“Themiang” หรือ เมี่ยง-ณัฐยศ ศิริกายะ ผงาดคว้าแชมป์การแข่งขัน Toyota Gazoo Racing GT Cup Asia 2021 (TGR GT Cup Asia 2021) ด้วยการคว้าชัย 2 เรซ และอันดับสาม 1 เรซ
นักซิ่งชาวไทยโชว์ฟอร์มบังคับพวงมาลัยได้อย่างเยือกเย็นและรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดการแข่งขันจนทำให้คว้าโควต้าไปแข่งขันรายการระดับโลกอย่าง TGR GT Cup 2021 ในเดือนพฤศจิกายน
ขณะที่ Y.T. Chou จากไต้หวันก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กันด้วยการคว้าอันดับที่สองพร้อมโควต้าไปชิงแชมป์โลก
ส่วนแชมป์เก่าอย่าง Aleef ไม่ใช่วันที่ดีของเขาเท่าไรแต่ก็ยังได้ขึ้นโพเดียมหลังคว้าอันดับที่ 3 มาครองได้
ในประเภททีมเป็นทีมไทยที่คว้าแชมป์มาครองได้ จากผลงานของ ณัฐยศ ศิริกายะ รวมไปถึงผลงานของ เพื่อนร่วมทีมอย่าง วศิน เกิดพิทักษ์ และ ธนภัทร พวงพัฒน์
รอบรองชนะเลิศกลุ่ม A
รูปแบบของทัวร์นาเมนต์ปีนี้แตกต่างไปจากงานปีที่แล้วเล็กน้อย โดยมีนักแข่ง 21 คนจาก 7 ทีมแข่งชันเพื่อชิงชัยทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีม
การแข่งขันถูกแบ่งออกเป็นสองรอบรองชนะเลิศด้วยการแบ่งเป็น กลุ่ม A และ B โดยแต่ละรอบคัดเลือกจะมีนักแข่งผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ 5 คน และการแข่งขันรอบแก้ตัวจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายสำหรับผ่านเข้าไปแข่งในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง
รอบรองชนะเลิศเรซแรกแข่งขันที่ สนามแข่ง ทางด่วนพิเศษ โตเกียว และนักแข่งใช้รถ Toyota GR Yaris โดยในสนามนี้ที่สามารถทำความเร็วได้และการวางกลยุทธ์ในการขับจะสามารถสร้างความแตกต่างได้
ทันทีที่การแข่งขันเริ่มต้นทั้ง ณัฐยศ และธนภัทร แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเตรียมตัวมาอย่างดีและตอบแทนทั้งคู่ด้วยการออกนำในอันดับ 1 และ 2
การออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมทำให้ทั้งคู่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับรอบแรก แต่สิ่งที่ต้องระวังคือทางตรงยาวก่อนถึงโค้งแรกที่ค่อนข้างแคบซึ่งอาจจะทำให้นักแข่งเกิดความผิดพลาดได้ และในจังหวะที่ Iqbal จากมาเลเซียพยายามที่จะเบียดแซงแต่ไม่สามารถทำได้ทำให้ช่องว่างของการแข่งยิ่งถูกถ่างออกไปอีก
ในจังหวะนี้แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ยอดเยี่ยมของนักแข่งทีมไทยในการแข่งในสนาม ขณะที่การต่อสู้เพื่ออันดับที่ 3 ก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่าง Iqbal และ Aleef แม้ว่าทั้งคู่ยังเน้นความปลอดภัยเพราะยังต้องการอันดับเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศ
ส่วนคนที่ตามมาอย่าง Raghav ที่ปรับให้ออกสตาร์ทกริดที่ 5 ก็สามารถรักษาอันดับของตัวเองไว้ได้ขณะที่ผู้นำอย่าง ณัฐยศ และธนภัทร ยังรักษาอันดับผู้นำของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมจนจบการแข่งขันและ Themiang คว้าอันดับที่ 1 ไปครอง
รอบรองชนะเลิศ กลุ่มบี
แต่การแข่งขันแตกต่างออกไปในกลุ่มบีแม้ว่าจะแข่งขันในสนามเดียวกันและใช้รถรุ่นเดียวกันซึ่งนักแข่งหลายคนเลือกกลยุทธ์ของตัวเองจนกระทั่ง Y.T. Chou จากไต้หวัน และ วศิน จากไทย รวมไปถึง Shen-Hsien Lin จากไต้หวันอีกคน ที่เร่งในช่วงท้ายและได้ตำแหน่งกริดสตาร์ทอันดับที่ 1,2 และ 3
