นี่คือคำพูดของ เนส – สรรเพชร มารัตน์ หรือ FirstOne กัปตันทีม RoV ของ Buriram United ที่เพิ่งคว้าแชมป์โปรลีก ซีซั่น 4 ไปเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่กว่าที่จะพาทีมขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง RoV ของประเทศไทยได้อย่างทุกวันนี้ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ติดตามได้ที่นี่
สัมผัส MOBA ครั้งแรก
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปี ที่แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก Dota แผนที่เกม Warcraft 3 ที่ได้รับความนิยมสุดขีด จนฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนแทบจะครองทุกหน้าจอบรรดาอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ทั่วประเทศ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ เนส ได้รู้จักกับเกม MOBA
“ตอนนั้นอายุประมาณ 17 ปี ปกติเป็นคนติดเพื่อน เพื่อนไปไหนก็ตามไปด้วยตลอด จนได้เห็นเพื่อนๆและรุ่นพี่เขาเล่น Dota กัน ผมก็เล่นตาม” โปรเพลเยอร์วัย 25 ปี เริ่มเล่ากับ One Esports
“ฮีโร่ตัวแรกที่ผมเล่นคือ Skeleton King มันเล่นง่าย ตายแล้วเกิดได้ กดสตันสกิลเดียวพอ แต่จริงๆช่วงนั้นก็ไม่ได้ติดมาก มีไปเตะบอล ไปตกปลาบ้าง เล่นเกมแค่เพื่อเข้าสังคม”
แพ้ไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้ คือสถานการณ์ที่ เนส ต้องเผชิญ หลังเล่นเกมจนผ่านจุดที่เรียกได้ว่าเล่นแค่ขำๆไปแล้ว เมื่อเพื่อนๆต่างพากันล้อหลังจากที่เขาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อยู่บ่อยครั้ง และยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนให้เขาหันมาฝึกฝนเล่น Dota อย่างเอาจริงเอาจังมากขึ้น
“พอเล่นไปบ่อยๆแล้วแพ้ ก็โดนล้อ ตอนนั้นรู้สึกว่าเสียหน้าไม่ได้ ก็เริ่มที่จะอยากชนะ เลยเริ่มเล่นให้มันเก่งขึ้น”
“สมัยนั้นจะมีสร้างห้อง 5vs5 มีอยู่ห้องนึงที่หัวหน้าห้องก็จะคัดแต่คนเก่งๆเข้าไปเล่น ชื่อห้องจะมีสัญลักษณ์บอกว่าเป็นของพวกเทพๆ ตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่อยากเข้าไปดูว่าแบบมีใครบ้าง แต่โดนเตะออกตลอดเลย เลยต้องๆไปหาห้องเล่นกับพวกที่ยังไม่เก่งมาก และตั้งเป้าไว้ว่าสักวันจะต้องเข้าไปเล่นกับคนพวกนั้นให้ได้”
หลังจากวันนั้น เนส มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองอย่างหนัก จนกระทั่งเอาชนะได้บ่อยๆจนเริ่มมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์มากขึ้น ภายใต้นามแฝงว่า InTreso แต่ก็ไม่สามารถพาตัวเองข้าไปเล่นในห้องของคนเก่งได้เสียที จนกระทั่งได้พบหนทางเดียวที่จะได้วัดฝีมือกับบรรดาผู้เล่นเหล่านั้น
