เดินทางไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ที่จังหวัดเชียงใหม่ หากตัดสินใจตกลงตามคำชวน BKT เขาต้องดร็อปเรียน และเดินทางไกลกลับมากรุงเทพฯ เพื่อแข่งเกม

ด้วยความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อาจสร้างความกังวลใจให้บางคน แต่สำหรับ ม่อน เขาตอบตกลงตามคำชักชวนโดยไม่ต้องไตร่ตรองให้เสียเวลา แม้ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

“ตอนนั้นผมตัดสินใจตอบตกลง เพราะอยากไปมาก ไม่ต้องถามที่บ้านด้วย” ม่อน เล่าถึงการตัดสินใจที่ทำให้เขาสัมผัสกึ่งอาชีพนักกีฬาอีสปอร์ตครั้งแรก

“ตอนบอกพ่อแม่เขาก็ไม่เข้าใจหรอกว่าคืออะไร ผมบอกเขาว่า จะดร็อปเรียนไปแข่งเกม เขาก็ถามนะว่า เราจะไม่เรียนแล้วเหรอ ผมเลยเปรียบให้เขาเห็นว่ามันเหมือนกีฬาหมากรุกไม่ได้ใช้ร่างกาย แต่ใช้ความคิด และอธิบายว่า เราได้เงินเท่านี้นะ ผมสัญญากับเขาจะทำให้จบในหนึ่งปีแล้วจะกลับมาเรียนต่อให้”

“ผมบอกที่บ้านว่าขอทำตรงนี้ก่อนไม่รู้ว่าโอกาสแบบนี้จะมาอีกไหม เดี๋ยวจะเฉิดฉายให้ดู เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ญาติๆ เขาจะห่วงไม่อยากให้ไป แต่บางคนก็สนับสนุน ผมเป็นคนเรียนไม่เก่งแค่พอเอาตัวรอดได้ เราไม่ทิ้งเรียนอยู่แล้ว แต่ก็ทำสิ่งที่ชอบไปด้วย พ่อแม่ไม่ได้คาดหวังให้เราโตมาต้องเป็นอะไร เขาหวังแค่ให้เราโตมาเป็นคนดีเท่านั้น”

“ผมแยกแยะได้ว่าอะไรดีไม่ดี สิ่งที่ผมเลือกมันไม่ใช่ไม่ดี มันเหมือนเราไปฝึกงานหาประสบการณ์ด้วยผมเลยตัดสินใจว่าจะทำ ผมมองว่าการแข่งเกมคือสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้ว ณ ตอนนั้น พอเริ่มจริงจัง ผมรู้สึกว่า ดูเท่ขึ้นนะ จากเด็กที่เล่นเกมไปวันๆ แต่วันหนึ่งได้มาอยู่ในแคมป์จริงจัง เล่นเกมเท่าไหร่ก็ได้ตามต้องการ ผมเล่นวันละ 15 ชั่วโมง เล่นกับนอนมีสองอย่าง”

หลังเข้าทีม BKT ม่อน ได้รับประสบการณ์ใหม่ไม่ได้เล่นเกมไปวันๆ แต่เล่นอย่างมีเป้าหมาย ในหนึ่งวันเขาใช้เวลาอยู่กับเกม 15 ชั่วโมง แต่ชัยชนะหรือการได้แชมป์ไม่ใช่สิ่งที่เขาโฟกัสเป็นหลัก แต่การเรียนรู้ และเก็บประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดคือสิ่งที่เขาต้องการ

ช่วงเวลา 1 ปี กับ BKT ม่อน พัฒนาฝีมือมากขึ้น แต่ในแง่ความสำเร็จยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง เมื่อตลอดทั้งปี เขาได้เล่นไปเพียง 2 เกมเท่านั้น

“ตอนนั้นผมอาจเก่งขึ้นก็จริง แต่ช่วงเวลาแค่ 1 ปี มันไพอที่จะทำให้เราก้าวเป็นแนวหน้าของประเทศ ตอนนั้นผมเป็นแค่ตัวสำรอง ผมซ้อมมาทั้งปี แต่ได้ลงเล่นแค่สองนัด”

“แต่ผมมองว่า มันเป็นแค่การเก็บประสบการณ์ เพราะเรายังเรียนไม่จบ และทีมนี้เป็นทีมใหญ่คนคาดหวังเยอะด้วย”

