ในวัย 17 ปี อาจเป็นช่วงอายุที่หลายคนกำลังเคร่งเครียดเรื่องเรียนอย่างหนักเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล้าที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง ก่อนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วบนหนทางที่เลือก
“เต้” พสุ เย็นสบาย หรือ Erez โปรเพลเยอร์ RoV ของ dtac x Talon คือคนที่กล่าวถึง เมื่อปัจจุบันเขาเป็นทั้งแชมป์โปรลีกของไทย และแชมป์โลก RoV ในรายการ Arena of Valor World Cup 2021
แต่เดิมทีความฝันของเขาอยากเป็นแค่สตรีมเมอร์เท่านั้น และเป้าหมายโปรเพลเยอร์ไม่เคยอยู่ในความคิด แต่อะไรเขาจึงเลือกเบนเข็มสู่บทบาทผู้เล่น และเหตุใดเขาจึงประสบความสำเร็จบนจุดสูงสุดของ RoV ตั้งแต่อายุน้อยในระยะเวลาเพียง 2 ปี ร่วมหาคำตอบกับ One Esports ไปพร้อมกัน
เด็กร้านเกม
ช่วงเวลาในวัยเด็กของ เต้ ต้องอยู่กับเกมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทำให้เขาต้องอาศัยรออยู่ที่ร้านเกมคอมพิวเตอร์ของอาแท้ๆ ที่เปิดกิจการใกล้บ้าน ทำให้ เต้ ได้คลุกคลีกับเกมที่อยู่ด้วยกันแทบทุกเวลา
“ผมเริ่มเล่นเกมตั้งแต่ประมาณป.4 ตอนนั้นคุณอาเปิดร้านเกม บ้านผมไม่มีคอมพิวเตอร์ เวลานั่งรถตู้กลับ มาจากโรงเรียน ผมจะลงร้านเกมของอาเหมือนเฝ้าร้านให้เขาด้วย” เต้ เท้าความวัยเด็ก
“ผมกลับมาถึงร้าน 6 โมงเย็นก็จะเล่นถึง 3-4 ทุ่มเพื่อรอแม่เลิกงาน แต่วันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะไปเล่นตั้งแต่เช้าช่วง9 โมง”
จากการที่คุณอาเปิดร้านเกม ทำให้เขาได้เล่นเกมหลายแนวไม่ว่าจะเป็น Shooting หรือ MOBA โดยเฉพาะ Dota รวมถึง Heroes of Newerth(HoN) ที่ทำให้เขาชื่นชอบเป็นพิเศษ และทำให้เขาสนใจรูปแบบเกม MOBA
“ตอนแรกผมเล่น Point Blank(PB) ก็เล่นไปเรื่อย Tales Runner ก็เล่นแล้วก็มี Dota ตอนนั้นเล่นกับคนในร้านที่เป็นโตกว่า ผมเล่นไม่เป็นหรอกอาศัยเล่นมั่วๆเอา แต่เขาไม่ได้เล่นซีเรียสอะไร เน้นเอาสนุกมากกว่า”
“ผมชอบในเกม MOBA รู้สึกสนุกก็เล่นมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ HoN เพิ่งเปิด ก็ย้ายจาก Dota มาเล่น HoN เป็นเกมหลักๆที่ผมเล่นเลย”
แน่นอนว่าในมุมมองของพ่อแม่ที่มีต่อเกม ย่อมไม่เต็มใจนักที่เห็นลูกจดจ่อกับเกมมากไป พ่อแม่ เต้ ก็เช่นเดียวกัน แต่ด้วยความที่ร้านเกมเป็นของคุณอา เล่นอยู่ภายใต้ความดูแลของญาติๆจึงทำให้พ่อแม่ของเขายังคลายความกังวลได้บ้าง ส่วนเรื่องเรียนเขาเอาตัวรอดได้สบาย โดยเฉลี่ยอยู่ที่สามกว่าๆในแต่ละเทอม
ขณะเดียวกันก็เป็นช่วงที่เขาเริ่มสนใจเกมมากยิ่งขึ้น ก่อนจะได้รู้จักกับ RoV เกม MOBA บนมือถือชื่อดังที่เพิ่งเปิดตัว และกำลังจะกลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาในอีกไม่กี่ปีต่อมา
