GR Supra GT Cup Asia 2020 รอบภูมิภาค แข่งขันเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย โดย Muhammad Aleef ชาวสิงคโปร์คว้าชัยชนะไปครองโดยขับเคี่ยวกับ Taj Aiman นักแข่งชาวมาเลเซีย และ ณัฐยศ ศิริกายะ นักซิ่งชาวไทย ก่อนที่สุดท้ายแล้ว ความเร็วและ จังหวะที่ไม่เป็นใจที่เกิดขึ้นกับคู่แข่งจะกลายเป็นปัจจัยตัดสินแชมป์จนทำให้ นักแข่งจากแดนลอดช่องคว้าแชมป์ไปครอง
การแข่งขันจัดขึ้นทั้งหมด 3 เรซ โดย 2 เรซแรกเป็นสนามแข่งที่เน้นความเร็วจัดขึ้นโดยใช้เกม Gran Turismo Sport แข่งขัน และนักแข่งทุกคนใช้รถ Toyota gr supra 2020
เรซที่ 1 – Fuji Speedway
ประเดิมเรซแรกของการแข่งขันที่สนาม ฟูจิ สปีดเวย์ หนึ่งในสังเวียนความเร็วที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด และเป็นที่จดจำของแฟนๆความเร็วมากที่สุด
ในรอบควอลิฟาย Aleef เฉือนเอาชนะ Aiman คู่แข่งไปแบบเฉียดฉิวด้วยหน่วยที่คิดเป็น 1 ในพันต่อวินาที ขณะที่ ธนภัทร พวงพัฒน์ จากไทยอยู่อันดับที่ 3 ในกริด ตามมาด้วย ณัฐยศ ศิริกายะ และ Iqbal Suji จากมาเลเซีย
สำหรับรอบคัดเลือกก็สามารถสร้างความตื่นเต้นได้แล้ว เมื่อระยะห่างของเวลาในรอบคัดเลือกของนักขับทั้งหมดจากอันดับที่ 1 ถึงอันดับสุดท้ายเวลามีช่องว่างห่างกันเพียงแค่ 1.4 วินาทีเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงความสูสีของการแข่งขันได้เป็นอย่างดี
การแข่งขันในสนามส่วนที่นักแข่งพบปัญหามากที่สุดคือโค้งที่ 1 หลังจากช่วงทางตรงยาว แต่นักแข่งยังคงประคองตัวไม่ให้เกิดการชนได้ โดยเป็น Aleef ที่ขึ้นนำโดยมี Aiman ตามมาติดๆ
อย่างไรก็ตามการแข่งขันที่เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของสนาม Aiman ตัดสินใจเรื่องการเบรกผิดพลาดทำให้รถของเขาปะทะกับ Aleef แต่ยังโชคดีที่ทั้งคู่ไม่เสียจังหวะมากนัก แต่ก็ทำให้ Aiman ถูกลงโทษปรับบวกเวลาเพิ่ม 1 วินาที
ซึ่งการถูกปรับเวลาดังกล่าวถือว่าส่งผลอย่างมากในสนามฟูจิแห่งนี้ที่นักแข่งจะต้องรักษาเวลาในแทร็กที่มีทางตรงค่อนข้างยาวซึ่งการถูกปรับดังกล่าวส่งผลกับ Aiman อย่างเห็นได้ชัด
ส่วน ธนภัทร พวงพัฒน์ เจอปัญหาเช่นกันในโค้งที่ 1 ในรอบที่ 2 จนเสียจังหวะ ขณะที่ Aleef ที่เริ่มควบคุมรถได้ดีขึ้นเรื่อยๆ และไล่บี้กับ ณัฐยศ แบบติดๆ
แต่โชคร้ายที่ ณัฐยศ เจอปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทและไม่สามารถแก้ไขได้ จนในที่สุดต้องหลุดออกจากการแข่งขัน จนทำให้ Aleef ทิ้งระยะห่างจากนักแข่งคนอื่นๆและนำม้วนเดียวจบไปจนจบการแข่งขันทั้ง 7 รอบ
ด้าน Iqbal Suji นั้นทำผลงานได้ดี จนทำให้คว้าอันดับที่ 2 ของการแข่งขันในสนามนี้ไปครอง ตามมาด้วย Taj Aiman, Terence Lallave และ Nur Shazliezhan
เรซที่ 2 – Tokyo Expressway East Outer Loop
เรซต่อมาเปลี่ยนมาแข่งขันที่สนามทางพิเศษโตเกียวรอบนอก ถือว่าเป็นความท้าทายอีกรูปแบบและมีความแตกต่างจากสนามที่ผ่านมาที่ฟูจิอย่างสิ้นเชิง