นั่นคือ…ต้องเข้าสู่โลกของการแข่งขันระดับทัวร์นาเมนต์
“ผมใช้เวลาประมาณหนึ่งปี พัฒนาตัวเองจนเริ่มมีชื่อเสียง มีคนพูดถึงในห้องแชทของหน้าล็อบบี้เกม จนมีเพื่อนชวนไปแข่ง แต่ตอนนั้นก็ตัดสินใจยังไม่ลงแข่งก่อน”
“ผ่านไปอีกปี เพื่อนก็มาคะยั้นคะยอให้ลงแข่งอีก บอกว่ามีโอกาสที่จะได้เจอกับพวกคนเก่งๆที่เตะผมออกจากห้องตลอด เพราะถ้าเล่นแบบปกติ ไม่มีทางจะได้เจอพวกนั้นอยู่แล้ว ตอนนั้นผมเริ่มมั่นใจแล้วว่าตัวเองเก่งในระดับหนึ่ง จึงตอบตกลงทันที”
CyberGames Dota Tournament การแข่งขันแบบออนไลน์ที่จัดขึ้นโดย Thai Cyber Games คือรายการแรกที่ เนส ได้พิสูจน์ฝีมือของตัวเอง และนั่นทำให้เขารู้ว่า…ยังมีคนเก่งอีกมากมายในวงการ Dota ประเทศไทย
ความพ่ายแพ้ คือสิ่งที่เขาพบเจอตลอด ในช่วงแรกของการบุกเบิกเริ่มลงแข่งขัน แต่การปราชัยเหล่านั้นคือการสั่งสมประสบการณ์จนทำให้เขาคว้าแชมป์รายการแรกได้สำเร็จ
“ครั้งแรกที่ผมลงแข่งแล้วเป็นแชมป์ คือรายการ Dota Dsport Games Tournament ได้เงินรางวัลมา 10,000 บาท”
“ตอนนั้นดีใจมากๆ ได้ตังค์หมื่นนึงมาแบ่งกัน 5 คน ก็ถือว่าเยอะแล้ว จากตอนแรกที่ไม่ได้เล่นจริงๆจังๆ จนกระทั่งวันนึงเราสามารถหาเงินจากการเล่นเกมด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขาได้”
ชีพจรลงทะเล
ย้อนกลับไปก่อนช่วงที่เขาจะคว้าแชมป์ Dota ครั้งแรก เนส มีปัญหาเรื่องติดเกมอย่างหนัก จากที่เริ่มกลับบ้านดึก ลามไปถึงขั้นนอนค้างที่ร้านเกม จนส่งผลกระทบต่อการเรียน จนทำให้พ่อและแม่ต้องหาทางแก้ไข้ด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด
และนั่นทำให้เขาต้องลาขาดจากการเล่นเกมไปนานถึง 2 ปี
“ตอนนั้นผมเรียนอยู่ช่วง ม.5 จะขึ้น ม.6 พ่อ-แม่ บ่นหนักมาก เพราะผมติดศูนย์รัวๆเลย จนกระทั่งพ่อให้ออกจากโรงเรียน เพราะเขาคิดว่าสังคมเพื่อนแถวบ้านมันไม่ดี พากันเหลวไหล จริงๆผมก็รู้ตัวเองนะว่าเกเร ติดเพื่อน สุดท้ายแม่เลยให้ผมย้ายไปอยู่กับป้าที่พังงา”
“พอโดนย้าย ชีวิตผมนี่หมองม่นไปเลย ห่างเพื่อน เกมก็ไม่ให้เล่นเลย อยู่ไม่ได้จนต้องขอพ่อกับแม่ย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพ”
จากการที่ร้างสังเวียน Dota ไปนานถึง 2 ปีเต็มๆ ทำให้เขาฝีมือการเล่นของเขาแทบไม่เหลืออยู่เลย ทำเอาเจ้าตัวถึงกับท้อ
โชคดีที่มีคนกลับมาจุดไฟในการเล่นเกมของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
