ครั้งหนึ่งเขามีความฝันอยากไปเล่นลงเล่น Overwatch League ด้วยแรงผลักดันต้องการคว้าแชมป์สักครั้ง แต่ด้วยอายุ และเหตุการณ์บางอย่างทำให้เขาไปไม่ถึงฝันจนหมดไฟ ก่อนเลือกยุติเส้นทางของตัวเองอย่างน่าเสียดาย
ผ่านไป 2 ปี เขากลับไปสานต่อความฝันอีกครั้งใน Overwatch League กับ Los Angeles Gladiators ทีมในสหรัฐอเมริกา ก่อนจะไต่เต้าสู่แชมป์ได้สำเร็จ… เรากำลังพูดถึง ปั้น – ปฏิภาณ “Patiphan” ไชยวงษ์ โปรเพลเยอร์ชาวไทย ที่ไปสร้างชื่อไกลบนเวทีระดับโลกกับความสำเร็จที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
การต่อสู้ของเด็กหนุ่มวัย 19 ปี เพียงตัวคนเดียวในอเมริกากับลีก Overwatch ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นในวันที่ชูถ้วยแชมป์ทั้งน้ำตา
…นี่คือเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ก่อนกลับสู่วงการ Valorant อีกครั้ง ของ Patiphan
- EXCLUSIVE EP.1 : CigaretteS ผู้ชายหน้าเปื้อนยิ้มที่มีเกมเป็นบันไดความสำเร็จของชีวิต
- EXCLUSIVE EP.2 : CigaretteS หนุ่มยโสฯ กับฝันเป็นจริงที่ Paper Rex
Overwatch อีกครั้ง
“มันค่อนข้างกดดัน ผมมั่นใจในฝีมือตัวเองนะ แต่ผมไม่ได้เล่น Overwatch มา 2 ปี ก็ต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด” ปั้น เริ่มเล่าวันที่กลับไปแข่ง Overwatch อีกครั้ง หลังห่างหายไป 2 ปี เพราะก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจอำลาวงการ Overwatch เพื่อมาแข่งขัน Valorant
ย้อนกลับไปปี 2018 ชื่อของ Patiphan เป็นที่รู้จักในฐานะดาวรุ่ง Overwatch ฝีมือดีที่ถูกยกย่องในฝีมือว่า เก่งกาจเกินวัย ชื่อเสียงของเขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงประเทศไทยหรือเอเชีย แต่ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ในวัยเพียง 14 ปี เขาเคยเป็นตัวแทนไทยผ่านศึกใหญ่ Overwatch World Cup 2018 – Bangkok Qualifier ด้วยอายุที่น้อย แต่ฝีมือไม่ธรรมดา ทำให้ชื่อของ ปั้น ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง ปี 2019 เขาตอกย้ำความยอดเยี่ยมเมื่อช่วย Talon Esports คว้าแชมป์ Overwatch Contenders 2019 Season 2: Pacific และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ปั้น ถูก Paris Eternal สังกัด Overwatch สัญชาติฝรั่งเศสดึงไปร่วมทีม
แต่ด้วยวัยที่ตามกฎกำหนดให้สังกัดสามารถเซ็นสัญญาผู้เล่นในลีกตั้งแต่อายุ 18 ปี ขึ้นไป ทำให้ ปั้น ต้องเริ่มจากลงเล่นในทีมสำรองในชื่อ Eternal Academy เพื่อรอวันถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ เดิมทีเขาต้องเดินทางไปใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศส แต่เกิดเหตุการณ์โควิด-19 ระบาดหนัก ทำให้ทุกอย่างกลับพังทลายลง
จากนั้นเขาเลือกย้ายไป World Game Star Phoenix ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนช่วยทีมคว้าแชมป์ Contenders 2020 KR Season 1 – Week 4 แต่ขณะเดียวกันไฟในการแข่ง Overwatch เริ่มหมดลง กระทั่งตัดสินใจอำลาวงการนี้ และย้ายไปเล่น Valorant