ฝันเป็นสตรีมเมอร์
กระแส RoV เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงในประเทศไทย คอ MOBA หลายคนเริ่มกระโดดจากจอคอมพิวเตอร์ลงสู่สมรภูมิบนมือถือกับความโดดเด่นที่มีฮีโร่หลากหลาย เล่นจบไว และมีรายละเอียดยิบย่อยที่น่าสนใจ ยิ่งกว่านั้น Garena ค่ายผู้สร้าง RoV ยังโปรโมตหนักจนเกิดเป็นการแข่งขันทัวร์นาเมนต์เล็กใหญ่มากมาย ทำให้คอมมูนิตี้เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่ง เต้ ก็ไม่พลาดที่จะกระโจนสู่เกมตีป้อมบนมือถือเช่นกัน
“ตอนนั้นเป็นช่วงมัธยมต้น RoV เริ่มบูมในไทย เห็นเพื่อนในห้องเล่นกันเยอะ ผมก็ดูเขาเล่น HoN ก็ยังเล่นอยู่นะ แต่ความนิยมเริ่มลดน้อยลงไป แต่พอเห็นเพื่อนเล่น RoV มันเป็น MOBA บนมือถือดูน่าสนุก แต่ตอนนั้นผมไม่โทรศัพท์ ก็ได้แค่นั่งดูเพื่อนเล่น เวลานั่งรถกลับบ้านบนรถตู้ก็เล่นกัน ผมอยากเล่นบ้างก็เลยยืมโทรศัพท์เพื่อนเล่น”
เพียงครั้งแรกกับ RoV เต้ ติดใจทันทีกับตัวเกมที่ทั้งสนุก และความสะดวกสบายที่เล่นที่ไหนก็ได้ ประกอบกับยิ่งเป็น MOBA ก็ทำให้เขาค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนจาก HoN ในคอมพิวเตอร์ มาจับมือถือลุย RoV เต็มตัว
หลังเล่นมาได้สักระยะ เต้ เริ่มมีความคิดอยากใช้เกมหารายได้ เขาไม่ได้อยากเล่นไปวันๆ โดยมีเป้าหมายอยากเป็นสตรีมเมอร์อาชีพที่กำลังฮิตเพื่อที่จะเก็บเงินสร้างอนาคตของตัวเอง แม้เดิมทีทางบ้านอยากให้เขาเรียนจบเป็นแพทย์ แต่ก็ไม่ได้บังคับ และด้วยความที่เขามีสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว ทำให้ เต้ ได้โอกาสเลือกทางเดินของตัวเองมาตั้งแต่นั้น
“ตอนนั้นผมรู้สึกว่า เราเล่นเกมมาก้เลยอยากลองหารายได้จากทางนี้ดู อยากให้อนาคตมันมีรายได้เข้ามาบ้างเพื่อวันหนึ่งโตขึ้นจะได้สร้างอนาคตได้ แต่ผมไม่ได้นึกถึงการแข่งหรอกนะ ผมมองถึงการเป็นสตรีมเมอร์มากกว่า”
ด้วยเป้าหมายที่ต้องการเป็นสตรีมเมอร์ ทำให้ เต้ ไม่ได้สนใจเรื่องแข่งเกมมากนัก เขายอมรับว่า เคยดู RoV Pro League ไม่บ่อยนัก และไม่ได้มองถึงโอกาสลงแข่งในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ
แต่แล้ววันหนึ่งความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเริ่มรู้สึกอยากโชว์ฝีมือในการแข่งขัน หลังจากไต่แรงค์ใน RoV สูงขึ้นจนมั่นใจว่า เขาก็มีดีพอที่จะลงแข่งได้เช่นกัน
“ช่วงที่ผมไต่แรงค์สูงๆก็เริ่มคิดว่า อยากลงแข่ง เราเอาชนะเขา ถ้าเล่นในแรงค์เรายังเอาชนะได้ ในการแข่งจริงก็ต้องชนะได้เหมือนกัน”
“ผมเริ่มรู้สึกอยากล่ารางวัลด้วย อีกมุมหนึ่งผมมองว่า ถ้าเราเป็นสตรีมเมอร์อย่างเดียว เราจะไม่ได้โฟกัสการแข่งมากนัก ถ้าเราไปแข่งแล้วทำผลงานได้ดีพอ ก็จะมีคนรู้จัก มีผู้ติดตามเยอะขึ้น”