เช่นกันในสนามนี้นักแข่งต่างระมัดระวังในโค้งแรกของการแข่ง และทุกคนสามารถผ่านได้อย่างไร้ปัญหาแต่การถูกปรับโทษของ Abishek จากอินเดียทำให้ Y.T. Chou และ วศิน ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี
ขณะเดียวกัน Taj Aiman ค่อยๆขยับอันดับของเขาเองมาเรื่อยๆ จนมาอยู่ที่ 3 และเป็นผู้นำในกลุ่มที่ 2 ของการแข่ง
การแข่งขันในกลุ่มหลังยังดุเดือดแต่ผู้นำ 5 คนแรกพยายามที่จะรักษาอันดับของตัวเองไว้ เพื่อผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
และเป็นอีกเรซที่การแข่งขันออกมาตื่นเต้นเร้าใจและอันดับที่ 1 และ 2 ตกเป็นของ Y.T. Chou และ วศิน ที่นำมาตลอด
รอบแก้ตัว
สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศยังเหลือรอบแก้ตัวที่แข่งขันที่ ฟูจิ สปีดเวย์ และใช้รถ Toyota GR Supra ในรอบนี้จะเน้นที่ผลงานส่วนบุคคลมากกว่าการแข่งแบบเป็นทีมเหมือนอย่างรอบที่ผ่านมา
ตำแหน่งโพลในการออกตัวตกเป็นของ A.R. Maulana และมี Ethan และ N. Junggil ตามมาที่อันดับ 2 และ 3 ในสนามนี้ยังมีหลายจุดที่ต้องระวังและนี่คือหัวใจของความสำเร็จ
ทั้ง A.R. Maulana และ Ethan ต่างผ่านเข้ารอบต่อไปได้ส่วนผู้ที่ตามมาข้างหลังต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดจากอันดับที่ 3 ถึง 8 เพราะทุกคนต้องสู้เพื่อการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ
P. JunHyeong และ N. Junggil, รวมไปถึง Nabil ต่างลุยกันอย่างเต็มที่แต่ในช่วงสุดท้าย Nabil พลาดและทำให้เขาไม่ได้ไปต่อ
รอบชิงชนะเลิศรอบที่ 1
รอบชิงชนะเลิศรอบแรกจะใช้สนาม เซอร์กิตเดอสปา-ฟรองโกชองส์ ที่เบลเยียม โดยนักแข่งทั้ง 15 คนจะใช้รถ Toyota รุ่น GR 86
ณัฐยศ ยังรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของตัวเองไว้ได้และได้ตำแหน่งโพลโพซิชั่นตามมาด้วย M. Pratama และ Y.T. Chou. แม้ว่าแต่ละรอบจะใช่เวลาเฉลี่ยกว่า 2 นาทีแต่การแข่งขันกลับสูสีสุดๆและรถทั้งเจ็ดคันเวลาต่างกันแค่ 0.4 วินาทีเท่านั้น
การแข่งรอบนี้นักแข่งต้องเตรียมแท็คติกมากมายทั้งการเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยางและการเลือกยางที่จะใช้ในการแข่งขันซึ่งความแตกต่างเห็นได้ชัดทันทีจากนักแข่งที่เลือกใช้ยางมีเดียมกับคนท่ีใช้ยางแบบแข็ง
หลังจบรอบแรก Aiman เข้าพิตพร้อมกับนักแข่งอีกหลายคนเพื่อเปลี่ยนยาง ส่วนแชมป์เก่า Aleef ยังวิ่งต่อไปและหวังว่ายางที่ดีกว่าจะให้ผลลัพท์ที่ดีในช่วงท้าย
ขณะที่ผู้นำอย่าง ณัฐยศ ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและค่อยๆทิ้งห่างออกไปเรื่องขณะที่ผู้ตามที่เหลือพยายามที่จะทำเวลาไล่จี้เข้ามา
Aleef เข้าพิทเมื่อสิ้นสุดรอบที่ 2 และเสียตำแหน่งให้กับทั้ง Aiman และ Raghav ที่เคยเข้าพิทก่อนหน้านี้ แม้ว่า Aleef จะไล่ Aiman ได้ทันแต่แซง Raghav ไม่สำเร็จนี่แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์การเปลี่ยนยางมีความสำคัญและมีค่ามากขนาดไหนในการแข่งส่วนผู้นำการแย่งอันดับสองเกิดขึ้นอย่างดุเดือด
Themiang ผ่านธงตรามหมากรุกเป็นที่หนึ่งได้อย่างไม่ยากเย็น ตามมาด้วย Moreno และ Aiman ที่เข้ามาเป็นที่สามส่วนที่ 4 ได้แก่ ธนภัทร