จากโปร LoL นับหนึ่งกับ RoV

หลังจบ 1 ปี ม่อน เตรียมขึ้นเป็นตัวจริงของ BKT ทางต้นสังกัดอยากให้เขาอยู่ต่อ แต่เขาตัดสินใจปล่อยโอกาสทองเพื่อกลับไปเรียนต่อตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อแม่ และเป็นช่วงเดียวกับที่เขารู้จัก Realm of Valor หรือ RoV เกมมือถือที่กำลังมาแรง และเป็นเกมที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาในอนาคต

“ตอนนั้นผมมีโอกาสจะขึ้นเป็นตัวจริงของ BKT” ม่อน เล่าย้อนถึงช่วงเวลานั้น” เพื่อนในทีมกับต้นสังกัดก็อยากให้อยู่ แต่ผมยืนยันว่า อยากกลับเชียงใหม่ เพราะสัญญากับที่บ้านไว้ว่าจะเรียนต่อ ผมตัดสินใจไม่ยากนะ เพราะนอกจากคำสัญญาของที่บ้านก็มีปัญญาเรื่องแฟนด้วยเลยเลือกกลับไปเรียนต่อ”

“ผมเลิกเล่นเกมไปครึ่งปี เพราะอกหัก ตอนนั้นผมเฮิร์ทผมโทษว่า เกมคือสิ่งที่ทำให้ผมไม่มีเวลาให้เขา ตอนนั้นเลิกไปครึ่งปีเลย แต่กลับมาอีกทีก็เริ่มเล่น RoV เริ่มจากเพื่อนที่คณะชวนเล่น เราก็มีพื้นฐานจาก LoL มาแล้ว ฝีมือเลยค่อนข้างโดดเด่นในคณะ”

สัมผัสแรกกับ RoV เปลี่ยนความรู้สึกของ ม่อน ที่มีต่อเกม MOBA ด้วยรูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนเกมอื่นๆ จากคอมเปลี่ยนมาอยู่บนมือถือ , สกิลฮีโร่ , ระยะเวลาที่เล่น แต่ด้วยพื้นฐาน MOBA ที่มีจาก LoL อยู่แล้ว ทำให้เขาใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้ RoV

“RoV เล่นง่าย เมื่อก่อนเวลาผมเล่น LoL กว่าจะเล่นตัวหนึ่งให้เป็น ผมต้องฝึกเป็นเดือน แต่ RoV ลองเล่นสามตาก็เข้าใจแล้วว่าตัวนี้เล่นอย่างไร สกิลก็น้อยกว่าตัวเล่นง่ายกว่า มินิแมพเล็กกว่าจบไวกว่า”

“เราก็มีพื้นฐานจาก LoL มาแล้ว ฝีมือเลยค่อนข้างโดดเด่นในคณแต่ตอนนั้นผมยังไม่คิดว่าจะกลับไปถึงขั้นเกมเมอร์ เพราะกำลังยุ่งกับ วิทยานิพนธ์ ของมหาวิทยาลัย เลยไม่มีความคิดอื่นเข้ามา”

“พอเล่นจนเริ่มติด เราเริ่มทำอันดับแซงคนที่คณะไปเรื่อยๆ กลายเป็นท็อปของเซิร์ฟก็มีโอกาสเข้ามาอีกครั้ง” ม่อน เล่าต่อถึงวันที่เขาเตรียมกลับมาสู่วงการอีสปอร์ตอีกครั้ง ด้วย RoV

“ตอนนั้นมีคนทักมาชวนลองซ้อม ผมตอบตกลงเพราะอยากลองดู พอลองซ้อมแล้วเวิร์ก ก็เริ่มลงแข่งรายการแรกคือ Valor Tournament Season 1 จนเข้ารอบออฟไลน์ ตอนนั้นมี 1st eSport ติดต่อเข้ามาขอเป็นสปอนเซอร์ให้ทีม ผมเลยตกลงแล้วขอใช้ชื่อเขาเป็นชื่อทีม”

“1st eSport จึงเป็น RoV ทีมแรก และสปอนเซอร์แรกของผม”

