ซึ่งในช่วง 2-3 ปีหลัง KONAMI ค่ายเกมผู้ผลิตเกมฟุตบอลจากญี่ปุ่นก็ทำได้น่าประทับใจอยู่หลายจุด ทั้งรูปแบบเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์หรือความสมจริงต่างๆ ขณะที่สโมสรและลิขสิทธ์ต่างๆก็ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก
และในเกมภาคล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า eFootball PES 2020 ก็ได้ยกระดับแฟรนไชส์นี้ขึ้นไปอีกขั้น แม้จะมีเสียงบ่นจากคอเกมมากประสบการณ์ของเกมนี้อยู่บ้าง แต่ด้วยรูปแบบที่สมจริงขึ้นกว่าครั้งไหนๆ นี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งแฟนบอลสายเกมเมอร์หันมาชื่นชอบในเกมซี่รี่ย์นี้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลของ PES หรือ FIFA ก็ตาม
ระบบเกมเพลย์ที่สมจริง
eFootball PES 2020 ดูแตกต่างจากเกมภาคที่แล้วค่อนข้างมากพอสมควร โดยการผสมผสานกับระบบฟีเจอร์ใหม่ๆในสนามแข่งขัน เช่นเดียวกับ อนิเมชั่นการเคลื่อนรูปแบบใหม่ๆ และ เพิ่มความสมดุลให้กับเกมการเล่น โดยได้ อันเดรส อิเนียสต้า ตำนานนักเตะทีมชาติสเปน และนักเตะของ วิสเซล โกเบ สโมสรในศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น มาเป็นที่ปรึกษาเรื่องเกมเพลย์
ผลลัพธที่ออกมาทำให้ PES ภาคล่าสุดมีความสมจริงมากขึ้น แถมยังมีความท้าทายในสไตล์การเล่นฟุตบอลแบบของจริงๆ โดยไม่มีต้องเร่งรีบจู่โจ่มหรือใช้การเข้าทำที่ดูเว่อร์วังเหนือมนุษย์เกินไป
ยกตัวอย่างเช่น การจ่ายบอล ที่ได้รับการปรับปรุงความแม่นยำ ซึ่งมีผลทำให้จ่ายบอลพลาดด้วย ถ้าหากนักเตะของเราไม่อยู่ในท่าทางที่พร้อมจะส่งบอล และจะทำให้บอลที่ออกจากปลายสตั๊ดของผู้เล่นเบี้ยวออกจากทิศทางที่ควรจะเป็น นั่นทำให้คุณต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีว่าจะออกบอลเพื่อขึ้นเกม หรือสร้างโอกาสทำประตูในรูปแบบไหน
ในส่วนของลูกบอลยังเคลี่อนที่และเป็นไปตามบริบทอย่างที่มันควรจะเป็นมากขึ้นในภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกที่หมุนอย่างรวดเร็ว หรือ ปั่นโค้งๆ เมื่อนำมารวมกับกาท่าทางการเคลื่อนไหวของนักเตะใหม่ๆ ทำให้เราสามารถทดลองการทำเกมบุกได้หลากหลายรูปแบบ บอลที่จ่ายออกไปจะโค้งมากขึ้น, ลูกครอสจากด้านข้างจะพุ่งมากขึ้น รวมไปถึงคุณสามารถทำประตูได้จากลูกยิงไกลสุดสวย (ซึ่งเหมือนจริงมากๆ)
บางครั้งคุณอาจจะหงุดหงิดกับ AI กรรมการในบางจังหวะ ที่เป่าฟาวล์หรือแจกใบง่ายเกินไปหน่อย แต่ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณมีแรงกระตุ้นในการสร้างสรรค์เกมไปยังแดนคู่แข่งมากขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงที่เกม DEMO มาให้ทดสอบเล่น บางครั้งเหล่าปัญญาประดิษฐืในเกมจะขาดการตอบสนองไปบ้างเป็นครั้งคราว อย่างเช่นไม่สามารถตัดบอลหรือจ่ายบอลขึ้นหน้าไปได้ แต่ทั้งหมดนี้ได้รับการปรับปรุงมากขึ้นและเห็นได้น้อยลงในเกมเต็ม
และสิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เกมเพลย์ของ PES 2020 น่าสนใจมากกว่าภาคก่อนหลายเท่าตัว
ลิขสิทธิ์ที่จัดเต็มกว่าครั้งไหนๆ
กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ววงการลูกหนัง เมื่อ KONAMI คว้าลิขสิทธ์ ยูเวนตุส สโมสรดังจากอิตาลี แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งใน PES 2020 ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในจุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นสนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ที่สมจริงทุกกระเบียดนิ้ว, หน้าตาของนักเตะที่สมจริงจัดๆด้วยเทคโนโลยีสแกนใบหน้า