ทำให้ ณัฐยศ กุมความได้เปรียบที่จะคว้าแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้
รอบชิงชนะเลิศรอบที่ 2
โดยรถที่ใช้แข่งรอบนี้คือ Toyota TS050 ซึ่งเป็นรถรุ่นไฮบริดทำให้มีความแตกต่างพอสมควรในการปรับแต่งรถในสนามนี้
หัวใจสำคัญของรอบคัดเลือกคือนักขับต้องมีความระมัดระวังไม่ให้เจอปรับโทษที่จะส่งผลต่อตำแหน่งการสตาร์ทนอกจากนี้การใช้รถพลังงานไฮบริดก็มีผลต่อการวางกลยุทธ์การทำความเร็วในการแข่งขันด้วย
ความผิดพลาดแค่นิดเดียวส่งผลให้ผู้ขับขี่ที่แม้จะพยายามขับอย่างระวังแต่ว่า Y.T. Chou มาเร่งช่วงท้ายและได้ตำแหน่งโพลโพซิชั่นตามมาด้วย Aleef และผู้ชนะจากสนามที่แล้วอย่างณัฐยศรั้งอันดับที่ 5 ซึ่งทำให้เขาเจอความกดดันพอสมควร
ด้วยธรรมชาติของรถที่ความเร็วสูงทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นการแข่งที่เกาะกลุ่มมากนักการขับอย่างระมัดระวังกลายเป็นกลยุทธ์ที่หลายคนเลือกใช้ และที่น่าสนใจคือณัฐยศใช้ยางอ่อนขณะที่รถที่อยู่ข้างหน้าของ Iqbal และ ธนภัทรเลือกใช้งานมีเดียมซึ่งกลายเป็นว่าทำให้ Themiang ไล่แซงพวกเขาทันและขยับมาตามผู้นำอย่าง Y.T. Chou และ Aleef ได้อย่างรวดเร็ว
ในรอบที่ 2 Moreno เกือบชนกับ Iqbal แต่ยังโชคดีที่ควบคุมรถเอาไว้ได้
ส่วนรอบที่ 3 Y.T. Chou เจอลงโทษเล็กน้อยและถูก Aleef ไล่จี้เข้ามาแต่อย่างไรก็ตามนักแข่งจากไต้หวันก็รักษาตำแหน่งผู้นำได้จนจบการแข่งขัน ตามมาด้วย Aleef และณัฐยศคว้าอันดับที่ 3 แต่ก็ดีพอที่จะคว้าแชมป์
เมื่อจบการแข่งขัน ณัฐยศ ศิริกายะ คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จโดยมี Y.T. Chou ได้อันดับที่สองทำให้ทั้งคู่ได้โควต้าไปแข่งขัน TGR GT Cup 2021 ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่แชมป์เก่าอย่าง Aleef ได้อันดับที่สามของการแข่งขัน
ในประเภททีมจากการประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมของนักขับจากไทยทำให้ทีมไทยคว้าแชมป์ประเภททีม อันดับสองเป็นของมาเลเซีย และ ไต้หวัน
โดยแชมป์ของการแข่งขันอย่าง ณัฐยศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันรอบสุดท้าย “การเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยการมีคะแนนนำทำให้ผมรู้ตัวดีว่าไม่จำเป็นต้องเสี่ยงทั้งหมดที่ต้องทำคือพยายามรักษาอันดับให้ดีพอที่จะคว้าแชมป์และโชคดีที่ผลเป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้”
“ชัยชนะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดี” ณัฐยศ กล่าวต่อ “โดยเฉพาะที่ผลการแข่งขันในปีที่แล้วที่ไม่คอยดี ทำให้ผมเจอกับความกดดันและการคว้าแชมป์ได้เหมือนการยกภูเขาออกจากอกของผมเลย”
ณัฐยศยังเล่าถึงช่วงเวลาที่ดีในการแข่งคือการคว้าแชมป์รอบรองชนะเลิศกลุ่ม A ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมชาวไทย “การคุมเกมคุมจังหวะการขับร่วมกับธนภัร”
สำหรับรายการใหญ่อย่าง TGR GT Cup 2021 ในเดือนพฤศจิกาณัฐยศกล่าวว่า “ผมตั้งตารอที่จะได้เป็นตัวแทนของเอเชียและจะทำให้ดีที่สุด การได้ลงแข่งในเวทีระดับโลกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของชีวิจตผมมาโดยตลอดและในตอนนี้ผมมีโอกาสนั้นแล้วขอบคุณ Toyota และผู้สนับสนุนผมทุกๆคนขอบคุณมากๆครับ”
อ่านเพิ่ม: ข้อจำกัดเยอะ! Themiang รับสุดกดดันก่อนพาทีมไทยชิงแชมป์โลก GT Cup