หลังจากนั้นก้าวแรกในวงการ RoV ของ ม่อน ก็เริ่มต้นขึ้น…

แพ้จนทีมแตก

การฟอร์มทีม 1st eSport ม่อน ได้เดินสาย RoV เต็มตัว กระทั่งวันหนึ่ง FirstOne หรือ เนส – สรรเพชร มารัตน์ ที่ทั้งคู่ต่างรู้จักอยู่แล้ว ได้ชักชวนให้ ม่อน ย้ายไปร่วมทีม Mama Hexen ซึ่งถือเป็นโอกาสทอง เพราะมีตั๋วโควตาพิเศษใบสุดท้ายสำหรับหาผู้เล่นที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมศึกโปรลีกทันที

“ผมกับพี่เนส(FirstOne)รู้จักกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เขาบอกว่า หากผมตกรอบ Valor Tournament ให้มาอยู่ทีมเขา”

“ตอนนั้นเขาเริ่มแข่งเหมือนกัน มันคือตั๋วทองของผม ตัวผมย้ายได้อยู่แล้วไม่ผิดสัญญาอะไร เพราะเราไม่ได้ผูกมัดกับทางสังกัดไหน แต่ผมไม่ได้บอกเพื่อนในทีมหรอก ว่าตกรอบแล้วเราจะไป”

“แต่มันก็เป็นเรื่องที่ผมมารู้ตอนหลังว่า มีพี่คนหนึ่งเขายอมเล่นไม่ดีเพื่อให้เราย้ายไปเล่นโปรลีกกับ Mama Hexen…”

ท้ายที่สุดเขาตัดสินใจเลือกย้ายมาร่วมทีม Mama Hexen ที่นั่น ม่อน ได้สัมผัสความเข้มข้นการแข่งขัน RoV อีกระดับ แต่ในขณะที่เส้นทางกำลังไปได้สวย กลับต้องเจออุปสรรคถึงขั้นทีมแตก

จากล้มเหลวสู่เวทีนานาชาติ

“เราแพ้ Neolution Coolkidz ทำให้ทีมเราหลุดจากโปรลีก ส่วนทีมเขาได้เข้าแทน” ม่อน เล่าถึงความผิดหวังในวันที่ต้องหลุดจาก RoV โปรลีก ซ้ำร้ายเมื่อจบลงด้วยการยุบทีม

“หลังทีมแตกต่างคนต่างแยกย้าย ผมได้ไปอยู่ Diamond Cobra ครั้งนี้มีแคมป์ให้ซ้อมจริงจังขึ้น แต่ในโปรลีก ซีซั่น 2 ก็ยังทำไม่สำเร็จสักที เพราะจบแค่ที่ 6”

ผลงานในโปรลีกอาจผิดหวัง แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงาม เมื่อเวลาเดียวกัน ม่อน ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขัน Arena of Valor International Championship 2018 หรือ AIC 2018 ในฐานะสมาชิกทีม Toyota Diamond Cobra ซึ่งเป็นรายการใหญ่ที่สุดในชีวิตที่เขาเคยสัมผัส โดยประเทศเวียดนาม และไทย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ

“เรามีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในทีมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแข่งขัน AIC 2018 ตอนนั้นพวกผมเหมือนเด็กที่ความฝันเป็นจริง วันหนึ่งได้ไปแข่งเกมที่ต่างประเทศ”

โอกาสเข้าร่วมศึก AIC 2018 ม่อน ได้พบคู่แข่งฝีมือดีมากมาย Toyota Diamond Cobra เริ่มต้นไม่สวยเท่าไหร่ แต่ยังดีพอผ่านเข้ารอบ 8 ทีม ก่อนจะจบอันดับ 5 ร่วมของทัวร์นาเมนต์ แม้จะไปไม่ถึงแชมป์ แต่ก็มอบความทรงจำ และประสบการณ์ที่ดีให้เขา

หลังจบศึก AIC 2018 โอกาสวิ่งเข้าหา ม่อน อีกครั้ง เมื่อ Buriram United สนใจคว้าเขา และ isilindilz ไปร่วมทีม ประจวบกับสัญญา Diamond Cobra หมดพอดีทำให้ตัดสินเซ็นสัญญากับ ปราสาทสายฟ้า 

ก่อนเปิดศึก RoV Pro League Season 3 ทาง FirstOne ที่เพิ่งเป็นสมาชิกป้ายแดงของ Buriram United และเป็นอดีตเพื่อนร่วมทีม Mama Hexen เคยให้สัญญาว่า วันหนึ่งจะดึงเขา และ isilindilz กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง จึงได้ชักชวนทั้งคู่เข้าร่วมทัพ ปราสาทสายฟ้า 

