ความฝันคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมี บางครั้งฝันนั้นก็เป็นเป้าหมายชีวิตให้กล้าตัดสินใจออกไปเผชิญโลกกว้างอย่างไม่เกรงกลัว แต่จะมีสักกี่คนที่พร้อมจะทำตามฝัน ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ
JaCkky – สุริยา คุมเพ็ดสะวง (ສຸລິຍາ ຂຸມເພັດຊະວົງ) โปรเพลเยอร์วัย 21 ปี สังกัดทีม Motivate.Trust Gaming คือเด็กหนุ่มที่ฝันอยากเป็นโปรเพลเยอร์ Dota2 และเขาไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยปล่อย เมื่อตัดสินใจทำตามความต้องการ แม้ว่าจะต้องห่างไกลจากบ้านเกิดและไม่รู้ว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เขาเลือกที่จะทำ ดีกว่ามานั่งเสียใจภายหลัง
นี่คือเรื่องราวของเด็กหนุ่มจาก สปป.ลาว ที่อยากก้าวเดินบนเส้นทาง Dota2 อย่างมั่นคง และนับตั้งแต่วันแรก เกม คือเข็มทิศนำทางชีวิตจนเติบโตเป็นโปรเพลเยอร์ฝีมือดีในทุกวันนี้
ว่าที่สถาปนิกหนุ่ม
ช่วงหนึ่งทุกร้านเกมในประเทศไทยถูกเปิดด้วยหน้าจอสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของเกม Dota สุดยอด MOBA อันดับหนึ่งตลอดกาลที่ได้รับความนิยมมหาศาล เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ที่แม้จะไม่ได้นิยมเท่าเมืองไทย แต่เสน่ห์ของ Dota ก็มากพอจะทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งหลงใหลในเกมๆนี้
“ผมเห็นพี่คนหนึ่งเขาเล่น Dota แล้วมันน่าสนุกดีก็เลยเล่นมาตั้งแต่ตอนนั้น” JaCkky เท้าความจุดเริ่มต้นกับ Dota ในวัยเด็ก
“ผมไปเล่นตามร้านเกมบ้าง แต่ที่นั่นความนิยมไม่ได้ดีเหมือนที่ไทย แต่ Dota เป็นเกมออนไลน์แรกๆที่ผมเคยเล่น ก็ฝึกเล่นกับ Bot ในช่วงแรกๆ ฝึกไปเรื่อยไม่ได้คิดหรอกว่าอยากจะเป็นโปรเพลเยอร์ การแข่งขันก็ยังไม่เคยได้ไปแข่งที่ไหน”
“แต่อย่างเอเชียนเกมส์ ที่ใส่ Dota2 เข้าไป ในลาวก็ยังไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะตัวเกมมันยาก ทำให้หลายคนเล่นแล้วเลิกไป แต่ผมก็รู้สึกดีนะที่ Dota2 ในเอเชียมีอะไรเข้ามาใหม่ เพราะ Dota2 จะค่อนข้างกระแสดีในยุโรปมากกว่า การได้เป็นหนึ่งในกีฬาเอเชียนเกมส์ทำให้รู้สึกดีมากๆสำหรับผม”
Dota ในภาคแรกทั้งในไทย และประเทศเพื่อนบ้านเกิดกระแสความนิยมลดลงไป ก่อนจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งใน Dota2 ซึ่งมาพร้อมทัวร์นาเมนต์แข่งขันที่มากขึ้นกับการเปิดกว้างสำหรับผู้เล่นฝีมือดีที่ต้องการเป็นโปรเพลเยอร์
เวลานั้น JaCkky อาจยังประสบการณ์น้อย แต่ฝีมือของเขามีดีพอที่ทำให้ Teros Esports สังกัดอีสปอร์ตสัญชาติไทย คว้าตัวไปร่วมทัพ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นโปรเพลเยอร์เต็มตัว เพราะ JaCkky ลงเล่นกับ Teros อยู่ที่สปป.ลาว ไม่ได้มีบูทแคมป์กับทีม เพราะยังอยู่ในวัยเรียน