“แต่ผมไม่ได้อยากไปเล่นกับทีมไหนเป็นพิเศษหรอก มีทีมไหนเปิดโอกาสให้ไปก็ลองไปก่อน เพราะตอนนั้นเราแข่งแรกๆ ไม่ได้เป็นทีมอะไรขนาดนั้น เรายังเล่นแบบเป็นทีมไม่ค่อยเป็น มันเป็นเกมแรกที่ผมได้ลงแข่งด้วย”
นับหนึ่งสู่โปรเพลเยอร์
หลังตัดสินใจเบนเข็มจากสตรีมเมอร์สู่โปรเพลเยอร์ เต้ เริ่มต้นกับ Candy ทีมอีสปอร์ตที่เขาร่วมทำกับรุ่นพี่ที่รู้จักเพื่อลงแข่งในระดับ Semi-Pro
“ผมเริ่มต้นกับทีม Candy ตอนนั้นไต่แรงค์ขึ้นอันดับ 1 แล้วมีพี่คนหนึ่งชวนเข้าไปทำทีม ผมเริ่มจากตำแหน่งป่าก็เล่นไม่ค่อยเป็น แต่ก็พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงนั้น แล้วก็มีอีกทีมที่แข่งในทัวร์นาเมนต์ของโรงเรียนด้วย”
“ผมอยู่กับทีมยาวเลย แต่ก็เปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ตอนแรกเล่นป่าจากนั้นเปลี่ยนเป็น แคร์รี แล้วก็กลับมาเล่นป่าอีกครั้ง จากนั้นย้ายไปออฟเลนแล้วก็ยิงยาวเลย ที่ต้องเปลี่ยนตำแหน่ง เพราะผู้เล่นในทีมมีการเปลี่ยนแปลงตรงไหนขาดผมก็จะไปเล่นตำแหน่งนั้น”
แม้เข้าสู่โหมดการแข่งจริงจัง แต่ เต้ มองทีละก้าว เขาไม่ได้กดดันตัวเองว่า จะต้องก้าวไปเล่นโปรลีกในระยะเวลาเท่าไหร่ โดยปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา และโอกาสมากกว่า ซึ่งประจวบเหมาะกับช่วงนั้น Bazaar Gaming(ปัจจุบันยุบทีมไปแล้ว) กำลังเปิดคัดผู้เล่นหน้าใหม่ เขาจึงไม่รอช้า ตัดสินใจสมัครร่วมทดสอบฝีมือทันที
“ผมมองเรื่องรอโอกาสมากกว่า ถ้ามีโอกาสมาก็จะคว้าไว้ แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่ Bazaar Gaming เปิดคัดตัว เพราะขาดคนพอดี ตอนแรกก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้หรอก แต่มีคนรู้จักมาบอกว่า Bazaar กำลังเปิดคัดผู้เล่นก็เลยลองไปเทสต์ตำแหน่ง แคร์รี ก็เป็นช่วงเดียวกับรายการแข่งของ King of Gamers Club(KoG) ที่ผมรู้จักพี่โน่(Tony กัปตันdtac x Talon คนปัจจุบัน)พอดีก็เลยทักไปถามว่า อยากจะลองไปเทสต์ดู”
การตัดสินใจในครั้งนั้นทำให้ เต้ ได้รับโอกาสแรกในฐานะโปรเพลเยอร์เต็มตัว เมื่อเขาผ่านการคัดตัวเข้าทีม Bazaar Gaming แต่ก็ทำให้ชีวิตของเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คนหนึ่งเปลี่ยนไป เพราะเขาต้องเก็บกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านเกิดที่ขอนแก่น เข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อเดินตามความฝันของตัวเอง
- Ipodpro : แชมป์โลก RoV ที่มีเกมอยู่ทุกลมหายใจของชีวิต
- MOOP: เด็กชายที่ใช้เวลา 2 ปี ก้าวข้ามคำ Bully ไปเป็นแชมป์โลก RoV
เก็บกระเป๋าเข้าเมืองหลวง
“ตอนนั้นผมก็เรียนอยู่นะ แต่พอรู้ว่าได้เข้าทีม ผมก็ออกจากโรงเรียน แต่ตอนแรกไม่ได้บอกใครหรอก เพราะกว่าจะบอกก็คือวันสุดท้ายที่จะต้องมาอยู่กรุงเทพฯ ผมให้แม่ไปบอกครูใหญ่ว่า จะออกจากโรงเรียน”
