กับ EP สุดท้ายของเรื่องราวจากปาก หนึ่งนรา “23savage” ธีรมหานนท์ ที่คว้าฝันแรกสำเร็จกับโอกาสลุยศึก TI ครั้ง แต่ถัดจากนั้นไม่กี่เดือน เขากลับไม่เป็นที่ต้องการของทีม (สามารถติดตามอ่าน EP1 และ EP2 ได้ที่นี่)

จากอนาคตที่น่าจะไปได้สวย แต่ต้องกลายเป็นผู้เล่นไร้สังกัด อย่างไรก็ตาม ทรี ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่ TI ครั้งที่ 2 ของเขาก็ลงเอยกับหนึ่งในทีมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไลน์อัพครั้งใหญ่นั่นคือ Talon Esports

เหยี่ยวแดง เพิ่งฟอร์มทีมขึ้นมาใหม่ โดยตั้งบูทแคมป์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งมีเป้าหมายในการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ Division 1 ของรายการ DPC League โซน SEA

พวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์เพื่อบอกใบ้ว่า หนึ่งในผู้เล่นใหม่ของทีมคือโปรเพลเยอร์ชาวไทย ก่อนจะเปิดตัว วรวิทย์ “Q” เมฆฉาย จากทีม Motivate.Trust เข้ามาเสริมทัพในตำแหน่ง Pos 5 ของทีมแทนที่ของ Tal “Fly” Aizik อดีตโปรเพลเยอร์คนดังจาก Evil Geniuses ที่เพิ่งแยกทางไป

EP ส่งท้ายกับการผจญภัยครั้งใหม่ของแครี่ชาวไทย

ส่วนผู้เล่นคนสุดท้ายที่เปิดตัวก็คือ ทรี – หนึ่งนรา ’23savage’ ธีรมหานนท์ ซึ่งถูกดึงเข้ามาแทน Gabbi เพื่อสู้ศึก DPC SEA 2021/2022 Tour 2: Division II และยังได้ร่วมงานกับ Q อดีตเพื่อนร่วมทีม Motivate.Trust ในต่างแดนครั้งแรก

“ตอนแรกผมยังไม่ได้อยากย้ายมาเล่นกับ Talon เพราะด้วยไลน์อัพยังไม่ได้อะไรขนาดนั้น แต่พอมีพี่ Q เข้ามาในทีม ทำให้ผมสบายใจขึ้น”

“ผมรู้สึกว่า พี่ Q สามารถพัฒนาได้เยอะกว่านี้ ตอนที่เล่นอยู่ไทยเขาก็ทำได้ดีอยู่แล้ว แล้วถ้าได้มาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีก็น่าจะดีกว่านี้อีกเยอะ ผมแอบรู้สึกคล้ายๆ เหมือนตอนอยู่กับพี่ Jabz ที่ Fnatic แต่พี่ Q เขายังไม่ได้เก่งเรื่องภาษาขนาดนั้น กำลังค่อยๆ เรียนรู้กันอยู่ แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นหลังจากซ้อมกันมาสองอาทิตย์ ผมก็ช่วยทำหน้าที่ล่ามให้”



“ตอนนี้ภายในทีมทำงานเข้าใจกัน พี่ Q อาจยังต้องปรับเรื่องภาษาเกี่ยวกับศัพท์ใช้ชีวิตนอกเกมอยู่บ้าง แต่สำหรับผมไม่ได้ต้องปรับตัวอะไรกับทีมใหม่ ผมอยู่กับทีมต่างประเทศจนชินกลายเป็นว่า ตอนกลับไปเล่นกับทีมไทยรู้สึกไม่ค่อยชินมากกว่า”

การย้ายมา Talon สิ่งที่ทำให้ ทรี กังวลมากที่สุดหนีไม่พ้นประสบการณ์ของผู้เล่น เพราะหากมองไปถึงแชมป์หรือโอกาสไป TI 11 ประสบการณ์คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เขาก็มองว่า นี่คือความท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

“ผมรู้สึกว่า การย้ายมา Talon คือความท้าทายมากที่สุดของผม เพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้พร้อมเหมือนตอนอยู่กับ Fnatic หรือ T1 ที่ทุกคนเป็นเพลย์เยอร์มีประสบการณ์หมดแล้ว แต่ที่นี่มีแค่ kpii กับ Forev ที่มีประสบการณ์ ส่วนพี่ Q ก็ยังไม่เคยเล่นในเวทีใหญ่ ก็ต้องพยายามมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ”

“เรื่องประสบการณ์คือสิ่งที่น่ากังวลที่สุด อย่างตอนแรกที่ผมไม่เคยมีประสบการณ์ เวลาเล่นมันก็ยังทำได้ไม่เต็มร้อย แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องผ่านไปให้ได้”

“ผมไม่ได้รู้สึกกดดันที่มาแทน Gabbi แต่ผมรู้สึกถึงการต่อสู้มากกว่าเพราะถ้าเราพาทีมขึ้นมาได้ เราก็จะพิสูจน์ให้คนรู้ว่า ผมไม่ใช่อย่างที่ใครพูดกัน แต่ผมรู้สึกมั่นใจมากยังไงเราก็ขึ้นดิวิชั่น 1 ได้ การเตรียมทีมของเราตอนนี้ประมาณ 70% เพราะมันก็ต้องลองกันไปเรื่อยๆ เรายังเป็นทีมใหม่ก็ต้องลองแผนหลายแผน เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่เราก็เตรียมพร้อมได้ประมาณ 70% แล้ว”

แม้ต้องเผชิญอุปสรรคสำหรับการเริ่มต้นใหม่ แต่ ทรี รู้ดีถึงสิ่งที่เขาควรทำนั่นคือความพยายามที่ต้องมากกว่าเดิม เพราะเขาไม่ได้มองแค่ผลงานที่ดีในศึก DPC แต่เขาตั้งใจว่า จะต้องกลับไปแก้ตัวใหม่ใน TI 11 ให้ได้

เพราะเวทีแห่งนี้คือที่สุดของโลก Dota 2 ซึ่งเป็นความฝันยิ่งใหญ่ของเขา และเป็นอีกครั้งที่เขาพร้อมกลับมามีไฟไล่ตามโล่ Aegis ที่โหยหา

“TI 11 ยังคงเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของผม ผมอยากกลับไป TI มากกว่าเดิม ไม่อยากให้มันแย่กว่าเดิม แต่อยากทำให้ดีขึ้นในทุกๆ ปี”
“ตอนนี้ผมรู้สึกมีไฟกว่าเก่าเยอะ เพราะผ่านเรื่องแย่ๆ มาแล้ว มาถึงตอนนี้ผมมั่นใจกว่าเดิม ในปีนี้ผมจะเฉิดฉายกว่าที่เคยเป็น และจะได้เล่นเหมือนแคร์รีมากยิ่งขึ้น” ทรี ทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

อ่านเพิ่ม: Exclusive 23savage : วันที่ชีวิตต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียว