หากจะพูดถึงเกมชื่อ PUBG ในปัจจุบัน ก็ถือว่านี่ยังเป็นเกมมีชื่อเสียงผ่านวงการอีสปอร์ตอย่างมาก ด้วยการแข่งขันระดับโลกที่มีอยู่มากหลายครั้งต่อปี และภายในประเทศไทย ก็ยังมีการจัดแข่งขันอยู่เรื่อยๆ รวมทั้งในรายการแข่งขัน PUBG Global Championship 2019 (PGC) ที่เป็นการรวมตัวทีมมืออาชีพจากทั่วโลก เหล่าผู้ชมก็ยังคงได้เห็นทีมไทยอย่าง Armory Gaming ไปเผด็จศึกคว้าอันดับ 28 จาก 32 ทีมได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม แม้วงการแข่งขันในประเทศไทยจะยังมีมาเรื่อยๆ แต่ถ้าหากพูดในเรื่องของทีมไทยว่ามีความแข็งแกร่ง หรือแข่งขันกันได้เข้มข้นเท่าประเทศอื่นขนาดไหน ก็อาจจะคนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้ทาง ONE Esports ที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับ 2 นักพากย์นาม Voo และ KirosZ ในงาน PUBG Thailand Predator League 2019 จึงขอนำเรื่องราวสอบถามเกี่ยวกับวงการ PUBG ในประเทศไทย มาเปิดเผยว่าจะมีความน่าจับตามอง และเติบโตเป็นอย่างดีในอนาคตหรือไม่
ทำความรู้จัก Voo & KirosZ
Voo “สวัสดีครับ ผมชื่อวูนะครับ ชื่อจริงคือชยุตม์ ฉางทองคำ เป็นนักพากย์จากบริษัท FPSThailand ครับ”
KirosZ “สวัสดีครับ ผมชื่อวีระศักดิ์ บุญชู ชื่อเล่นชื่ออาร์ทครับ ชื่อในวงการเกมคือ Kiroz ทำงานอยู่ใน FPSThailand เช่นกันครับ”
Voo และ KirosZ ได้แนะนำตัว พร้อมกับเล่าว่าพวกเขาทั้งสองคนได้เริ่มเล่นเกม และเข้าสู่วงการจนเป็นนักพากย์ได้อย่างไร โดยทาง Voo ก็เคยเป็นนักแข่งในสังกัด Nearlygod ช่วงต้นปี 2000 จนถึง 2010 ที่เคยคว้าแชมป์โลกจากเกมแนวยิงมากมายไม่ว่าจะเป็น Counter Strike, Special Force และ Point Blank ส่วนทาง KirosZ ก็เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มวงการอีสปอร์ตของไทย ด้วยการร่วมก่อตั้งสังกัดทีมนักแข่ง Made in Thailand (MiTH) นั่นเอง
Voo “ถ้าพูดถึงการเล่นเกมก็เริ่มง่ายๆ เลยครับ เพื่อนชวนมาเล่นแล้วรู้สึกหลงไหล เลยเข้าวงการนักแข่งอีสปอร์ตจนเคยได้ไปแข่งระดับประเทศ ซึ่งพอได้ไปเห็นงานแข่งที่ต่างประเทศก็รู้สึกชอบ หลังจากนั้นก็ผลันตัวเองมาทำงานเบื้องหลังเป็นนักพากย์ ผมเป็นคนชอบเล่นเกมทุกแนว แต่ถ้าชอบจริงๆ และอยากพากย์จริงๆ คือเกมแนวยิงครับ”
Kirosz “ผมก็เริ่มต้นมาเป็นคนเล่นเกมคล้ายๆ กันครับ แล้วก็ได้ผลักดันตัวเองมาอยู่ในวงการแข่งขันอีสปอร์ต ตั้งแต่เวทีเล็กจนยันเวทีใหญ่ แล้วก็มีโอกาสได้ไปดูงานแข่งที่ต่างประเทศก็ยิ่งชอบ เลยเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเป็นนักพากย์ ส่วนแนวเกมที่ชอบก็เป็นพวกกีฬาอย่าง FIFA และก็ในด้านของเกมยิงเหมือนกัน”