“ได้กลับมาเล่น Dota อีกครั้ง กลายเป็นว่าผมต้องมาจูนใหม่หมดเลย เล่นยังไงก็ไม่สนุก รู้สึกเหมือนตัวเองเล่นไม่ไหวแล้ว”
“มีเพื่อนในออนไลน์คนนึง เป็นคนโคราช มาชวนผมเล่น ถึงผมจะกาก เขาก็คอยสอนผมไปเรื่อยๆ จนเริ่มฟื้นกลับขึ้นมาไวเลย ขุดผมขึ้นมาจนเริ่มเก่ง เลยตัดสินใจกลับมาแข่งอีกครั้ง”
เนส เริ่มคัดผู้เล่นเก่งๆเข้าทีม โดยมีเพื่อนคนดังกล่าวเป็นผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ประกอบกับเป็นช่วงที่จบการศึกษามัธยมปลายพอดี ทำให้เขาตัดสินใจเอาจริงกับการเล่นเกมเป็นอาชีพ
และในที่สุดการเล่นเกมของเขา ก็ได้รับการยอมรับจากพ่อและแม่เสียที
“ผมได้รับบทบาทเป็นกัปตันทีมครั้งแรกในชีวิต ส่วนเพื่อนคนที่ช่วยขุดผมขึ้นมา ทางบ้านเขามีฐานะแล้วก็ดีกับผมมากจริงๆ เป็นคนคอยสนับสนุนส่งทีมแข่ง พอเราเป็นคนทำเอง ก็ต้องเต็มที่ตัวเอง และกับคนอื่น เริ่มทำการคัดคน คิดแผนดักฮีโร่ ซ้อมทีมกันอย่างจริงๆจังๆ”
“ช่วงที่แข่งเยอะๆ ยังเป็นช่วง ม.ปลายอยู่ ค่าเดินทางไปแข่งก็มีเพื่อนคอยออกให้ แต่ไม่ได้ขอเรื่องอาหารการกิน พอแข่งได้เงินรางวัลมา ผมก็คืนให้เขาตลอด ไม่ได้เอามาฟรีๆ ตอนนั้นก็เรียนไปด้วยแข่งไปด้วย แต่ผลการเรียนก็ดีขึ้นจนเรียนจบ เลยตัดสินใจของพ่อกับแม่ว่าจะเลิกเรียน ซึ่งเขาก็ไม่ว่าเพราะเราหาเงินใช้เองได้ แต่ก็บอกกับเราว่าถ้าเลือกทางนี้แล้ว ก็ต้องหาเลี้ยงตัวเองให้ได้”
ก้าวสู่ระดับอาชีพ=เปลี่ยนเกมเล่น
เมื่อเวลาผ่านไป Dota ก็เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง สองเกม MOBA ที่เข้ามายึดพื้นที่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก Heroes of Newerth หรือ HON และ League of Legends
ในขณะเดียวกัน เนส ภายใต้ชื่อ InTreso ก็กลายเป็นตัวท็อปของ Dota จนกระทั่งผลงานไปเข้าตา BKT หรือ Bangkok Titans ทีม League of Legends ชื่อดัง ที่สนใจดึงตัวเขาไปร่วมทีม
แต่ปัญหาก็คือ เขาไม่เคยเล่น League of Legends มาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต
“ผมเล่น Dota โดยไม่มีเงินเดือน ไม่มีสปอนเซอร์เข้า อยู่ดีๆ BKT ก็มาชวนผมไปทดสอบฝีมือ มีเงินเดือนให้”
“ผมตัดสินใจตอบตกลงทันที ทั้งที่ไม่เคยเล่น LOL มาก่อน”
เจตนาที่แท้จริงของ BKT คือการนำผู้เล่น Dota เก่งๆ มาเรียนรู้ระบบและแนวทางการเล่นของ LOL ซึ่งทั้งสองเกมมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาอยากได้ตัว เนส ไปร่วมทีม แทนที่จะปั้นผู้เล่นใหม่ขึ้นมา
“ตอนนั้น LOL ยังไม่มีคนเก่ง เขาเลยอยากให้คนมีพื้นฐานมาเล่น มาดูว่าคุณมีพื้นฐาน Dota แล้ว มาเล่นเกมนี้จะเป็นยังไง เหมือนการเอาคนเก่งฟุตซอล ไปเล่นฟุตบอล มันก็พอได้เพราะมันคล้ายๆกัน”
“ช่วงนั้นที่เล่น LOL คือแบบ GG เลย ผมเล่นได้สบายๆ แต่ไม่รู้สึกสนุกกับมัน ก็เล่นแบบขำๆไป เขาสอนอะไรมาก็จำบ้างปล่อยบ้าง ยอมรับว่าอยู่รับเงินเดือนไปเฉยๆ”
การไม่เพลิดเพลินกับ LOL แม้จะได้รับค่าตอบแทน กลายเป็นดาบสองคม เมื่อทักษะการเล่น Dota ของเขาเริ่มลดลงไปเรื่อยๆ สถานการณ์บีบบังคับให้เขาต้องเลือกสักทางว่าจะไปต่อกับ LOL หรือหวนคืนสู่วงการ Dota ตามเดิม
“ช่วงนั้นคิดอยู่ว่าจะเลือกทางไหนดี ทีม Dota ดังๆอย่าง MiTH.Trust ก็ชวนไปอยู่ด้วย ก็เลยปรึกษาหลายคนอยู่ เขาก็บอกให้เลือกทางที่ชอบ ทางที่มันอยู่ได้ ผมเลยคิดว่าต้องไปทาง LOL เพราะถ้าเล่น Dota ต่อ คงไม่มีกินแน่ๆ”
“พอเลือก LOL แล้ว ก็เซ็นสัญญาเลย ทีมมีแคมป์เป็นที่พัก ที่ซ้อม อยู่กินกับทีมเลย สำหรับผมมันเป็นอะไรที่แบบแปลกใหม่ ดูเป็นมืออาชีพขึ้น มีความมั่นคง ถึงเราจะไปแบบไม่รู้เรื่องก็เถอะ แต่ถ้าผมไม่เก่งตอนนั้นเขาก็ไล่ผมออกได้”
เนส ประสบความสำเร็จสุดๆตลอดช่วง 3 ปี ในวงการ LOL กับ BKT ไต่เต้าจากตัวสำรองสู่เสาหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้ แม้จะมีการเปลี่ยนไลน์อัพเข้า-ออกทีมอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้อยู่เสมอ คว้าแชมป์ร่วมกับทีมมากมาย
ทว่าการประสบความสำเร็จบ่อยๆ ทำให้เส้นทางอาชีพของเขากับ LOL ถึงจุดอิ่มตัว แม้จะเก่งกาจไร้เทียมทานในแดนสยาม แต่เมื่อออกไปแข่งนอกประเทศ กลับไม่สามารถสู้กับทีมต่างชาติได้ ทำให้เขาเริ่มมีความคิดจะย้ายไปเล่น HON
“ตอนนั้นคนเล่น HON เยอะมาก แล้วต้องบอกว่าไม่ค่อยมีคนเก่งๆ มีแต่คนที่หนีจาก Dota ไปเล่นเยอะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็แพ้ทีมของผมสมัยยังเล่น Dota มาหมดแล้ว ผมเลยลองเล่นดูก่อน ซึ่งมันก็ง่ายอย่างที่คิด แต่จังหวะมันไม่ดีตรงที่เหมือนกับเป็นช่วงปิดฤดูกาล ทำให้ไม่มีทัวร์แข่งแล้ว”
“ยอมรับว่าตอนนั้นโลภ ต้องคิดเยอะ ถ้าย้ายไปเล่น HON ทั้งที่ไม่มีแข่ง ก็อดได้เงินเดือนจาก BKT แถมอยู่แคมป์ก็แอบเล่นไม่ได้อีก ด้วยความที่ต้องเป็นมืออาชีพ เลยตัดสินใจเล่น LOL ต่อ แต่ผมก็ออกจากทีมอยู่ดี”
ตลอดช่วงเวลา 3 ปี กับ BKT เนส เก็บเงินได้ถึงหลักแสน เมื่อถึงจุดอิ่มตัวจึงตัดสินใจออกจากทีมไปใช้ชีวิตที่จังหวัดอุดรธานีกับพ่อ โดยหาเงินจากการลงแข่ง LOL แบบออนไลน์ ก่อนจะได้รับโอกาสฟอร์มทีมของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีผู้ใหญ่ใจดีมาให้การสนับสนุน ส่งทีมลงแข่งขันทั่วประเทศ
ผลงานของ เนส กับทีมใหม่ ก็มีแพ้มีชนะเป็นธรรมดา แต่หนึ่งในทีมที่พวกเขาไม่สามารถโค่นได้เลยคืออดีตต้นสังกัดอย่าง BKT ซึ่งอยากได้เขากลับไปร่วมทีมอีกครั้งเพื่อลงแข่งรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ LOL คือ League of Legends World Championship 2015
“ช่วงที่กำลัง Worlds 2015 กำลังจะแข่ง มีสมาชิกในทีม BKT คนนึงที่ยังไม่เก่งพอจะไปกับทีมได้ พวกเขาเลยอยากให้ผมกลับไปอยู่ด้วย”
“ผมเกรงใจนะ เพราะก่อนหน้านั้นจู่ๆก็ออกจากทีมมา ผู้จัดการทีมเองก็ไม่อยากให้ผมกลับไป คนในทีมก็โมโหกัน แต่ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็บอกกับผมว่าหลังจบ Worlds แล้ว จะเอาผมกลับไปอยู่ทีมให้ได้ หลังจบ Worlds ผมก็เบื่อกับการใช้ชีวิตต่างจังหวัดแล้ว เลยตัดสินใจเก็บของกลับกรุงเทพไปอยู่กับ BKT อีกครั้ง”
การกลับสู่อ้อมอก BKT ครั้งที่สอง ทำให้ทีมกลับมาไร้เทียมทานในแดนสยามอีกครั้ง จนกระทั่ง Ascension Gaming ทีมน้องใหม่แห่งวงการ สวมบท บาเยิร์น มิวนิค แห่งวงการ LOL จัดการดึงตัวผู้เล่นของ BKT รวมถึง เนส ไปร่วมทัพแบบยกชุด
แม้ Ascension จะไร้ผู้ต่อกรในประเทศไทย แต่ในเวทีระดับนานาชาติ พวกเขายังเป็นรองทีมต่างชาติอีกครั้ง ในขณะเดียวกันนั้นเอง วงการ MOBA มือถือ ก็เริ่มก่อตัวขึ้น
จากจอคอม สู่จอโทรศัพท์
“เพื่อนผมคนนึงที่อยู่ BKT มาชวนผมไปเล่น RoV” 007x อดีตโรมมิ่งของทีม Monori Bacon แชมป์โลก RoV Throne of Glory 2017 คือเพื่อนคนดังกล่าวที่ เนส พูดถึง
RoV หรือ Ream of Valor เกม MOBA ฉบับมือถือจากค่ายเกมยักษ์ใหญ่ประเทศจีนอย่าง Tencent เปิดให้บริการในประเทศไทยครั้งแรกในช่วงปลายปี 2017 ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จนทะยานสู่เกมอันดับหนึ่งของทั้ง Play Store และ App Store โดยตัวเกมมีความคล้ายคลึงกับ LOL อย่างมาก จนผู้เล่นระดับโปรหลายคนต่างย้ายเข้าสู่วงการเกมจอเล็ก
“ไม้ (007x) มาบอกกับผมว่า ย้ายไปเล่น RoV แล้ว ทำเงินได้เยอะมาก ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อไง แต่ที่ไหนได้มันเป็นเรื่องจริง คราวนี้ผมเริ่มลังเล เลยขอยืมไอดีจากพี่ที่รู้จักมาเล่น เขาใช้ชื่อว่า FirstOne และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นที่ผมใช้ชื่อนี้”
ที่จริงก่อนจะเซ็นต์สัญญากับ Asecension เป็นอีกครั้งที่ผมต้องต้องสินใจระหว่าง 2 เกม ว่าจะเล่น LOL หรือ RoV พอดีตอนนั้นแฟนผมที่เล่นเกม RoV ก่อนผม แล้วเป็นคนอยากทำทีมขึ้นมา เลยส่งรายชื่อให้ผมลองลงแข่ง โดยหาพวกผู้เล่นอดีตโปรเพลเยอร์ LOL มารวมทีม จนเป็นทีม War for Patcha”