เต้ เก็บกระเป๋าเดินเพื่อเดินทางมาใช้ชีวิตคนเดียวในเมืองหลวง แม้จะต้องอยู่ห่างครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เขาไม่มีความกลัว โดยมองถึงการก้าวไปข้างหน้า และทำตามที่เคยกล่าวไว้ว่า วันหนึ่งหากโอกาสมาถึง เขาจะรีบคว้ามันไว้
ช่วงเวลาเดียวกันครอบครัวเริ่มเข้าใจการเล่นเกมของเขามากขึ้นว่า นี่คืออาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ได้จริง หลังจากเห็นลูกชายเริ่มทำเงินจากรายการ Semi-Pro รวมถึงทัวร์นาเมนต์ต่างๆ กระทั่งวันที่ เต้ ได้เซ็นสัญญากับ Bazaar Gaming ซึ่งเป็นทีมสปอร์ตอาชีพในระดับโปรลีก นั่นทำให้คุณแม่ยอมให้ลูกดร็อปเรียนเพื่อมาแข่งเกมโดยไม่ขัดข้อง
“แม่เริ่มเห็นว่า เราทำรายได้จากเกมได้จริงนะ ผมเริ่มทำให้เขาดูมากขึ้นจนสัมผัสได้ว่า เขาเริ่มเปลี่ยนไปเปิดรับมากขึ้น พ่อก็อยากให้ไป แต่ช่วงแรกแม่ก็อาจจะไม่ได้ผลักดันเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้กีดกันอะไรกับการตัดสินใจของผม”
ปี 2020 เต้ อยู่ในฐานะโปรเพลเยอร์ RoV ตามที่หวัง เขาได้เจอระบบทีมอาชีพ เจอเพื่อนใหม่ ผู้เล่นฝีมือดี และนักจิตวิทยาประจำทีม Bazaar Gaming ทำให้เขาได้เรียนรู้ และเติบโตมากขึ้นบนเส้นทางนี้
“ผมได้เจออะไรใหม่ๆหลังมาร่วมทีม สิ่งหนึ่งคือนักจิตวิทยา เขาบอกให้เราตั้งเป้าไว้สูงที่สุด สมมติว่า เราหวังได้แชมป์โปรลีก แต่จริงๆไม่ต้องตั้งแค่เป็นแชมป์โปรลีกก็ได้ แต่ให้เราตั้งไปไกลถึงแชมป์โลกเลย”
“ตอนแรกที่ผมเข้ามา ผมไม่ได้ตั้งเป้ว่าจะต้องเป็นแชมป์ด้วยซ้ำ ขอแค่ Top 4 ก็พอ แต่ในทีมตอนนั้นเขาเก่งกันอยู่แล้วก็เลยไปได้เกินกว่าที่ตั้งไว้ ทำให้เขายิ่งให้เราตั้งเป้าหมายสูงขึ้น กระตุ้นตัวเองขึ้นให้เก่งขึ้นไปอีก”
ด้วยความเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ เขาย่อมเจอคำวิจารณ์ต่างๆมากมาย บวกกับความกดดันที่อายุยังน้อยกับการเล่นในระดับโปรลีก แต่สิ่งเกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ เต้ หวั่นไหวบนเส้นทางนี้
“ตอนเข้าไปแรกๆมันก็กดดัน ผมไม่ได้มีวิธีรับมืออะไรขนาดนั้นก็แข่งไปด้วยความกดดันที่มีตลอดนั่นแหละ แต่ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดทุกครั้งก็ไม่ได้เกร็งเกินไป เราเล่นตามที่ซ้อม มันช่วยลดความกดดันได้ ตอนแข่งอาจมีคอมเมนต์แย่ๆบ้าง แต่ผมไม่ได้สนใจอยู่แล้ว แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ”
อย่างไรก็ตามใน RoV Pro League 2020 Summer เต้ และ Bazaar Gaming จบอันดับ 2 พลาดแชมป์ให้กับ Buriram United Esports แต่ก็ทำให้ เต้ จุดไฟต้องการพัฒนาฝีมือมากขึ้น และถึงแม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ Bazaar Gaming ยังได้เล่นใน Arena of Valor Premier League 2020(APL) รายงานชิงแชมป์โลกครั้งแรกของเขา