ปั้น ประสบความสำเร็จกับ Valorant เขายังคงถูกพูดถึงบ่อยครั้งกับโอกาสไปโชว์ฝีมือในเวทีชิงแชมป์โลกทั้ง Masters และ Valorant Champions ต่อมาปี 2022 เขากลับไปทำตามความฝันอีกครั้ง เมื่อย้ายไปเล่น Overwatc League กับ Los Angeles Gladiators ที่อเมริกา
แน่นอนว่า ด้วยลีกที่คุณภาพสูงบวกกับความคุ้นเคยที่ไม่เหมือนเดิม เพราะห่างเกมมานาน 2 ปี ทำให้เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด รวมถึงการใช้ชีวิตคนเดียวที่อเมริกาด้วย
“การไป LA ยิ่งต้องเล่นลีกสูงสุดกลายเป็นผมกดดันตัวเองว่า จะทำได้ดีหรือเปล่า จะสู้คนอื่นได้ไหม ช่วงแรกก็ยากอยู่ แต่พอจับจังหวะเกมได้ก็เลยเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทีมให้การต้อนรับดีมาก ทีมเป็นคนที่ผมรู้จักกันหมดเลยตั้งแต่ 6 ปี ที่แล้ว เราเคยเจอกันมาก่อนเลยเข้ากันง่าย”
“ผมเคยทำงานกับโค้ช(face) ตอนอยู่ Talon 2019 เขาเชื่อว่า ผมจะกลับมาเก่งเหมือนตอนร่วมงานกันเลยพาผมเข้าทีม แค่นั้นเลยทุกอย่างมันอยู่บนความเชื่อ แต่ถึงผมจะเคยเล่นเกมนี้มาแล้ว ด้วยความที่ไม่ได้เล่นมา 2 ปี ก็ต้องกลับมาฝึกใหม่”
ระยะเวลาที่หายไปจาก Overwatch ทำให้ ปั้น ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ โอกาสจะกลับมาเก่งในเวลารวดเร็วจึงเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะการเล่นในลีกที่ดีที่สุดในโลก…
จุดเดิม แต่ไม่เป็นคนเดิม
ปั้น เล่าถึงความยากลำบากเพื่อพาตัวเองกลับไปสู่จุดเดิมที่เขาเคยเล่นเมื่อปี 2019 ว่า “3 เดือนแรกผมซ้อมวันละ 6-7 ชั่วโมง ซ้อมแพ้ตลอด มันทำให้ผมรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เก่งขึ้นเข้ากับทีมยังไม่ได้ในช่วงแรก”
“ช่วง 3 เดือนนั้นก็มีแข่งสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมโดนเรื่องคอมเมนต์มาตลอด มันเป็นปัจจัยที่ส่งผลน้อยที่สุด แต่เรื่องความกดดันตัวเองเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเพราะรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เก่งเหมือนเมื่อปี 2019 ผมมองว่า ตัวเองไม่สามารถกลับไปอยู่ในระดับที่ตัวเองเคยเล่นได้ มันบั่นทอนตัวเอง”
สัมผัสการจับเมาส์ ปฏิกิริยาที่ว่องไว ความแม่นยำ และการอ่านเกมที่เคยทำได้เหมือนเมื่อก่อน คือสิ่งที่ ปั้น ยังเรียกกลับคืนมาไม่ได้ 100 % การซ้อมส่วนใหญ่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ แต่เขาพยายามต่อไป ซ้อมหนักขึ้น ให้เกิดความเคยชิน หากแพ้ เขาก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง
“ผมใช้เวลาเป็นเดือนซ้อมไม่เห็นผลลัพธ์ 2-3 เดือน ซ้อมแพ้ตลอด ผมเครียดนะที่ผลลัพธ์ไม่ดีขึ้นเลย มันมีแต่แพ้ตลอด ผมพยายามฝืนตัวเองซ้อมไปเรื่อยๆ จนเข้าเดือน 3-4 ก็เริ่มปรับตัวได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น”
3 เดือน แรกเขาเกิดความรู้สึกท้อ เมื่อมองว่า ไม่สามารถกลับไปอยู่จุดเดิมที่เคยทำได้ แต่เขายังคงเลือกเดินหน้าต่อ เพราะนี่คือความฝันที่เขาอยากทำมาตลอด
จากนั้นการซ้อมเริ่มเห็นผลลัพธ์ ปั้น ทำได้ดีขึ้น ทั้งสกิลเพลย์ส่วนตัว และการเล่นเป็นทีมที่ทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ความมั่นใจของเขากลับคืนมาอีกครั้ง นั่นทำให้ ปั้น มีส่วนสำคัญช่วย LA Gladiators คว้าแชมป์ Overwatch League 2022 Kickoff Clash และ Midseason Madness ไปครอง