แต่แล้ววันหนึ่งโอกาสครั้งสำคัญบนเส้นทาง Dota2 ก็มาถึง เมื่อ JaCkky ถูกสังกัดไทยชักชวนให้เข้าร่วมทีม นั่นคือ ALPHA Red
“ช่วงหนึ่งมีทัวร์นาเมนต์ที่ลาว เขาจัดแข่งกันที่ต่างจังหวัด ผมมีโอกาสได้ไปแข่ง ซึ่งเป็นรายการแรกของผม มันเป็นรายการที่ไม่ได้ใหญ่มาก ผมกับพี่และเพื่อนไปฟอร์มทีมขึ้นมาเองเพียงแค่อยากแข่งเฉยๆ”
“ตอนนั้นผมชอบ Miracle(อดีตผู้เล่น Team Liquid ชุดแชมป์ TI 2017) อยากเก่งอยากแรงค์สูงๆแบบเขาก็เลยฝึกมาเรื่อยๆ จนมีพี่คนหนึ่งชื่อพี่บิน(MyPro – กิตติกร อินทร์เงิน อดีตกัปตันทีม ALPHA Red) มาชวนผมให้ไปอยู่ในสังกัดครั้งแรก”
ขณะนั้น JaCkky กำลังเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ปี 2 เพื่อเป็นสถาปนิกอย่างที่วางแผนเอาไว้ คำชักชวนจาก บิน-MyPro จึงทำให้เขาตัดสินใจค่อนข้างยาก เพราะต้องทิ้งการเรียน ทิ้งบ้านเกิดเพื่อไปใช้ชีวิตที่ประเทศไทยเป็นหลัก
“เป็นการตัดสินใจยากมาก แต่ก็เลือกที่จะทิ้งเรียนมาแข่ง พ่อก็ไม่อยากให้ไป แต่แม่เขาโอเคนะ มันเป็นการตัดสินใจที่ยาก เดิมทีเขาก็ไม่ได้สนับสนุนหรอก แต่ก็ปล่อยให้เราทำในสิ่งที่อยากทำ ครั้งนั้นเป็นการมาเล่นในต่างประเทศครั้งแรกด้วย”
เมื่อโอกาสมาเคาะถึงหน้าประตู แม้จะกังวลเมื่อต้องดร็อปเรียน และจากบ้านเกิด แต่เพื่อความฝัน JaCkky ตัดสินใจตอบรับคำชวนเข้ามาเป็นสมาชิก ALPHA Red สังกัดแรกที่ทำให้เขาก้าวเท้าสู่การเป็นโปรเพลเยอร์เต็มตัว
เกือบแขวนเมาส์
การย้ายสู่ ALPHA Red ทำให้ JaCkky ต้องเก็บกระเป๋ามาใช้ชีวิตในไทยเพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีม ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่สำหรับเขา เพราะเป็นการเล่นต่างแดนครั้งแรกในชีวิต
“ผมตื่นเต้นนะ เพราะเดิมทีเราไม่ได้คิดจะเป็นโปรเพลเยอร์ตั้งแต่แรก มันมองเป็นโอกาสด้วย ผมอยากลองเสี่ยงดู แต่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับเส้นทางนี้ของตัวเอง เพราะยังไม่ได้มั่นใจในฝีมือมากนัก”
“ALPHA Red เป็นทีมที่ผมมองว่า พวกเขาเก่งรู้สึกอยากร่วมทีมด้วย คิดว่าจะได้เล่นมิดเลน แต่พอไปแล้วได้เล่นแคร์รีก็ต้องฝึกเยอะอยู่ ผมใช้เวลา 1 ปี ในการปรับตัว ประกอบกับทีมมีเปลี่ยนไลน์อัพผู้เล่น เรายังไม่เคยได้ที่แชมป์ในรายการใหญ่ๆ แต่รายการเล็กๆก็มีแชมป์บ้าง ผมเองไม่ได้มีประสบการณ์เพิ่งมาใหม่ด้วย”
ตลอด 1 ปี กับ ALPHA Red ทำให้ JaCkky ได้พัฒนาฝีมือในบทบาทแคร์รี เพิ่มเติมประสบการณ์ Dota2 มากขึ้น นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นทีมไทยทีมแรกที่เอาชนะ Open AI สมองกล Dota2 ที่เคยชนะยอดทีมอย่าง OG แชมป์ The International 2018 มาแล้ว