ทว่าใน APL เป็นช่วงเดียวกับที่ Bazaar Gaming กำลังจะเลิกทำทีม RoV ผู้เล่นชุดเก่าแยกย้ายไปคนละทางเหลือเพียงน้องเล็กอย่าง เต้ ที่ยังอยู่กับทีม โชคดีที่อดีตสมาชิกทีม Candy กำลังทำทีมชื่อ “ตามหาความฝัน” ได้ชักชวนเขาไปร่วมทีม ทำให้ เต้ ได้ลงแข่ง APL ภายใต้ชื่อ Bazaar Gaming
แต่เวทีระดับโลกหนแรกก็ลงเอยด้วยความผิดหวัง Bazaar Gaming จบ Top 8 ก่อนปิดฉากอดีตทีมดังอย่างเป็นทางการ และทำให้ เต้ ต้องเคว้ง เมื่อกลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัดไปโดยปริยาย
ติดปีกเหยี่ยวแดง talon
เส้นทางของ เต้ ดูมืดมน เขายังไม่รู้ว่าหนทางในอนาคตจะเป็นอย่างไร โดยอดีตสมาชิก Bazaar Gaming ต่างย้ายไปอยู่ทีมใหม่ มีเพียงเขาที่ยังหาทีมลงเล่นไม่ได้ เมื่อความผิดหวังเพิ่มเป็นทวีคูณ เต้ จึงตัดสินใจที่จะกลับไปเรียนต่อ
“จริงๆผมก็ไม่ได้ช็อคที่เขาจะไม่ทำทีม เพราะรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า ครั้งนั้นจะเป็นซีซั่นสุดท้ายที่ทีมลงแข่ง ผมคิดเรื่องกลับไปเรียนต่อ เพราะไม่รู้ว่า ถ้าไปทางนี้ต่อมันจะเป็นยังไง เลยคิดว่า กลับไปเรียนต่ออาจจะมั่นคงกว่า แต่พ่อแม่เขาเป็นคนที่อยากให้ผมแข่งต่ออะไรไป”
“หลังจบ APL ผมเข้าไปเทสต์กับทีมๆหนึ่ง แต่ไม่ได้ตอบตกลง ซึ่งตอนนั้นรุ่นพี่กับโค้ช Linkou เขาย้ายไป Talon กันหมด ตอนนั้นทีมมีผู้เล่น 5 คน เขาขาดผู้เล่นสำรองบวกกับผมก็รู้จักกับพี่ๆอยู่แล้วเขาเลยชวนผมไปลองคัดดู”
เต้ ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ Talon ด้วยความคุ้นเคยกับสมาชิกในทีมที่เคยร่วมงานกันใน Bazaar Gaming มาแล้ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวมากนัก แต่ปัญหาใหญ่ของเขาคือต้องอยู่ในสถานะตัวสำรอง และต้องเล่นได้หลายตำแหน่งเพื่อให้สามารถทดแทนผู้เล่นหลักทุกตำแหน่งที่อาจเกิดอาการบาดเจ็บหรือล้มป่วย
แม้จะเป็นสมาชิกคนที่ 6 แต่ เต้ พร้อมทำหน้าที่ของตัวเอง กระทั่งทีมมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น ก่อนที่เขาจะถูกดันขึ้นมารับตำแหน่งแคร์รีตัวจริง
ยิ่งกว่านั้น เขาตอกย้ำความสำเร็จ เมื่อมีส่วนสำคัญพา Talon คว้าแชมป์ RoV Pro League 2020 Winter และถือเป็นแชมป์แรกของเขานับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่โลกอีสปอร์ต
“ผมพอใจกับตัวเองนะ รู้สึกว่าเราทำได้ดีกว่าซีซั่นก่อนๆที่เราแข่งมา ผมสามารถทำประโยชน์ให้ทีมได้มากกว่าเดิมเยอะเลย ตอนนั้นผมวางเป้าไปถึงแชมป์โลก เพราะทีมเราก็มีฝีมือดีไม่แพ้ทีมอื่น เราหวังแชมป์ถึงโลก เพราะเราเพิ่งได้แชมป์ประเทศมา เราก็ต้องไปต่อให้สุด”