“ผมเล่น RoV ลงแข่งทัวร์ต่างๆ แต่ผมยังไม่มีเงินเดือน ผมไม่คิดว่า ทีม War for Patcha จะได้เข้าโปรลีก ในขณะที่แฟนผมส่งรายชื่อไปแล้ว ผมรู้สึกว่ามันยังไม่มั่นคง ผมเลยตัดสินใจไปเซ็นสัญญากับ Ascension เลยทำให้ผมต้องแข่ง 2 เกมไปพร้อมกัน Ascension ที่ติดสัญญา กับทีม War for Patcha ที่เริ่มแข่งร่วมกันมา ผมก็ไม่อยากทิ้ง”
ผลงานของทีมรวมตัวเฉพาะกิจอย่าง War For Patcha กลับดีเกินคาด เมื่อทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย รายการ Road to Glory AIC 2017 โดยต้องเจอกับทีม Alpha Red ที่มี “กิตงาย” โปรเพลเยอร์ชื่อดัง นำทีมอยู่ในขณะนั้น
“พูดตรงๆว่า RoV เป็นเกมที่ต้องเติมเงินซื้อฮีโร่ ถ้าพึ่งแค่ฮีโร่ฟรี ก็สู้ทีมเก่งๆไม่ได้แน่นอน แล้วผมก็ไม่มีเงินจะเติมให้คนในทีม พอไปเจอของแข็งอย่าง Alpha Red ก็ตกรอบ”
“ตอนนั้น เรียวมะ เพิ่งเข้าเกมมาใหม่ๆ ทีมผมสู้ไมได้เลย ตัวที่เก่งจัดๆตอนนั้นมีอยู่ 3 ตัว แล้วเลือกแบนได้แค่ตัวเดียว ตัวจะไปสู้ก็ไม่มี ก็แพ้ไป 2-1 แต่ก็ถือว่าสู้ได้ดีมากๆแล้ว เลยคิดซะว่าแพ้ก็ช่างมัน เอาประสบการณ์ก็พอ”
หลังจากนั้นไม่นาน RoV Pro League ก็ได้เปิดฉากรอบคัดเลือกหา 8 ทีมลงแข่งในซีซั่นแรก และครั้งนี้ ถึงแม้ว่า เนส จะยังมีสัญญาอยู่กับ Ascension ภายใต้ชื่อ InTreso แต่ครั้งนี้เขาจะไม่เป็นแค่ผู้อยู่เบื้องหลังอีกต่อไป
ในที่สุด FirstOne ได้ประเดิมลงแข่ง RoV เป็นครั้งแรกเสียที
“ตอนที่ผมไปแอบแข่ง คนในทีม Ascension ก็รู้นะ เขาก็เชียร์ผมอยู่ ผู้จัดการทีมก็เอาผมออกไม่ได้ เพราะในวงการมันไม่เหลือใครแล้ว”
“ช่วงนั้นผมเล่นทั้งสองเกมเลย แต่มันฮาตรงที่ War For Patcha กลายเป็นม้ามืด ฟลุ๊คชนะได้เป็นตัวแทนโปรลีกทีมแรกเฉยเลย ก็งงอยู่เหมือนกันว่าเข้าไปได้ไง”
แม้จะได้โชว์ฝีมือนำทีมลงแข่งในรอบคัดเลือกด้วยตัวเอง แต่เพราะยังติดสัญญากับ Ascension อยู่ แม้จะขอลาออกจากทีม ก็ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ FirstOne ไม่ได้โชว์ลีลาใน RoV Pro League Season 1 ก่อนที่ทีมที่เขาปั้นมากับมือ จะได้ผู้สนับสนุนลงแข่ง พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก War For Patcha เป็น Mama Hexen
RoV Pro League Season 1 ปิดฉากลงด้วยการที่ IT.City Bacon ประเดิมคว้าแชมป์เป็นทีมแรก โดยที่ Mama Hexen จบอันดับ 6 ของรายการ ในขณะเดียวกัน สัญญาของ เนส กับ Ascension ก็หมดลง และเบนเข็มเข้าสู่วงการ RoV อย่างเต็มตัว
“ผมออกจาก Ascension มา ตอนนั้นลำบากเลย เงินเดือนก็ไม่มี เลยวางแผนไว้ว่าจะเข้ารวมทีมกับเพื่อนแล้วเข้าโปรลีกให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ จนต้องยุบทีม”