แต่เวลาเดียวกันเขาต้องเผชิญการปรับตัวอย่างยากลำบากจนถึงขั้นขอทีมกลับไปพักที่บ้านเกิด และคิดจะยุติเส้นทาง Dota2 เพียงเท่านี้
“ตอนใช้เวลา 1 ปี เต็ม มันก็มีท้อบ้าง ไม่ได้โดดเด่นอะไร มีท้อจนเคยคิดจะหยุดเล่นไปเลย”
“ตอนนั้นความรู้สึกผมคืออยากจะกลับมาเรียนต่อแล้ว ด้วยความกดดันที่เวลาตัวเองเล่นไม่ดี ผมจะกดดันตัวเอง รู้สึกแย่ไปเลยเต็มๆวัน แต่ใจหนึ่งคิดว่า ถ้าเรากลับไปเรียนเพื่อนก็คงเรียนจบก่อน อีกใจหนึ่งคิดว่า วันนี้ผมมาถึงจุดนี้แล้ว เราก็ต้องมาลองสู้กันอีกรอบ”
“ตอนที่ผมท้อ ผมขอทีมเพื่อจะกลับมาพักอยู่บ้าน(สปป.ลาว) คิดว่าจะเลิกเล่นไปเลยด้วยซ้ำ แต่พออยู่บ้านได้ทบทวนความคิด รู้สึกว่า เราไม่น่าออกมาเลยก็มีคุยเปิดใจกับทีม ผมก็ชั่งใจว่า จะเลือกเล่นหรือกลับมาเรียนต่อดี”
“ช่วงนั้นพอดีกับที่ Resurgence เขาขาดผู้เล่นแคร์รีพอดี ผมเริ่มคิดอยากจะกลับไปเล่นต่อ ไม่รู้ว่า สุดท้ายแล้วเราจะเลิกไปทำไม พอหายท้อก็คิดแล้วว่า มันจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ ผมจะต้องกลับมาให้ได้ จากนั้นก็ไปเริ่มต้นใหม่ด้วยการไปเล่นที่สิงคโปร์กับ Resurgence”
JaCkky เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับ Resurgence ด้วยความท้าทาย เขากลับสู่เวที Dota2 พร้อมความมุ่งมั่นที่จะไม่หันหลังให้การแข่งขันอีกแล้ว…
ร่วมทีมไทยในตำนาน
ช่วงอยู่กับ Resurgence ที่สิงคโปร์ JaCkky เคยลงเล่นกับ EVOS Esports ของอินโดนีเซีย ในฐานะสแตนด์อิน รายการ ESL Indonesia Championship Season 2 ซึ่งทำให้เขาได้สัมผัสอีกหนึ่งลีก Dota2 ของอาเซียน
หลังอยู่กับ Resurgence 2 เดือน JaCkky ตัดสินใจออกจากทีม เพื่อลงรับใช้ทีมชาติลาวในศึก World Electronic Sports Games 2019 Southeast Asia Finals(WESG) ที่ประเทศมาเลเซีย โดยในเวลานั้นเขาเป็นเพลเยอร์ไร้สังกัด แต่ฝีมือการเล่นที่ยอดเยี่ยมทำให้ถูกสังกัดไทยชักชวนกลับมาร่วมทีมอีกครั้ง
“หลังไปแข่งให้ทีมชาติที่มาเลเซีย พี่เบส(Lakelz – พิพัฒน์ ปริยชาติ โค้ช Motivate.Trust ในปัจจุบัน) มาถามว่า จะกลับมาเล่นอีกไหม ผมก็ขอเขาคิดก่อน ผมคิดอยู่ช่วงหนึ่งก็ตอบเขากลับไปว่า ผมจะกลับมาเล่น”
จบศึก WESG ที่มาเลเซีย JaCkky ย้ายมาเล่นภายใต้สังกัด 2Be Continued Esports ซึ่งผู้เล่นทุกตำแหน่งล้วนมาจาก ALPHA Red อดีตต้นสังกัดของ JaCkky ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาปรับจูน ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาได้โอกาสสัมผัส The International 2019(TI) รอบคัดเลือก SEA ครั้งแรก
“TI คือที่สุดของโปรเพลเยอร์ที่ทุกคนต่างคาดหวังกัน แต่ผมไม่ได้รู้จัก TI หรอกนะว่า มันคืออะไร ที่เคยดูMiracle แข่งก็แค่ดูเฉยๆไม่รู้ว่า รายการ Major หรือ Minor คืออะไร ผมเพิ่งมารู้จัก TI จริงๆก็ตอนที่ได้ลงแข่งในตอนนี้”
“ผมจำได้ว่า เล่นไม่เป็นตัวเองเลย มันเป็นรายการคัดเลือก ตอนนั้นผมยังควบคุมอารมรณ์ให้มีสติในการเล่นไม่ดีเท่าไหร่ ประสบการณ์น้อยด้วย ก็เสียใจนะ แต่คุยกับเพื่อนในทีมว่า เรายังมีโอกาสในครั้งหน้า”
ในปีเดียวกัน 2Be.Dota 2 ต้องกลายเป็นทีมไร้สังกัดยกชุด เมื่อถูกทีมเดิมแยกทางกลางคัน แต่นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้แฟนๆ Dota2 ของไทย ฮือฮา เพราะต้นสังกัดใหม่ของ JaCkky และเพื่อนร่วมทีมคือการกลับมาของตำนานDota2 เมืองไทยอย่าง Trust Gaming
ด้วยความลงตัวของ Motivate.Trust Gaming เดินหน้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ถือเป็นการกลับอย่างยิ่งใหญ่สมการรอคอยของ Trust Gaming ที่มี JaCkky อยู่ในทีม ก่อนที่ฟอร์มของเขาจะไปเตะตา T1 ทีมดังDota2 ของเกาหลีใต้
JaCkky ได้เผชิญความท้าทายใหม่อีกครั้งกับสังกัดประเทศที่ 5 ในวงการDota2…
- Cyberclasher : เส้นทางสู่ภัยพิบัติระดับหมอลำซิ่ง
- Masaros : หนุ่มวัย 23 ปี ที่ทิ้งชีวิตเถ้าแก่น้อยเพื่อเป็นโปร Dota 2
อกหักกับ T1
“ก่อนย้ายไป T1 กับ Trust ทุกอย่างดีมาก กำลังลงตัว ก่อนที่ T1 จะติดต่อเข้ามา” JaCkky กล่าวถึงช่วงเวลาการย้ายไป T1
“ตอนแรกผมมั่นใจมากกับโอกาสไป TI กับ Trust เพราะทุกอย่างมันพร้อมมากๆ ผมไม่ได้อยากย้าย แต่เป็นช่วงเดียวกับที่ Masaros อยากไป Fnatic ก็เลยโอเคลองออกไปเล่นดู แต่ใช้เวลาตัดสินใจนานก่อนจะออกจากทีมประมาณ 5-6 วัน กว่าจะตอบ T1 ก็ถามเราว่า สนใจไหม สุดท้ายก็เลยอยากลองไปดู มันก็ท้าทายอยากรู้ว่า การไปครั้งนี้จะเป็นอย่างไร”
T1 เปิดตัว JaCkky เป็นแคร์รีคนใหม่พร้อมกับ Xepher ตำแหน่งซัพพอร์ตโดยเข้ามาแทน 2 ผู้เล่นอย่าง Jhocam และ inYourdreaM ที่ถูกปล่อยออกจากทีม การย้ายสู่ T1 เปรียบเสมือนการเติบโตอีกขั้นของเขา
ยิ่งกว่านั้นเขายังทำ MMR ทะลุหลัก 11K เป็นคนที่ 3 ของโลก ต่อจากอันดับสองอย่าง หนึ่งนรา “23Savage” ธีรมหานนท์ และคนแรกอย่าง Abed มิดเลนชาวฟิลิปปินส์ของ Evil Geniuses
ทว่าการร่วมงานกับ T1 เป็นเพียงช่วงสั้นๆ เพราะถึงแม้จะพาทีมคว้าโควตาลุย ONE Esports Singapore Major แต่ถูก T1 ประกาศแยกทาง ก่อนที่อดีตสังกัดเก่าจะคว้า 23Savage เข้ามาแทน
“T1 เป็นทีมที่แตกต่างจากทีมที่ผมเคยเล่นมา เขาจะเล่นอีกสไตล์หนึ่งกับ Trust แต่เป็นทีมที่มีความเป็นมืออาชีพ แต่ตอนนั้น T1 เป็นเพลเยอร์ชุดเก่าเลยยังไม่โดดเด่นมาก ตอนผมไปอยู่เขาโละคนเก่าออกทั้งหมด ผมเป็นหนึ่งในผู้เล่นใหม่ ซึ่งผมปรับตัวได้ยากสุด เพราะผมเป็นคนเดียวที่มาจากทีมอื่น ส่วนอีก 4 คน เขามาจากทีมเดียวกัน”