Talon ในฐานะแชมป์โปรลีกของไทยได้โควตาสู้ศึก Arena of Valor International Championship 2020 เวทีชิงแชมป์โลกหนสองของ เต้ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องผิดหวัง เมื่อสิ้นสุดเพียง Top 8 หลังจากนั้นเขายังอกหักซ้ำ เมื่อต้องเสียแชมป์โปรลีกในซีซั่นถัดมา
“คือตอนแรกเราก็มาดีอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน พอช่วงกลางๆผลงานมันเริ่มดร็อปลง ใจเราก็ค่อนข้างไปด้วย เราก็เลยเป๋ไปยาวเลย เราซ้อมกันไม่ค่อยดีด้วย ไม่รู้ว่าเพราะ Meta เปลี่ยนด้วยหรือเปล่าพอเราเป๋แล้วเรากลับมาไม่ได้กลายเป็นฟอร์มตกไปเลย”
แชมป์โลก
Talon ยังแก้ตัวกลับมาได้ เมื่อพวกเขาเป็นแชมป์ Road to AWC 2021 ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน Arena of Valor World Cup 2021 (AWC) พร้อมกับสร้างเซอร์ไพรส์ เมื่อเป็นทีมไทยหนึ่งเดียวที่ทะลุจนถึงชอง Grand Finals ด้วยสถิติที่ไม่แพ้ใคร
“ก่อนหน้านั้นผมผิดหวัง แต่ก็ทำเต็มที่แล้ว เราพยายามรีเซตตัวเองเพื่อโฟกัสกับ AWC เกมปรับแพทช์ใหม่กลายเป็นว่าเราเล่นกันเข้ากันมากขึ้น ดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะเข้าทางเรามากๆแล้วผลงานก็ออกมาดีมาก”
Talon เหมือนกลายเป็นทีมใหม่ พวกเขาเดินหน้าคว้าชัยต่อเนื่องในขณะที่สองตัวแทนแชมป์ และรองแชมป์โปรลีกอย่าง Bacon Time กับ Buriram United Esports ตกรอบไปแล้ว โดย Talon ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มลงเล่น 6 นัด ชนะ 5 เสมอ 1 ส่วนรอบน็อคเอ้าท์ชนะติดต่อกันมา 3 นัดในสายบน ก่อนโคจรมาเจอ MOP Team จากไต้หวันในรอบ Grand Finals
“เป้าหมายของผมคืออยากเป็นแชมป์อยู่แล้ว ก็รู้สึกดีที่เราอยู่สายไม่ตึงเกินไป จริงๆผมมองทีมเต็งคือ MAD Team เพราะเขาเพิ่งเป็นแชมป์ AIC”
“ถึงแม้ว่าเราจะเป๋ตอนซ้อมเพราะ Meta ที่เปลี่ยนไป แต่เราก็ทำได้ดีในการแข่ง แต่อาจจะเพราะเราไม่ได้เจอสายตึงด้วย มันทำให้เราเข้ารอบได้ง่ายกว่าเดิม และทำให้เรามีเวลาปรับตัวเยอะขึ้น แต่ช่วงก่อนถึงนัดชิงเป็นช่วงที่เราซ้อมแพ้เยอะมาก แพ้รัวๆ โค้ชก็เลยให้ดูคลิปการเล่นเพื่อแก้ไขปรับปรุง ให้กดแรงค์เยอะกว่าเดิม เพื่อให้กลับมาให้ได้ในตอนนั้น”
“ผมไม่ได้กดดันในนัดชิง เพราะผมมั่นใจว่า เราจะชนะได้ คือตั้งแต่รอบกลุ่มเราเจอกัน แต่ไม่แพ้เขาเลยสักครั้ง สกอร์จะออกมาเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ผมว่า เราชนะเขาได้”
เหยี่ยวแดง จากไทยไร้พ่ายโคจรมาพบกับ MOP Team ซึ่งทำท่าว่าจะลงเอยด้วยชัยชนะของ Talon แบบไม่ต้องออกแรงเหนื่อยหลังออกนำ 2-0 ทว่ากลับโดนไล่ตีเสมอ 2-2 ก่อนที่เกมจะสูสีจนต้องตัดสินกันในเกมสุดท้าย