“โชคดีมากที่มีทีมมาช่วยไปอยู่ด้วยเยอะ สุดท้ายผมตัดสินใจเลือก Alpha red เพราะรู้สึกว่าถูกโฉลกกับสีแดง แต่มีน้องๆสองคนที่เล่นด้วยกันมานานอย่าง Summer กับ isilindilz จะตามผมไปอยู่ด้วย แต่ทีมมันเต็ม จะขอเป็นตัวสำรองก็ไม่ได้ ผมก็เลยบอกให้สองคนไปหาประสบการณ์กันก่อน แล้วสัญญาว่าถ้าทำผลงานได้ดีแล้วมีสปอนเซอร์ติดต่อเข้ามา ผมจะดึงกลับมาร่วมทีมกันอีกครั้ง”
ผลงานใน RoV Pro League Season 2 ของ FirstOne จบลงด้วยการช่วยทีมคว้ารองแชมป์ และแล้วก็ถึงเวลาที่เขาต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้
เส้นทางสู่แชมป์
หลังจากทำได้เพียงคว้าอันดับ 6 ใน RoV Pro League Season 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอล ที่ประเดิมทำทีม RoV เป็นเจ้าแรกของไทยลีก ได้เปลี่ยนชื่อจาก Buriram Arctic Wolf ไปเป็น Buriram United พร้อมเสริมทัพโปรเพลเยอร์พร้อมกันถึง 7 คน
หนึ่งในนั้นคือ FirstOne ที่รักษาสัญญาด้วยการพา Summer กับ isilindilz มาร่วมทีมด้วย
“ผมทำกับ Summer และ isilindilz เริ่มเล่นด้วยกันมาตั้งแต่สมัย War For Patcha จะให้ทิ้งกันมันก็ไม่ได้ เพราะเคยทิ้งไปกลางทางแล้วครั้งนึง จริงๆจะพาน้องเทป (Nt) มาด้วยอีกคน แต่มีปัญหานิดหน่อย ก็เลยพลาดโอกาสร่วมทีมกันไป”
Buriram United ที่มีอดีตผู้เล่น IT.City Bacon ชุดแชมป์รายการระดับโลกอย่าง RoV Throne of Glory 2017 และแชมป์ RoV Pro League Season 1 ถึง 4 คน อย่าง Cherie, MeMarkz, ReMix และ JameCo รวมถึง FirstOne และคนอื่นๆในทีม ทำผลงานได้อย่างไร้เทียมทาน ด้วยการชนะรวด ไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลปกติของ RoV Pro League Season 3
แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเขาดันมาตกม้ายตาย ทำได้แค่คว้าอันดับ 3 ในรอบแกรนด์ไฟนอล หลังจากพ่าย Bazaar Gaming ไป 3-2 และทีมยังมีปัญหาใหญ่ตามมาในภายหลังอีกต่างหาก
“ช่วงนั้นทีมก็มีปัญหาเยอะมาก แต่ต้องกัดฟันสู้เอาหน่อย เพราะว่าซีซั่นสองพลาดแชมป์มา ปีนี้ก็ต้องทำให้ได้”
“ผลงานทีมดีมากๆ เราไม่แพ้ใครเลย แต่มาพลาดเอาในแมตช์สำคัญจนได้แค่ที่ 3 แถมมีผู้เล่นบางส่วนมีปัญหากับทีม สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน”
วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 Buriram United ทำการยกเลิกสัญญากับ Cherie, MeMarkz, ReMix และ JameCo หลังตรวจพบว่าได้มีการเซ็นสัญญาซ้อนกับบริษัทอื่น ทำให้ทีมต้องมีการปรับทัพยกใหญ่อีกครั้ง
ภายหลังจากเสร็จสิ้นการเสริมทีม Buriram United ก็ได้ประกาศไลน์อัพลุยศึก RoV Pro League Season 4 โดยมี FirstOne นำทัพ ตามมาด้วย Summer, Isilindilz, Nutalomlok, Taotao, Bluenoping และ Overfly รวมถึงดึงตัว Che-Wei “AA” Chang อดีตโค้ช Chinese Taipei Wildcard ชุดแชมป์โลก AWC 2018 มาเป็นกุนซือทีมอีกด้วย
ทว่าช่วงต้นฤดูกาล ผลงานของทีมกลับไม่เป็นไปเต็มคาด แถมโค้ชชาวไต้หวันกลับตัดสินใจโบกมือลาทีมด้วยเหตุผลส่วนตัว
“ช่วงที่โค้ช AA ออกไป ทีมกำลังอยู่ที่ 4 ของตาราง ก็คือแพ้ไม่ได้อีกแล้ว โซเชียลก็ด่า ส่งผลต่อจิตใจผมมาก แต่ผมก็ต้องไม่สนใจในมุมส่วนตัว คิดแค่ว่าถ้าไม่ได้แชมป์ พี่นก (ไชยชนก ชิดชอบ ประธานสโมสร) จะผิดหวัง”
“ขึ้นชื่อว่าบุรีรัมย์ ยังไงก็ต้องแชมป์ ผมจำคำพูดคุณเนวิน (เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และพ่อของ ไชยชนก ชิดชอบ) ได้เลย เขาบอกว่า ถ้าไม่ได้แชมป์ กูก็ไม่รู้จะทำทีมไว้ทำไม เวลาออกไปงานของบุรีรัมย์ทีไร เห็นทีมฟุตบอลเขาชูถ้วย ผมโคตรอายเลย ทีมเรามันอะไรวะเนี่ย เดินขึ้นเวทีตัวเปล่า ขายหน้าว่ะ ทำไมเราทำไม่ได้วะ มันต้องทำได้สักทีสิ”
“สำหรับบุรีรัมย์ ถ้าได้แชมป์ก็คือเสมอตัว แต่ถ้าไม่ได้คือโดนด่ายับแน่นอน ผมไม่อยากให้คุณนกเสียหน้า ไม่อยากให้สโมสรเสียหน้า ซึ่งเรายอมไม่ได้ ต้องกู้สปิริตทีมขึ้นมา”
หลังการจากไปของ AA อดีตโค้ชของทีมที่ก่อนหน้านี้รับบทบาทนักวิเคราะห์อย่าง จักรพล ป้อมปราณี หรือ “MistGunz” ก็ได้กลับมากุมบังเหียนทีมอีกครั้ง ก็ช่วยกอบกู้สถานการณ์ ก่อนพาทีมผงาดคว้าแชมป์ RoV Pro League Season 4 ได้อย่างยิ่งใหญ่
“กว่าจะไปถึงแชมป์ก็ถือว่ายากลำบากพอสมควร น้องๆในทีมบางคนมีปัญหา เจอด่าในโซเชียลมากๆ บางทีเสียความมั่นใจ หรือช็อตกันไปดื้อๆ ช่วงที่แพ้ก็หลอนจนไม่กล้าเล่น แต่สุดท้ายทุกคนก็พยายามร่วมใจช่วยกันจนกลับมาได้อีกครั้ง ซึ่งมันเป็นจุดที่ผมคิดว่าทีมเวิร์คมันสำคัญกว่าฝีมือ”
“การเป็นแชมป์ทำให้ผมรู้สึกปลดล็อคตัวเอง จากทั้งความกดดัน และกระแสด้านลบในโซเชียล เป็นกำลังใจสำคัญทำให้เราสู้ต่อไปได้ เป็นความสำเร็จแรกในการเล่น RoV และหวังว่าจะมีครั้งต่อไปตามมาในอนาคต”
“ผมมองว่าแชมป์ครั้งนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น ในปีต่อไป บุรีรัมย์ จะไม่หยุดพัฒนา ผมมองไปถึงแชมป์ต่างประเทศ แชมป์โลก ว่าเราทำได้ ผมโชคดีได้อยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีพร้อมทุกอย่าง มีหน้าที่แค่ล่าแชมป์ให้กับทีมเท่านั้น” FirstOne กล่าวทิ้งท้าย