“ผมไม่ได้คิดว่า ผมจะเป็นแชมป์ใน 2 Stage แรกนะ ผมแค่อยากไปเล่นที่อเมริกา อยากจะกลับไปเก่งเหมือนเดิม”
“ผมไม่เคยมองถึงแชมป์ เพราะรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เก่งก็มีงงเหมือนกันว่า ทำไมเขาถึงเลือกเรา ทั้งที่ไม่ได้จับ Overwatch มา 2 ปี เป็นความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง”
พิชิตฝัน
2 แชมป์สำคัญในระยะเวลาห่างกันไม่ถึงหนึ่งเดือนทำให้ ปั้น ได้พิสูจน์ว่า เขายังดีพอสำหรับ Overwatch ที่สำคัญช่วยเรียกความมั่นใจของเขากลับคืนมาอีกครั้ง
ในวันที่คว้าแชมป์ Overwatch League 2022 Kickoff Clash เพื่อนร่วมทีมให้ ปั้น ร่วมชูถ้วยแชมป์ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์สำคัญ เมื่อเขาร้องไห้ระหว่างให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกที่เก็บทุกอย่างที่ผ่านมาจนระเบิดออกในวันที่ช่วยทีมประสบความสำเร็จ
“วันที่ได้แชมป์มันเหมือนปลดล็อกทุกอย่าง” ปั้น เล่าเบื้องหลังช็อตปล่อยโฮบนเวที “ตอนรอบเพลย์ออฟเราเล่นออฟไลน์ ซึ่งผมเล่นเป็นตัวเองมาก”
“ผมมีชีวิตชีวามากที่สุดในตอนแข่งออฟไลน์ผิดกับตอนออนไลน์ที่เล่นไม่ดีเลยสถิติในเกมที่ออกมาผมก็เป็นรองบ๊วย ตายเยอะสุด ทำดาเมจน้อยสุด แต่รอบเพลย์ออฟแข่งออฟไลน์สถิติผมเป็นที่หนึ่งทุกอย่างทำดาเมจเยอะสุด ฆ่าเยอะสุด ตายน้อยที่สุด”
“ถ้าเพลย์ออฟตอนนั้นแล้วผมเล่นไม่ดี ผมก็คงไม่ร้องไห้ออกมา แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ตัวเองจับจังหวะเกมได้เล่นได้ดีขึ้น มันเป็นทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญเลยคาดหวังว่า ตัวเองจะทำได้ดี”
สิ่งที่ ปั้น ได้กลับมาจากอเมริกาไม่ใช่แค่ความสำเร็จ แต่รวมถึงความเป็นมืออาชีพในวันที่เติบโตตามอายุกับประสบการณ์ และสภาพแวดล้อมที่พบเจอ
“ความเป็นมืออาชีพมันโตตามอายุ ความจริงเด็กก็เป็นมืออาชีพได้ แต่ถ้าผ่านมาเยอะมันยิ่งซึมซับเยอะ ผมรู้สึกว่า การไปที่นั่นทำให้มีความเป็นมืออาชีพเยอะ ไม่มีงอแงไม่ตื่นมาซ้อม ตอนแข่งกับ LA ผมก็ไม่ค่อยพูดจนทีมเรียกไปคุยว่า ให้พยายามเล่นดีที่สุด ถ้าเล่นไม่ดีขอแค่พูดก็พอ”
“ผมคิดว่า ถ้าเล่นต่อผมคงได้แชมป์อีก 4 Stage เพราะผมมั่นใจแล้วว่า ตัวเองเก่ง Stage 3 ผมไม่ได้แข่ง แต่เป็น Meta ทางผม ส่วน Stage 4 ก็เป็น Meta ของผมอีก ถ้าเล่นต่อคงได้แชมป์ แต่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ได้เพราะผมไม่ได้เล่นต่อแล้ว”
“แต่การเป็นแชมป์ได้ถือถ้วยมันอาจเป็นถ้วยเล็กไม่ใช่รอบไฟนอล แต่ Stage 2 ผมแข่งกับทีมโซนเอเชีย แล้วก็ชนะมันเหมือนได้พิสูจน์ว่า ทีมผมดีที่สุดในโลกของ Overwatch”
2 แชมป์กับ LA Gladiators ในอเมริกา ช่วยเติมเต็มความฝันของเขาให้สมบูรณ์ เขาไม่มีอะไรค้างคากับ Overwatch อีกต่อไป เมื่อความฝันสำเร็จ เขาจึงมุ่งหน้าสู่สถานีถัดไปนั่นคือการเป็นแชมป์ Valorant ในระดับนานาชาติ
ติดตามการกลับมาของ Patiphan กับ Valorant ได้ใน EP.2
อ่านเพิ่ม: Patiphan รับเขินทุกครั้งย้อนดูตัวเองเดินเปิดตัวใน Valorant