“ต้องปรับตัวใหม่กว่าหนึ่งเดือน แต่ก็ช่วยเพิ่มประสบการณ์ Dota2 ได้เยอะ ตอนนั้นผมคาดหวัง เมเจอร์ แต่พอคัดผ่านกำลังจะได้เล่นก็กลับไม่ได้ไปต่อ อาจเพราะผมไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้เล่นพูดไม่ใช่ภาษา แต่เป็นการเล่นที่ไม่เหมือนกัน ผมยังติดวิธีการเล่นจากทีมเดิม ซึ่งมันก็มีจุดเล็กๆน้อยๆที่ไม่เข้ากัน”
“ยอมรับว่า ผิดหวังที่ต้องออกจากทีม เพราะผมยังไม่เคยไปเมเจอร์เลยสักครั้ง ซึ่งตอนนั้นผมกำลังมีโอกาสได้เล่นเมเจอร์ แต่สุดท้ายทีมก็มาบอกแยกทาง”
JaCkky ผิดหวังอย่างหนักจากความทุ่มเทมาตลอดที่หวังจะได้เล่นรายการระดับเมเจอร์ แต่กลับต้องผิดหวัง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ปล่อยทุกอย่างให้เสียเวลา เมื่อตกลงย้ายกลับมาอยู่ Motivate.Trust Gaming อีกครั้ง
และครั้งนี้ เขามาพร้อมเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้
สานต่อพา Motivate.Trust Gaming ไป TI
ความผิดหวังจาก T1 ไม่ได้ทำให้ JaCkky คิดล้มเลิกความพยายาม เขาตัดสินใจกลับมาเล่นให้ Motivate.Trust Gaming อีกหน โดยยังหวังเล่นรายการระดับเมเจอร์ และแน่นอนว่า TI ยังคงเป็นความฝันสูงสุดของเขาที่อยากลองสัมผัสสักครั้ง
“ตอนออกจาก T1 ผมก็มองทีมอื่นไว้เลย เพราะยังอยากเล่นต่อยังอยากไปเมเจอร์ ครั้งนี้ไม่ได้ไม่เป็นไรก็แค่เริ่มกันใหม่ ตอนนั้นมีทีมอื่นมาชวน แต่เป็นช่วงเดียวกับ Masaros ออกจาก Fnatic ด้วยก็โอเคงั้นกลับไปดีกว่า แต่กลับมาก็ยังงงๆ เพราะมาจาก T1 ก็ติดแผนที่เก่ามา ก็ต้องมาจูนกันใหม่”
“ผมยังมองโอกาสไปเล่น TI กับ Trust เหมือนเดิม แต่การเล่นยังไม่ได้ลงตัวเท่าไหร่ คนละสไตล์ที่ต้องมาจูนกันใหม่”
JaCkky พาทีมเลื่อนชั้นสู่ Upper Division ได้สิทธิ์ลุยศึก The International 10: Southeast Asia Qualifier แต่แล้วกลับต้องผิดหวัง เพราะพ่ายต่อ Galaxy Racer ด้วยสกอร์ 0-2 ปิดฉากเส้นทาง TI รอบคัดเลือกเพียงสายล่าง รอบ 3
“เรามีเวลาเตรียมตัวประมาณเดือนเดียวเท่านั้นก่อนคัด TI แต่ผมก็พอใจเพราะเราได้ทำเต็มที่แล้ว สิ่งที่เราขาดไปคือการเล่นที่ยังไม่เหมือนกันทำให้แพ้ ด้วยเรื่องเวลาการเตรียมทีมด้วย แต่สำหรับความผิดหวังผมรู้สึกชินแล้ว แต่ก็บอกตัวเองว่า วันนี้ไม่ได้ เดี๋ยวสักวันหนึ่งต้องมีวันที่เราทำได้ ผมยังรู้สึกมีความท้าทายอยู่ตลอดเวลาบนเส้นทางนี้”
“ผมรู้สึกเหมือนตัวเองคือ Juggernaut เป็นตัวที่ตายยาก ทีมไฟท์อาจจะเก่ง ช่วยรักษาเพื่อนได้ แต่ต้องมีไอเทมค้อนสายฟ้า จะได้ช่วยฟาร์มเร็วทีมไฟท์เก่ง ก็เหมือนกับชีวิตจริงของผมที่จะได้เพิ่มเติมสิ่งที่เรายังขาดไป”
“และเป้าหมายของผมยังคงเดิม ผมอยากจะไปสัมผัส TI สักครั้ง” JaCkky ทิ้งท้าย
อ่านเพิ่ม: ล้ม/ลุก/คลุก/คลาน : เส้นทางโค้ช Dota2 ที่ไม่เคยง่าย ของ Lakelz