บุรีรัมย์ กลายเป็นทีมรวมดาว RoV ชั้นนำของเมืองไทยทันที เมื่อเปิดตัว 7 ผู้เล่นใหม่เข้าสู่ทีมนำโดยโปรเพลย์เยอร์จาก Bacon และมี ม่อน เป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม

…ต่อจากนั้นคือประวัติศาสตร์ของเขา กับ Buriram United 

ร่วมทัพ ปราสาทสายฟ้า

“ช่วงแรกที่ไปบุรีรัมย์กระแสแรงมาก เพราะมีการดึงตัวผู้เล่นมาจาก Bacon เพราะเขาเป็นทีมดัง แต่ถ้าพูดถึงความกดดันสำหรับผมถือว่าน้อย” ม่อน เล่าย้อนถึงวันแรกที่ร่วมทีม Buriram United

ปราสาทสายฟ้า สร้างผลงานไร้พ่ายในฤดูกาลปกติของ RoV Pro League Season 3 แต่กลับตกม้าตาย คว้าเพียงอันดับ 3 ในรอบแกรนด์ไฟนอล หลังพ่าย Bazaar Gaming ไป 2-3 ยิ่งกว่านั้นกลายเป็นข่าวช็อกแฟนเกม เมื่อทีมตัดสินใจยกเลิกสัญญา Cherie, MeMarkz, ReMix และ JameCo ผู้เล่นจาก Bacon หลังตรวจพบว่า มีการเซ็นสัญญาซ้อนกับบริษัทอื่น ทำให้ทีมต้องปรับทัพครั้งใหญ่

จากทีมรวมดารา RoV ของไทย Buriram United ต้องดึงผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา ไม่ต่างจากการนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง เพราะดีกรีโปรเพลย์เยอร์ , ความเข้าใจ การทำงานเป็นทีม ต้องเริ่มใหม่เกือบทั้งหมด

“ตอนนั้นคนให้ความสนใจฝั่ง Bacon ที่เป็นทีมดังมากกว่า ความกดดันทางผมเลยมีไม่มาก แต่หลังหมดยุค Bacon ตอนนั้นเริ่มกดดันมากขึ้น เหมือนไฟมันเริ่มฉายมาที่พวกเรา”

“จากที่ทีมเราเหมือน เรอัล มาดริด ยุคกาลาติกอส กลายเป็นต้องไปดึงใครมาก็ไม่รู้ เพราะต้องหาผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมหลายคน แต่คนที่เราหามากลายเป็นเพชรเม็ดงามทุกคน เรื่องความกดดันลดลงไปด้วย เพราะเราใช่ทีมที่มีแฟนคลับเยอะเหมือนตอน Bacon ทุกคนในตอนนั้นทุ่มเทมากเพื่อจะคว้าแชมป์ซีซั่น 4 ให้ได้”

เข้าสู่ RoV Pro League Season 4 Buriram United เผยไลน์อัพใหม่ โดยมี FirstOne นำทัพ พร้อมสมาชิกที่ประกอบด้วย ม่อน(Summer), Isilindilz, Nutalomlok, Taotao, Bluenoping และ Overfly นอกจากนี้ยังดึงตัว Che-Wei “AA” Chang อดีตโค้ช Chinese Taipei Wildcard ชุดแชมป์โลก AWC 2018 มาเป็นกุนซือทีมเพื่อเป้าหมายสู่ทำเนียบแชมป์โปรลีก

เขย่าประวัติศาสตร์ RoV เมืองไทย

ด้วยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว Buriram United กลับมาเป็นทีมเต็งแชมป์อีกครั้ง

แต่แล้วช่วงต้นฤดูกาล ผลงานของทีมกลับไม่เป็นไปตามคาด ส่วนโค้ชชาวไต้หวันตัดสินใจโบกมือลาทีมกลางคันด้วยเหตุผลส่วนตัว Buriram United ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากอีกครั้ง…

“ผมมองว่า สไตล์ไต้หวันของโค้ช AA ไม่ค่อยเข้ากับคนไทยเท่าไหร่ เพราะเขาจะเน้นเล่นปลอดภัยไว้ก่อน แต่คนไทยว่ากันภาษาบ้านๆคือบ้าบวก ชอบเล่นเกมเร็วฉวยโอกาส ไม่ใช่ว่าใครไม่ดีนะ แค่สไตล์ของทีมกับโค้ช AA อาจไม่เข้ากัน”

อย่างไรก็ตาม “โค้ชป้อม” จักรพล ป้อมปราณี หรือ “MistGunz” กลับมารับตำแหน่งโค้ชของทีม กลับช่วยกอบกู้สถานการณ์อีกครั้ง ก่อนพาทีมผงาดคว้าแชมป์ RoV Pro League Season 4 สมัยแรก อย่างยิ่งใหญ่ โดยมี ม่อน เป็นส่วนสำคัญกับความสำเร็จครั้งนี้

“ตอนนั้นที่ได้แชมป์ผมถามทุกคนว่า ที่แชมป์นี้มันเป็นแชมป์ของผมจริงไหม” ม่อน กล่าวด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อกับความสำเร็จตรงหน้า นี่คือแชมป์ที่เขารอมานาน อีกประการหนึ่งช่วงครึ่งซีซั่นหลังเขาตกเป็นสำรองของทีมค่อนข้างบ่อย กลายเป็นความสับสนแม้จะทำสำเร็จตามเป้าหมายก็ตาม

“ตอนนั้นผมเล่นตัวจริงครึ่งซีซั่น ส่วนครึ่งหลังผมเป็นตัวสำรอง พอผมไปถามทุกคนแบบนั้น ทุกคนก็บอกเหมือนกันว่า ก็มันมีมึงเล่นตั้งครึ่งหนึ่งแล้วทำไมจะไม่ใช่แชมป์ของผม ผมดีใจนะ มันเป็นแชมป์แรกในระดับเมเจอร์ วันที่ได้แชมป์ ผมหายเหนื่อยกับสิ่งที่ทุ่มเทมาตลอด”

“มองย้อนกลับไปตอนนั้นไม่ว่าผมจะเลือก Buriram United หรือไปต่อ Diamond Cobra มันก็เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตทั้งคู่ เพราะ Diamond Cobra ได้แชมป์ซีซั่น 3 ส่วนซีซั่นถัดมา ผมก็ได้แชมป์กับ Buriram United ไม่ว่าอย่างไรผมพอใจกับการตัดสินใจของผมอยู่แล้ว”

ช่วงปี 2020 โควิด-19 ระบาดหนักทั่วโลก ส่งผลกระทบถึงวงการอีสปอร์ต ที่ทำให้การแข่งขัน RoV Pro League 2020 Summer ถูกจัดในรูปแบบออนไลน์เพื่อป้องกันการระบาด แต่ ม่อน และ Buriram United ยังรักษาฟอร์มเก่งไว้ได้ เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะ Bazaar gaming ในรอบแกรนด์ไฟนอลด้วยสกอร์ 4-2

ม่อน ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ช่วยพา Buriram United ขึ้นแท่นทีมแรกที่คว้าแชมป์ RoV Pro League 2 สมัยติด แต่เป็นการคว้าแชมป์ที่ให้ความรู้สึกแปลกไปจากเดิม

“แชมป์ครั้งที่สองด้วยช่วงโควิดต้องแข่งที่แคมป์ มันไม่มีเสียงเชียร์ ไม่มีถ้วยให้เราเห็นด้วยซ้ำ” ม่อน เล่าด้วยความผิดหวังเพราะแม้มุ่งสู่แชมป์ระดับประวัติศาสตร์ RoV ประเทศไทย แต่กลับไร้บรรยากาศคึกคักเหมือนที่เคยเป็น

“มันทำให้รู้สึกแค่ว่า เออเราเนี่ยเป็นแชมป์ก็แค่นั้น รู้กันในทีม ทั้งที่ปกติได้แชมป์มาก็มีคนมาขอถ่ายรูป แต่นี่ไม่มีอะไรเลย ความรู้สึกมันไม่ใช่ แต่มันก็ดีใจที่เราทำสำเร็จอีกครั้ง” 

อย่างไรก็ตามเมื่อมองย้อนกลับไปตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่วงการ RoV ม่อน ยังภูมิใจ หลังก่อนหน้านี้ต้องฝ่าฟันผ่านความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งวันหนึ่งสามารถเป็นแชมป์เหนือแชมป์ระดับประเทศได้สำเร็จ 