โดยสนามนี้จะตัดสินกันที่ตามแตกต่างเพียงเล็กน้อยนักขับจะต้องระวังแบริเออร์ที่อยู่ด้านข้าง รวมถึงระวังนักแข่งคนอื่นๆในแทร็กที่หนาแน่นด้วย โดยในรอบคัดเลือกผู้ที่ครองตำแหน่งออกสตาร์ทที่แถวหน้ายังคงเป็นหน้าเดิมๆ จากเรซท่ีแล้วเพียงแต่สลับที่ ครั้งนี้ ธนภัทร พวงพัฒน์ ได้ตำแหน่งโพล ส่วน Aleef อยู่อันดับที่สอง และตามมาด้วย Terence Lallave
เริ่มการแข่งขันช่วงออกตัวทางตรงยาว ธนภัทร พวงพัฒน์ ที่ได้ตำแหน่งโพลออกตัวขึ้นนำแต่ว่าคำนวณระยะเบรกผิดพลาดทำให้รถเสียการควบคุมไปชนกับแบริเออร์ด้านข้างเปิดโอกาสให้ Aleef ได้จังหวะเสียบเข้าในแล้วแซงขึ้นนำแล้วทิ้งระยะห่างออกไป 1.5 วินาที
แถมในช่วงโค้งสุดท้ายผู้ตามอย่าง ธนภัทร และ Terence Lallave มีจังหวะเกี่ยวกันเล็กน้อยยิ่งทำให้ผู้นำอย่าง Aleef ได้เปรียบมากขึ้นไปอีก
ก่อนที่จะจบเรซโดยที่ตำแหน่งไม่เปลี่ยน ขณะที่การแย่งชิงอันดับที่ 7 ก็ดุเดือดไม่แพ้หัวตารางในการขับเคี่ยวระหว่าง Suji และ Nur Shazliezhan
เรซที่ 3 – Nurburgring Nordschleife
หลังจากที่ Aleef สามารถคว้าอันดับที่ 1 จากทั้ง 2 สนาม ทำให้ความกดดันมาอยู่ที่สนามสุดท้ายที่ นูร์เบอร์กริง ซึ่งมีความท้าทายแตกต่างกับสองสนามที่ผ่านมาซึ่งนักแข่งในสนามนี้จะต้องมีสมาธิเพียงข้อผิดพลาดแค่เพียงเล็กน้อยตลอดระยะเวลาของการแข่งขันอาจจะสร้างความแตกต่างถึงขั้นตัดสินแชมป์ได้ทันที
โดยก่อนแข่งนักแข่งทุกคนรู้ดีว่าจะต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อโอกาสในการลุ้นแชมป์ ขณะที่ Aleef ที่เอาชนะมาแล้ว 2 สนามจะต้องประคองตัวให้ได้อันดับที่ดีพอ
ในรอบควอลิฟายที่ถือว่าเป็นการช่วงชิงความได้เปรียบในการแข่งขันจริง ซึ่งในครั้งนี้ Alman นั้นได้ตำแหน่งโพล ตามมาด้วน Aleef และ ธนภัทร อยู่อันดับที่ 3 ในกริดสตาร์ท
สำหรับสนาม นูร์เบอร์กริง ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามที่มีการแซงกันได้ยากทำให้ตำแหน่งโพล ถือว่าเป็นตำแหน่งสำคัญที่จะทำให้สามารถกุมความได้เปรียบตั้งแต่เริ่มแข่งจนจบได้ และผู้นำจากกริดสตาร์ท 3 คนแรกยังษาตำแหน่งจนจบรอบแรกของการแข่งขันแสดงให้เห็นถึงสมาธิในการควบคุมรถ
จังหวะตัดสินการแข่งขันในสนามนี้มาในรอบที่ 2 ในจังหวะที่รถของผู้นำมีจังหวะปะทะกันระหว่าง Aleef และ ธนภัทร ซึ่งนักแข่งชาวไทยถูกลงโทษปรับเวลา 1 วินาที ทำให้ Aleef ได้โอกาสแซงก่อนที่จะเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยาง
ก่อนที่จังหวะออกตัวจากพิท ธนภัทร ต้องมาไล่บี้กับ Alman และจังหวะสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ ธนภัทร เกิดปะทะกับ Alman บนเนินทำให้นักแข่งชาวไทยถูกลงโทษปรับเวลาเพิ่ม 1 วินาทีอีกครั้ง
ในช่วงที่เหลือ Alman ต้องการรักษาระยะห่างที่มีระหว่าง ธนภัทร ที่จะต้องถูกบวกเวลาเพิ่มเอาไว้ ขณะที่ Aleef ที่สนามนี้แม้ว่าจะรั้งอันดับที่ 3 แต่ก็ดีพอที่จะทำให้นักซิ่งจากสิงคโปร์ คว้าแชมป์คะแนนรวมจากการแข่งขันครั้งนี้ไปครองได้แล้ว
บทสรุปการแข่งขัน Aleef คว้าแชมป์ GR Supra GT Cup Asia 2020 รอบภูมิภาค ไปครองพร้อมกับตัวแทนไปแข่ง GT cup ชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคมที่กำลังจะถึง
อ่านเพิ่ม: ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ GR Supra GT Cup Asia รอบคัดเลือกภูมิภาค 2020