หรือทีมอื่นๆที่ได้ลิขสิทธ์มาใหม่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ อัลลิอันซ์ อารีน่า ได้แบบเต็มๆในเกมนี้ แถมยังมาพร้อมกับภาพมุมสูงที่แสดงให้เห็นถึงทิวทัศน์นอกรังเหย้าของพวกเขา หรือภาพคัตซีนในอุโมงสนาม อีกทั้งยังมีการปรับปรุงแสงในสนามแข่งและหญ้าอีกด้วยแย่หน่อยที่ในเรื่องเสียงกลับทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก เหล่าเสียงบรรยายเกมจาก จอห์น แชมเปี้ยนส์ และ จิม เบคกลิน ยังคงซ้ำซากและล้าสมัย (ขนาดเจ้าตัวยังรู้ว่าเสียงพากษ์มันแย่แค่ไหน) แต่ในทางกลับกัน กลุ่มแฟนบอลในสนามต่างๆก็คอยสร้างบรรยากาศได้ดีและเป็นเอกลักษณ์มากๆ (โดยเฉพาะสโมสรในอเมริกาใต้)
อีกหนึ่งการปรับปรุงที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดคือ การเพิ่มมุมกล้องในการเล่น ซึ่งทำให้มีมุมมองที่สมจริงราวกับว่าเรากำลังดูการแข่งขันผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ (หรือมือถือ) และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามถานการณ์ แต่คงใช้เวลาปรับตัวซักหน่อย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณชินกับมุมกล้องเหล่านี้แล้ว จะทำให้คุณเห็นภาพรวมของสนามมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
มาสเตอร์ ลีก ที่เปลี่ยนไป
โหมดออฟไลน์ส่วนใหญ่ของ eFootball PES 2020 ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขมากนัก ยกเว้นโหมด มาสเตอร์ลีก หรือโหมดคุมทีมที่ได้ความนิยมมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ในภาคนี้
ฟีเจอร์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโหมดนี้คือการเพิ่มเติมคัตซันเข้ามา ทั้งภาพการพบปะสื่อต่างๆงานแถลงข่าวก่อนเกมนัดสำคัญ ซึ่งคำตอบที่คุณเลือกตอบนักข่าวอาจส่งผลต่อภารกิจในฤดูกาลนั้น หรือ อาจส่งผลต่อขวัญกำลังใจนักเตะในทีม แต่น่าเสียดายที่ฉากเหล่านั้นดันเป็นส่วนประกอบเล็กๆในโหมดนี้ และไม่ได้มีผลอะไรนักในระยะยาว
อย่างไรก็ดี PES 2020 ก็ยังมอบความสดใหม่ให้กับโหมดนี้อยู่พอตัว เช่นอย่าง หน้าต่างเมนูแบบใหม่และการสามารถออกแบบโลโก้สปอนเซอร์ได้ นอกจากนี้การซื้อขายนักเตะยังมีความสมจริงและสมเหตุสมผลมากขึ้น ดังนั้นการเสริมแข้งใหม่หรือปล่อยนักเตะออกจากทีมจะทำให้ผู้เล่นต้องคิดคำนวนเรื่องค่าใช้จ่ายและรายละเอียดต่างๆของสัญญาให้ถี่ถ้วนเลยทีเดียว และต่อให้เราทุ่มเงินจ่ายค่าฉีกสัญญาไป ก็ไม่ได้หมายความว่านักเตะของทีมอื่นจะย้ายมาง่ายๆด้วย ถ้าหากเขาคิดว่ารายละเอียดสัญญาไม่โอเคหรือโอกาสลงสนามมีไม่เพียงพอ
และที่พิเศษกว่าภาคไหนๆคงจะหนไม่พ้นการที่คุณสามารถใช้นักเตะระดับตำนานในวงการลูกหนังเข้ามาคุมทีมได้ ไม่ว่าจะเป็น ดีเอโก้ มาราโดน่า, โยฮัน ครัฟฟ์, โรมาริโอ้, ซิโก้ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถสร้างและออกแบบกุนซือได้เองตามต้องการ เนื่องจากระบบคัตซีนที่ทางผู้ผลิตได้วางรูปแบบไว้แล้วนั่นเอง
ระบบออนไลน์
ในการเล่นแบบออนไลน์นอกจากจะมีทั้งเล่นแบบลีก หรือ Co-op ร่วมมือกัน แบบภาคก่อน ในปีนี้ KONAMI ได้เพิ่มโหมดที่เรียกว่า ‘Matchday’ ซึ่งจะจัดขึ้นตามการแข่งขันจริงในช่วงนั้น โดยกำหนดให้ผู้เล่นเลือกฝั่งการเล่น (เป็นเจ้าบ้านหรือทีมเยือน) และจะได้รับแต้มเมื่อเข้าแข่งขัน นอกจากนี้ในช่วงท้ายของกิจกรรมนี้ในแต่ละสัปดาห์จะมีการคัดเลือกผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเพื่อแข่งขันในนัดชิงด้วย