“สำหรับผมตอนนั้นถือว่า เดินมาไกลนะ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้แชมป์ตั้งแต่ถ้วยแรกด้วยซ้ำ เหมือนอารมณ์เป็นตำนานได้แชมป์สองสมัยติด” ม่อน กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

สู้เพื่อคนบนฟ้า

ย้อนกลับไปในการแข่งขัน RoV Pro League 2020 Winter ที่พบ Neolution E-Sport เดิมทีทีมเลือก Jommy ลงมาทำหน้าที่แทน ม่อน เนื่องจากเพิ่งสูญเสียคุณพ่อ แต่เขากลับสวมหัวใจแกร่งลงเล่นด้วยัวเอง แม้ขะยังเศร้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม

“ตอนคุณพ่อเสียทุกอย่างมันเร็วมาก ตอนนั้นผมยังสตรีมเกมอยู่เลย เหมือนยังช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้น” ม่อน ย้อนความหลังในเหตุการณ์ที่เสียคุณพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ

“พ่อไม่เคยว่าผมเวลาเล่นเกม เขาสนับสนุนผมตลอดตั้งแต่แรก วันที่พ่อเสียมันเป็นแมตช์เปิดลีกนัดแรก ทีมให้ผมพัก แต่ผมคิดว่า มันเป็นแมตช์ที่ผมต้องลงเล่นเพื่อให้พ่อได้ดู”

“เกมนั้นมันควรเป็นแมตช์สุดท้ายที่ผมจะเล่นให้พ่อดูจากบนฟ้า ให้เขารู้ว่า ถึงเขาจะไม่อยู่แล้ว แต่ผมยังอยู่ได้ และแข่งได้ไม่ต้องเป็นห่วงผม”

ม่อน ช่วยทีมเอาชนะ Neolution E-Sport 3-1 เปิดฤดูกาลใหม่สวยหรู แต่สุดท้าย Buriram United กลับเสียแชมป์ให้ Talon Esports ที่ผลงานกำลังร้อนแรง และเบียดคว้าแชมป์ไปได้ ด้วยสกอร์ 4-1 จากนั้นเส้นทางของเขาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อต้องอำลา Buriram United 

แน่นอนว่าเขายังอยู่ในแผนทำทีม เพียงแต่สถานะ ม่อน ในตอนนั้นมีผู้เล่นตำแหน่งออฟเลนเดียวกันกับเขาถึง 6 คน ซึ่งตัวเขาเองต้องการยืนหนึ่งในตำแหน่งนี้เท่านั้น จึงทำให้ตัดสินใจย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่

และ EVOS Esports คือจุดหมายปลายทางของเขา…

นับหนึ่งที่ EVOS

“ผมบ้าฟุตบอลเลยอยากเป็นผู้เล่นตำนานของทีม มีความฝันอยากรีไทร์เสื้อกับบุรีรัมย์อะไรแบบนั้น แต่เอาความจริงก็ไม่ได้” ม่อน เปรียบเทียบความรู้สึกของเขาที่มีต่ออดตต้นสังกัด 

“บุรีรัมย์ มอบความเป็นมืออาชีพให้ผม ได้รู้จักแบ่งเวลามีวินัยแบบมืออาชีพ สิ่งที่ได้จากบุรีรัมย์สอนให้เราไปอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ผมรักบุรีรัมย์ แต่ผมต้องการหาทีมที่เชื่อในตัวเรา ต้องมีเราคนเดียวในตำแหน่งนั้น ซึ่ง EVOS ตอบรับข้อตกลงตรงนั้นได้” 

ขณะนั้น ทัพเสือขาว เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเสียผู้เล่นฝีมือดีอย่าง HAK และ Rush สองโปรเพลย์เยอร์ชาวเกาหลีใต้ที่วางมือจาก RoV รวมถึง Kssa ,Nt และ Nornun ที่ย้ายออกจากทีม การย้ายสู่ EVOS ของ ม่อน ไม่ต่างจากเริ่มนับหนึ่งอีกครั้ง ที่ต้องฝึกฝนอย่างหนักกับทีมใหม่เพื่อเตรียมพร้อมลุยศึก RoV Pro League 2021 Summer