ทั้ง Voo และ KirosZ ยังได้เล่าว่าเข้ามาเป็นนักพากย์รายการแข่งขันใหญ่ของเกม PUBG ในไทย จากการที่สังกัด FPSThailand ของพวกเขาพยายามผลักดันวงการเกมยิงทั้งหมดกันอยู่แล้ว ทำให้หลังจากที่ PUBG เริ่มเปิดให้บริการ พวกเขาก็ศึกษา, จัดรายการแข่งขัน และเริ่มฝึกพากย์ทันที
Voo “พวกเราเข้ามาเป็นนักพากย์ตั้งแต่ PUBG เปิดให้บริการเลยครับ อย่างที่บอกว่าพวกเราทำงานเป็นนักพากย์ แล้วพอมีเกมอะไรใหม่ โดยยิ่งเฉพาะแนวยิง ทาง FPSThailand รวมไปถึงผมก็อยากจะเข้ามาเป็นนักพากย์กันอยู่แล้ว ก็เลยเอาตัวเองไปฝึกพากย์กัน และเริ่มจากการจัดทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาเองด้วย”
KirosZ “ทีมงาน FPSThailand ของพวกเรา รวมทั้งพี่แว่นก็เรียกว่าเป็นคนที่ลุยเกม PUBG ตั้งแต่ช่วงแรก ตั้งแต่เกมยังไม่ได้พร้อมกับการจัดแข่ง แต่ทางบริษัทของเราเองก็มองว่าเกมมันต้องมาแน่ แล้วมันก็น่าจะเป็นที่นิยมในวงกว้าง พวกเราก็ศึกษามาตั้งแต่วันแรกที่เกมเปิด”
ส่วนเหตุผลที่ทำให้ Voo และ KirosZ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในคู่หูนักพากย์ตัวท๊อปเกม PUBG ของประเทศนี้ ก็น่าจะมาจากการที่พวกเขาทั้งสองคนได้ถูกเชิญไปร่วมเดินทางกับทีมชาติไทย ในการแข่งขัน PUBG Nation Cup 2019 ซึ่งทาง Voo ก็ยังได้ไปในนามโค้ช และ KirosZ ก็ไปในนามผู้ช่วยโค้ช จนสามารถคว้าอันดับ 6 จาก 16 ทีมได้สำเร็จ
Voo “สำหรับการแข่งขัน PUBG Nation Cup 2019 ตัวผมได้ไปในนามโค้ชครับ พี่อาร์ทได้ไปในนามผู้ช่วยโค้ช และพวกเราก็ได้ไปเป็นสื่อด้วย”
วงการ PUBG ในประเทศไทย
สำหรับการเติบโตของ PUBG ในประเทศไทย Voo ก็ได้ให้ความเห็นว่านี่ถือเป็นเรื่องน่ากลัว และหลายคนก็น่ากำลังเข้าใจผิด เนื่องจากชาติอื่นได้เริ่มมีฝีมือที่ทิ้งห่างจากพวกเราแบบเห็นได้ชัด จากการแข่งขันระดับโลกต่างๆ ทำให้ทีมไทยหลายสังกัดในตอนนี้ จะต้องพัฒนาฝีมือตามพวกเขาให้ทันกันอย่างมาก
“จริงๆ แล้วเรื่องนี้ ถือว่าน่ากลัวมากครับ คือถ้าเราดูจากผลงาน ผมเชื่อว่าเราอาจจะคิดกันเองว่ามันเติบโตขึ้น หรือผู้เล่นเกมเมอร์ไทยสู้กับต่างประเทศได้ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือต่างประเทศก็เติบโตไม่แพ้เรา ถ้าปีที่แล้วผมกล้าพูดว่าเราสู้กับระดับโลกได้ แต่พอเราเห็นงาน PGC ล่าสุด หรืองานแข่งระดับโลกที่ผ่านมา มันทำให้เราเห็นเลยว่าทั่วโลกพัฒนาขึ้นไปมากกว่าเรา นั่นคือสิ่งที่เราต้องรับมือพัฒนาตามเขา”
หลังจากที่ ONE Esports เคยได้สัมภาษณ์แบบ ONE on ONE กับนักแข่ง ThanawatTH จากทีม Armory Gaming โดยมีคำถามเกี่ยวกับวงการ PUBG ในประเทศไทย และเขาก็ได้กล่าวว่าถ้าภายในประเทศนี้ PUBG Mobile น่าจะเป็นเกมที่มอบเส้นทางนักแข่งได้ไกลกว่ามาก ทำให้เกิดการสอบถามนักพากย์ทั้ง 2 ว่าคิดเห็นเหมือนกันหรือไม่ ก่อนที่ Voo จะตอบประมาณว่าใช่ เพราะเกมมือถือสามารถเข้าถึงผู้คนได้ง่ายจนเติบโตดีกว่า แต่ยังไงก็ไม่ได้อารมณ์แข่งขันเร้าใจเท่า PC รวมทั้งวงการ PUBG และ PUBG Mobile จะเติบโตในไทยไปพร้อมกันแน่นอน
“ผมว่าด้วยแพลตฟอร์มมากกว่า คือมือถือมันคงโกหกไม่ได้ว่ามันอาจจะไปไกลกว่า เพราะมันเข้าถึงทุกคนได้ง่าย ทุกวันนี้โลกมันหมุนไปแล้ว แต่สุดท้ายผมยังเชื่อว่าเกมที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ มันได้อารมณ์อีสปอร์ตมากกว่า มันก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน แต่ผมเชื่อว่ามันจะเติบโตไปคู่กันได้”
อ่านเพิ่ม ONE on ONE: พูดน้อย ยิงหนัก ThanawatTH แห่งทีม AG
หากใครที่กำลังติดตามวงการอีสปอร์ต PUBG ในไทย ก็น่าจะพอทราบกันดีถึงการแข่งขันคัดตัวทีมไปเวทีระดับโลก มักจะใช้เป็นวิธีคัดรวมทีมจากทุกประเทศภายในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ขณะที่ภายในทวีปอื่น กลับเป็นการคัดทีมจากประเทศนั้นๆ จึงทำให้เกิดการสอบถามว่าในอนาคตของวงการ PUBG ไทย จะสามารถเปลี่ยนมาเป็นคัดตัวตามประเทศบ้างได้หรือเปล่า ก่อนที่ทั้ง 2 จะกล่าวว่าขึ้นอยู่กับยอดคนดู และผลงาน
KirosZ “ตรงนี้ มันมีโมเดลมาหลายๆ เกมแล้ว เราเคยมีโอกาสได้ไปในตัวแทนประเทศไทยโดยตรง แต่ด้วยความที่ผลงานเราอาจจะยังไม่ต่อเนื่องมาก คือผมเชื่อเลยว่าการที่เราจะได้ไปในนามโซนไทยโดยตรง ความแข็งแกร่ง ความเข้มข้นไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นในไทย และทีมในไทยต้องเหนียวแน่น แข็งแกร่งพอ และก็ต้องเก่งพอไปโชว์ศักยภาพในเวทีระดับโลกให้เขาเห็นก่อน”
Voo “ง่ายๆ ครับ อย่างทีมเกาหลีใต้ ก็ได้ไปแข่งขันทีนึง 5 ถึง 6 ทีม และจีนก็ได้ไปถึง 5 ทีม เพราะคนดูอีสปอร์ตบ้านเขาสูง แล้วผลงานของเขาในระดับโลกก็ทำได้ดี ถ้าเกิดเราไปทำผลงานระดับโลกได้ ผมเชื่อว่าจะมีการคัดตัวจากประเทศไทยโดยตรงเหมือนกัน”
อ่านเพิ่ม สุดระทึก! Gen.G ทีมจากเกาหลีใต้ คว้าแชมป์ PGC 2019 พร้อมเงินรางวัล 60 ล้านบาท
ส่วนกระแสของเกม PUBG ในปี 2019 ที่หลายคนน่าจะทราบกันว่าช่วงหลังมานี้ เกมก็แทบไม่ได้มีการอัปเดตใหญ่ซักเท่าไหร่ หากเทียบกับเมื่อช่วงปี 2017 และ 2018 จึงทำให้เกิดคำถามว่าเหตุการณ์นี้ จะส่งผลให้การแข่งขันมีคนสนใจน้อยลงตามหรือเปล่า แต่ทั้งสองก็มองว่านี่เป็นเรื่องปกติ และการแข่งขันระดับโลก ก็จะคอยให้คนมาสนใจเกมกันเหมือนเดิม
KirosZ “ในเรื่องของกระแส ผมว่ามันไม่ได้ลดลงขนาดนั้นครับ แต่มันมีดรอปบ้างตามช่วงเวลา แต่พอมันเกิดกระแสความตื่นเต้นอย่างงาน PGC ผมเชื่อว่าเกมก็กลับมามีกระแสมากขึ้น คือการแข่งขันระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Dota 2 ถ้าเป็น TI แข่งเมื่อไหร่ เกมก็จะคึกคักในช่วงนั้น การแข่งขันพวกนี้มันกระตุ้นยอดคนเล่น และก็กระแสได้เหมือนกัน”
Voo “ส่วนผมเองเชื่อว่าเดี๋ยวนี้ห้ามใครไม่ได้หรอกครับ ว่าให้เล่นเกม PUBG อย่างเดียว เพราะแม้แต่ตัวเราเองก็คงเล่นทุกเกมเหมือนกัน ฉะนั้นก็ต้องมีบางเกมที่กระแสขึ้น และลง แต่สุดท้ายมันก็ต้องไปวัดกันที่ Roadmap มากกว่า อย่างที่ PUBG ทำมาในปีนี้ ก็มีการแข่งขันต่อเนื่องมา ไม่ว่าจะเป็นผลทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เยอะแยะมากมาย ผมว่าสุดท้ายพอมันมีทัวร์นาเมนต์เรื่องอีสปอร์ตในระดับโลกอยู่ เกมก็จะยังอยู่ต่อได้”
ขณะที่ในเรื่องด้านอนาคตของวงการ PUBG ประเทศไทย ทั้งสองคนก็มองว่าจะยังมีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นไปอีก รวมทั้งทีมหน้าใหม่ก็จะเกิดขึ้นอีกตามมาแน่นอน
KirosZ “ผมมองว่ายังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าตัวเกมค่อนข้างจะตอบโจทย์ผู้เล่นทั่วโลกเหมือนกัน ผมเชื่อว่าปีหน้าก็ยังคงมีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทีมเดิมที่เปลี่ยนผู้เล่นหน้าใหม่ หรือทีมใหม่ที่เข้ามาตามสังกัดในอนาคตครับ
Voo “แน่นอนครับ ถ้าเราดูจากที่สมัครแข่งกันเข้ามาที 500 ทีม 800 ทีม 1,000 ทีมภายในเวลา 3 วัน ผมเชื่อว่าหน้าใหม่ยังไงก็พร้อมเกิดขึ้นมาทุกวันเรื่อยๆ ถ้ามีสนามให้เขาได้แข่งขัน”
ส่งท้ายเหล่าเกมเมอร์
สุดท้ายนี้ ทั้งสองคนก็ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเหล่าเกมเมอร์ที่อยากเข้ามาเป็นนักแข่งขันอีสปอร์ต ในฉบับสุดจะเข้าใจง่าย
KirosZ “ถ้ามุมของผม คนที่จะเริ่มต้นการแข่งขันก็คือเอาตัวเองที่เล่นในโหมด Public และเล่นกับเพื่อนไปวันๆ มารวมตัวกันให้เหนียวแน่น ซ้อมด้วยกัน และลงแข่งในทุกๆ รายการที่มันเปิดรับสมัคร อย่าเอาตัวเองหนีรายการแข่งขัน และเราจะกลมกลืนกับคำว่าอีสปอร์ตไปเอง”
Voo “ทุกครั้งที่ผมให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับการเป็นเกมเมอร์ หรืออะไรก็ตาม อย่างแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นคือเรื่องของการมีคติที่ดี มีทักษนะที่ดี มันจะนำน้องๆ ไปสู่ในจุดที่ดีได้ ยกตัวอย่างถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ เวลาคุณพลาดก็ต้องโทษตัวเอง ไม่ใช่ไปโทษอินเทอร์เน็ต ไปโทษคอมพิวเตอร์ หรือถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่สุดท้ายคุณโทษตัวเองก่อน คุณก็จะพัฒนาไปรวดเร็วกว่าคนอื่นเสมอ”
สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานต่างๆ ของ Voo ก็จะสามารถเข้าไปกดไลค์ได้ผ่านเพจเฟซบุ๊ก VooChayut และใครที่อยากติดตามผลงานของ KirosZ ก็สามารถเข้าไปกดไลค์ได้ผ่านเพจเฟซบุ๊ก KirosZ ส่วนช่องทางการพากย์ถ่ายทอดสดเป็นหลักทั้งสองคน ก็จะติดตามได้ผ่านแพลตฟอร์ม Twitch ของช่อง FPS Thailand นั่นเอง