ถือเป็นโหมดการเล่นที่สนุกใช้ได้เลย (โดยเฉพาะหากคุณเป็นแฟนของโหมด myClub) ด้วยค่าเงินในเกมทั้ง GP, เหรียญ (Coins) และการใช้แมวมองหานักเตะ ก็จะได้รับมากขึ้นหากคุณเล่นในโหมดนี้เป็นเวลานาน แต่ทว่าโหมด Matchday ก็เหมือนดาบสองคม เพราะแม้มันจะเป็นการแข่งขันที่สนุกและให้รางวัลตอบแทนได้ในระดับที่ดี แต่มันก็เป็นโหมดที่มีช่วงเวลาจำกัด ทำให้ผู้เล่นในเกมก็ต้องมีเวลาเหลือเฝือให้ช่วงสุดสัปดาห์เช่นกันถึงจะใช้เวลากับโหมดนี้ได้เต็มที่
ส่วนภาพรวมของ myClub แม้จะไม่ได้มีการเพิ่มเติมรายละเอียด,หน้าตาอินเตอร์เฟส หรือชุดแข่งแบบพิเศษมา แต่มันก็เป็นโหมดที่ผู้เล่นอาจจะใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงเลย (แม้จะเท่ากับโหมดออฟไลน์ก็ตาม)
อย่างไรก็ตาม โหมดออนไลน์ของ PES มักจะมีปัญหาอยู่พอสมควร ทั้งในภาคก่อน หรือ ภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพช้าหรือเกมแล็กเมื่อเล่นในทัวร์นาเมนต์หรือแบบ Co-op หากคุณเจอกับคู่แข่งที่อยู่ไกลจากภูมิภาคของตนเอง แต่อย่างน้อยในปีนี้คุณก็สามารถระบุค่าสัญญานของผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อช่วยขจัดปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ และช่วยมอบประสบการณ์ในการเล่นโหมดนี้ให้ราบรื่นขึ้น
บทสรุป
โดยรวมแล้ว eFootball PES 2020 มอบประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมและสมจริงมากกว่าภาคก่อนหน้านี้ทั้งหมด ทั้งการปรับปรุงการเล่นเกมให้หลากหลายขึ้นซึ่งช่วยให้เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในการเล่นได้อย่างมาก ขณะที่ลิขสิทธ์ใหม่ๆจากสโมสรดังหรือลีกบางประเทศและการปรับปรุงด้านภาพก็ช่วยดึงดูดความสนใจให้กับแฟนหน้าเก่าและใหม่ได้หลายเท่าตัว
แม้จะยังมีปัญหาบางอย่างที่ต้องแก้ไข ทั้งฟีเจอร์บางอย่างที่ดูเก่าหรือล้าสมัยไป, AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ในเกมที่ขาดการตอบสนองไปบ้างในบางจังหวะการเล่น แต่นอกจากนี้ KONAMI ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม และเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลของค่ายนี้ หรือ ค่ายอื่น ก็สามารถสนุกสนามไปกับรูปแบบการเล่นที่สมจริงและสวยงามของเกมลูกหนังภาคใหม่นี้อย่างแน่นอน
ข้อดี
- เกมเพลย์ในสนามสนามดูลื่นไหลและสมจริงมากขึ้น
- สไตล์การเล่นที่หลากหลายมากขึ้นและการทำประตูที่ดูใกล้เคียงกับฟุตบอลจริงๆ
- การเล่นเกมรับที่ได้รับการปรับปรุง ทั้งด้านกายภาพของนักเตะและอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวใหม่ๆ
- AI คู่แข่งที่มีแผนการเล่นและแท็คติกที่หลายหลาย ทำให้สนุกมากขึ้นในการเผชิญหน้ากัน
- การเล่นที่ช้าลง และ บริบทของนักเตะที่ส่งผลต่อความแม่นยำในการส่งหรือยิงประตูที่ชัดเจน
ข้อเสีย
- AI ที่ขาดการตอบสนองในบางจังหวะ เช่นการตัดบอล หรือรับส่งบอล
- กรรมการยังไม่มีความแน่นอน และแจกใบง่ายเกินไปในบางจังหวะ
- คำตอบต่างๆในคัตซีนไม่ส่งผลอะไรมากนักในโหมดมาสเตอร์ลีก
- โหมดออนไลน์ที่ยังมีจุดต้องปรับปรุง
อ้างอิง
- https://www.fourfourtwo.com/features/pes-2020-review-new-features-master-league-online-myclub-licenses
- https://metro.co.uk/2019/09/12/efootball-pro-evolution-soccer-2020-review-joy-play-turning-stale-10730044/
- https://www.gamespot.com/reviews/efootball-pes-2020-review-the-beautiful-game/1900-6417297/