“ช่วงแรกกับ EVOS อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะไลน์อัพของเรามาจากต่างทีม เรามาจากทีมที่มีแผนการเล่น เลยต้องช่วยดูภาพรวมของทีมด้วย ทำให้ผมมีหลุดโฟกัสตัวเองไปเหมือนกัน”

“แต่ตัวผมคิดว่า ผมเริ่มแก่แล้วเหมือนกัน ก็จะเอาประสบการณ์ที่มีทั้งหมดนี่ล่ะมาสอนน้องๆ ให้พวกเขาได้พัฒนาฝีมือเพื่อวันหนึ่งจะก้าวมาเป็นแบบเรา”

“จากช่วงแรกที่ยังไม่เข้ากัน เพราะต่างคนต่างมา แต่ตอนนี้การเล่นเป็นทีมก็พัฒนามาเรื่อยๆจากตอนแรกสื่อสารอะไรไปอาจมีไม่เข้าใจ แต่ผ่านไปหนึ่งเดือนทุกคนสามารถรับรู้ได้ว่าต้องทำอะไร โดยแทบไม่ต้องบอกกัน ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ เล่นเข้ากันมากขึ้นครับ”

ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้ ม่อน เติบโตขึ้น และพร้อมจะถ่ายทอดสิ่งที่เคยเจอให้กับรุ่นน้องในทีมอีกด้านหนึ่งเขายังสตรีมกับค่าย online station ผ่านเพจ Summer BRUTD ด้วยหลายบทบาทหน้าที่ ทำให้เขาต้องรู้จักแบ่งเวลาเพื่อบาลานซ์ทั้งสองอย่างให้ควบคู่กันไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเซ็นสัญญากับ online station มีส่วนช่วยพัฒนาได้ไม่น้อย

“ผมทำงานหลายอย่างต้องลงแข่งเป็นโปรเพลย์เยอร์ ต้องคอยฝึกซ้อม ไหนจะสตรีมอีก ก็มีพี่โจ้ผู้จัดการ ที่คอยแนะนำเรื่องแบ่งเวลาทำให้เราสามารถทำแต่ละอย่างได้ดีขึ้น”

“พอมีคนคอยแนะนำก็จะได้เปรียบกว่าคนอื่นๆอยู่แล้ว ผลที่ได้กลับมามีคนติดตามผมเยอะขึ้น ตอนแรกคนตามเพจไม่เยอะแค่หมื่นต้นๆ แต่ตอนนี้มีแฟนคลับติดตามเยอะกว่าเดิม”

พิสูจน์ตัวเอง

ตลอดเส้นทางสายเกม ม่อน เริ่มจากบทตัวสำรอง ผ่านทั้งความล้มเหลว และความสำเร็จ เมื่อมองย้อนกลับไป เขายังคงภาคภูมิใจกับเส้นทางที่ตัวเองเลือก ฝ่าฟันอุปสรรคจนทำความฝันเป็นจริงได้ในที่สุด

แต่เขายังกระหายความสำเร็จต่อไป แม้หนทางข้างหน้าจะยาก แต่เขาจะไม่หยุดเพียงเท่านี้แน่นอน

“จริงๆผมไม่ได้หลงใหลในตัวเกมหรอก แต่ผมหลงใหลในการเอาชนะ ผมชอบเวลาที่ชนะ แต่ไม่ชอบเวลาผมแพ้”

“ผมมองว่า หลังจากนี้มันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองของทุกคนใน EVOS อย่างผมเองก็โดนด่าเยอะ หรือ BlueNP ที่หลายคนบ่นว่า เมื่อไหร่จะเอาน้องลงหรือลูกทีมคนอื่นๆต่างก็โดนดูถูกกันมาบ้าง ตรงนี้มันคือการพิสูจน์ตัวเองหลายเป็นแพชชั่นขับเคลื่อนตัวเองต่อไป”

“ทุกคนในทีม EVOS มีศักยภาพอยู่แล้วครับ แค่ต้องมีคนดึงมันออกมา เราต้องพยายามดึงศักยภาพของแต่ละคนออกมาให้ได้”

“ผมมองว่า หากเราเข้าเพลย์ออฟได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของเราอยู่แล้ว ถึงตอนนั้น ถ้ามีลูกบ้าพอแชมป์มันจะเป็นใครก็ได้” ม่อน กล่าวปิดท้าย

อ่านเพิ่ม: THE MVP : ทีมยอดเยี่ยม RoV Pro League 2021 Summer week 1