แต่แล้วเกมที่ 7 ซึ่งเป็นเกมตัดสิน เกิดช็อตฮือฮา เมื่อ MOOP ที่โดนวิจารณ์มาตลอด ตัดสินใจดันรวดเดียว 3 ป้อม และปิดเกมพา Talon ชนะ MOP Team 4-3 คว้าแชมป์ AWC 2021 ได้สำเร็จ และถือเป็นแชมป์โลกสมัยแรกของทีมจากประเทศไทย นอกจากนี้ เต้ ยังคว้า MVP รายการนี้มาครองอีกด้วย
“ผมยังคงรู้สึกว่า เราชนะได้อยู่แล้ว ความรู้สึกมันบอกว่า เราจะไม่แพ้ ตอนโดนตีเสมอผมเลยไม่ได้รู้สึกกดดัน มันเป็นความภูมิใจนะ ว่าเรามาได้ไกลมาก มากกว่าตอนที่เราหวังแค่ TOP 4 แต่วันนี้กลับมาถึงแชมป์โลก ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้แชมป์โลกเพราะว่า ยังไม่เคยมีทีมไทยทำได้มาก่อนด้วย”
เต้ ยังคงต่อยอดความสำเร็จ เมื่อช่วย Talon คว้าแชมป์ RoV Pro League 2021 Winter และเป็นแชมป์โปรลีกสมัยที่ 2 ของตัวเอง แต่ก็เต็มไปด้วยอุปสรรค โดยเฉพาะการปรับเป็นแพทช์ 4.0 ในรอบเพลย์ออฟที่เกือบทำให้ทีมไปไม่ถึงฝัน
“การเป็นแชมป์โลกช่วยเพิ่มความมั่นใจก่อนแข่งโปรลีก แต่ผลงานในซ้อมของเราแย่มากๆ เราแทบไม่ชนะใครเลย พอปรับเป็น 4.0 มีสิ่งที่เปลี่ยนไปเยอะมาก และทำให้เราต้องขยันซ้อมมากขึ้น”
แม้จะเจอปัญหาใหญ่กับแพทช์ 4.0 แต่ Talon ยังไปได้สวย เมื่อพวกเขาคว้าแชมป์มาครองพร้อมโควตาลุยศึก Arena of Valor International Championship 2021 (AIC) ซึ่งเป็นแชมป์ที่ทุกคนในทีมมุ่งหวังจะคว้ามาให้ได้ โดยเฉพาะโค้ช Linkou ที่ต้องการพา เหยี่ยวแดง คว้าโทรฟี่แชมป์ใบที่สามมาครองในปีเดียว
“ผมมั่นใจเต็มร้อยสำหรับ AIC เราเพิ่งเป็นแชมป์มา เราทำได้อยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีเวลาให้เตรียมตัวอีกเยอะ ผมมองว่า เราจะผ่านรอบแรกได้แน่นอน”
2 แชมป์โปรลีก 1 แชมป์โลก บนวัย 17 ปี
ช่วงเวลาเพียง 2 ปี เต้ ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์โปรลีก 2 สมัย และแชมป์โลกอีกหนึ่งสมัยในวันที่เขายังอายุเพียง 17 ปี แต่เขามองว่า นี่ไม่ใช่การเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะเส้นทางที่ผ่านมา เขาผ่านความลำบากที่ทำให้เติบโตขึ้นอยู่เสมอ
“ผมว่า มันก็ไม่ได้เร็วเกินไปหรอก เพราะว่า เราก็ตั้งเป้าไว้แต่แรกอยู่แล้วว่าจะต้องทำสำเร็จ แต่ก่อนจะมีวันนี้ผมต้องผ่านความผิดหวังไปหลายทัวร์นาเมนต์ ผมเลยมองว่า มันไม่ได้เดินเร็วขนาดนั้น เพราะก่อนจะเป็นแชมป์ ผมมีวันที่ผิดหวัง ผมเคยแพ้มาก่อน ไม่ใช่อยู่ดีๆก็มาชนะแล้วเป็นแชมป์โลก”
“สำคัญเลยคือผมภูมิใจมากที่ตอนนั้นผมเลือกไปต่อ จากที่เคยเกือบหยุดเล่นแล้วกลับไปเรียน เพราะตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายทางนี้ก็พาผมมาไกลมากๆ ทำให้เห็นว่า ผมเลือกทางเดินถูกแล้ว” เต้ ปิดท้าย
อ่านเพิ่ม: จาก Level 0 : Happy แชมป์ RoV Pro League ที่พิสูจน์ว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร