มนุษย์เมื่อได้ทำในสิ่งที่ชอบมักทำได้ดีเสมอ ด้วย Passion ที่เป็นแรงขับเคลื่อนทำในสิ่งที่ทุกคนปราถนาอย่างมีเส้นทางชีวิตในแบบของตัวเอง

แต่ความสำเร็จต้องเริ่มจากความกล้า ความเชื่อมั่น และจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ เชื่อในสิ่งที่ทำ ใส่เต็มที่กับสิ่งที่เลือกเพื่อประสบความสำเร็จในสักวัน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม ซึ่ง “Bulshark“ หรือ นัท-รัชพล มณีรัตน์ โปรเพลย์เยอร์ PUBG Mobile สังกัดทีม faze clan thailand ทีมแชมป์ PUBG MOBILE Pro League Thailand 2021 Season 3 คือหนึ่งในกลุ่มคนที่ทำสิ่งนั้นสำเร็จ



เขาเริ่มต้นจากความเชื่อมั่น และกล้าเลือกเส้นทางของตัวเอง ก่อนผ่านความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับบทเรียนในชีวิตจริง จนปัจจุบันเกมให้ทุกอย่างในชีวิต และทำให้มีวันนี้

เขากล้าเลือกให้ความชอบเปลี่ยนเป็นอาชีพด้วยเกม เขาทำมันได้อย่างไร ผ่านอะไรมาบ้าง และอะไรที่ทำให้ Bulshark ประสบความสำเร็จที่ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงในวงการ แต่เป็นชีวิตของคนๆหนึ่งที่ได้ทำสิ่งที่ชอบเป็นอาชีพจนสร้างตัวเองได้อย่างมั่นคง One Esports จะพาคุณไปพบคำตอบกับทุกช่วงชีวิตของเขา…

Start Mission

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกครอบครัวจะไม่สนับสนุนลูกเล่นเกม โดยเฉพาะเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ที่วงการเกมในไทยยังไม่ใช่อาชีพ รายการแข่งต่างๆถูกจัดขึ้นโดยมีร้านเกมเป็นตัวตั้งตัวดีกับเงินรางวัลหลักพันบาทเท่านั้น ดังนั้นการจะใช้เกมหล่อเลี้ยงตัวเองในฐานะนักแข่งแทบจะตัดจากออกจากความไปคิดได้เลย แต่นั่นไม่ใช่กับ นัท

เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีพร้อม เขารู้ดีว่า ฐานะทางครอบครัวไม่ได้ดีมาก อีกทั้งยังเป็นลูกคนเดียวของคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงเขามาคนเดียว เพราะพ่อแยกทางกัน เมื่อเติบโตขึ้นสิ่งที่ต้องทำคือหน้าที่การงานมั่นคงเพื่อนำมาจุนเจือครอบครัว และทำให้แม่อยู่สุขสบาย

ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามบทบาทในแต่ละช่วงเวลา แต่สุดท้ายเขาเริ่มต้นจากการฉีกกฏของตัวเองเพราะรู้ดีว่า เขาต้องการอะไร และเส้นทางชีวิตที่อยากเลือกเดินเป็นแบบไหน ซึ่งคำตอบนั้นคือ การเป็นนักแข่งเกม Point Blank เกมแนว FPS ชื่อดังที่เคยฮิตทั่วประเทศ

“ผมเป็นคนชอบเล่นเกมอยู่แล้ว เล่นทั้งเครื่องคอนโซล ทั้ง PC แต่มาเล่นแบบแข่งจริงจังก็ตอน PC” นัทเริ่มเล่าเท้าความชีวิตวัยเด็ก

“ตอนนั้นติดเกมหนักมากจนรู้สึกว่า อยากลองลงแข่ง จน Point Blank กลายเป็นเกมแรกที่ผมได้แข่งอย่างจริงจัง ครอบครับก็ไม่ได้สนับสนุนอะไร เขามองว่า การเล่นเกมคือเด็กติดเกม สร้างรายได้ไม่ได้ เล่นสนุกไปวันๆ”

ด้วยความเป็นลูกคนเดียว ครอบครัวจึงคาดหวังให้เขาเติบโตอย่างมีคุณภาพ เรียนจบปริญญาตรี ทำงานราชการที่เงินเดือนมั่นคง เกม จึงเป็นสิ่งที่ถูกกีดกัน ยิ่งการแข่งขันเกมคงไม่ต้องพูดถึง แต่สิ่งแรกที่ นัท เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้แม่เข้าใจว่า เกมไม่ใช่แค่เกม แต่มันสร้างเงินได้ นั่นคือการแบ่งเวลาให้เป็น

“เขาคาดหวังเรื่องเรียนมากๆ เพราะผมเป็นลูกคนเดียว เขาอยากให้เข้าทำงานราชการมีฐานเงินเดือนมั่นคง เมื่อก่อนผมเคยคิดอยากเข้านะ ก็มีช่วงหนึ่งที่เลิกเล่นเกมแล้วลองไปสมัครเป็นข้าราชการมาเหมือนกัน”

“ตอนหลังๆผมเริ่มแบ่งเวลาเป็น ผมเริ่มลงแข่งเพื่อให้เขาเห็นว่า มันสร้างรายได้ให้เราได้จริงๆนะจนแม่เริ่มเปิดใจมากขึ้น ตอนได้เงินก้อนแรกแม่ยังไม่เข้าใจว่า มันจะสร้างรายได้ให้เรายังไง จะยืนยาวหรือเปล่า ส่วนเงินที่ได้มา เราจะได้จริงๆไหม แต่สุดท้ายเราก็ทำให้เห็นแล้วว่า มันทำได้จริง”

เลือกแล้วต้องลุย

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้หลังตัดสินใจจะแข่งเกมจริงจัง นัท โชว์ความเก่งกาจในเกม Point Blank จนถูกคนรู้จักชวนเข้าทีม และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ Bulshark กับเส้นทางอีสปอร์ต

“ผมเริ่มเล่นกับพี่ๆน้องๆคนรู้จัก จนมีทีมพี่คนหนึ่งเขาชวนไปทำทีมก็เริ่มแข่งมาตั้งแต่นั้น ผมจำชื่อทีมแรกไม่ได้ แต่ทีมต่อมาชื่อ Takeover ลงแข่งรายการออฟไลน์ เพราะสมัยนั้นทัวร์นาเมนต์ออนไลน์ยังไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นแข่งออฟไลน์ตามร้านเกมมากกว่า”

“ตอนนั้นผมไม่ได้มีเป้าหมายอะไรเลย ผมแค่อยากแข่งเกม อยากมีชื่อเสียงให้คนในวงการเกมได้รู้จักเราแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดถึงอนาคตว่า จะต้องเป็นแชมป์ระดับประเทศ เพราะรายการเมื่อก่อนไม่ได้มีเงินรางวัลมากมาย ผมไม่ได้คิดจะเป็นอาชีพระยะยาวด้วยในตอนนั้น”

ด้วยสถานการณ์เวลานั้น อีสปอร์ตของไทยยังไม่เติบโต รายการแข่งขันมีเงินรางวัลน้อยนิด ภาพของการแข่งเกมเป็นอาชีพจึงยังไม่ชัดเจน แต่แล้วจุดเปลี่ยนที่ทำให้ นัท ได้เป็นนักแข่งเต็มตัวก็มาถึง เมื่อได้รู้จักกับ PUBG Mobile บนมือถือ

“มีช่วงหนึ่งผมเลิกเล่นเกมไปพักใหญ่ ตอนนั้นผมหยุดเล่น PB จริงๆคือหยุดเล่นเกมไปเลย เพราะไปโฟกัสกับชีวิตมากกว่าไม่ได้ หลังจากนั้นมี PUBG Mobile เข้ามา ผมลองเล่นคนเดียวเล่นมาเรื่อยๆจนรู้สึกว่า ในอนาคตมันคงมีรายการแข่งขันแน่ๆ ตั้งแต่ตอนนั้นคิดไว้เลยว่า ยังไงก็จะต้องทำทีมแข่งให้ได้”

“PUBG Mobile มันเล่นแล้วสนุก เล่นได้ตลอดว่างเมื่อไหร่ก็เล่น แต่จะไม่เหมือน PC ตรงไม่มีเมาส์ เราต้องบังคับด้วยนิ้วของเราเอง แต่เหมือนได้เปิดประสบการณ์ใหม่ การย้ายจากเกมบน PC มาอยู่บนมือถือเลยไม่ได้ติดอะไร”

“ช่วงนั้นมีกลุ่มๆหนึ่งเขาจะเลือกคนที่ติดท็อปของเซิร์ฟคนแรกๆจะได้เข้ากลุ่มก็จะมีแต่คนมีฝีมือ ผมไปรู้จักกับ Earnny ก็อยู่กันสองคนคิดจะทำทีมเลยหาคนมาเพิ่ม จากนั้นปรับเปลี่ยนไปเรื่อยจนได้สมาชิกครบ แต่ยังไม่ใช่ชุดที่ได้แชมป์”

“ถ้าในประเทศตอนนั้นคิดว่า เรายิงได้ทุกทีม ลงแรงค์เราก็มั่นใจเล่นได้ ในประเทศรู้สึกว่า ไหวแน่นอน”

หลังได้สมาชิกจนลงตัวประกอบไปด้วย นัท(Bulshark), Earnny, Jayzii และ XXX ภายใต้ทีม EVOS Burnout ก่อนร่วมการแข่งขัน PUBG Mobile Star Challenge – Asia Finals ที่หัวหิน เพื่อเฟ้นหาตัวแทนประเทศไทยลุยเวทีระดับโลก แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามที่หวัง

เรียนรู้จากความผิดหวัง

“รายการที่หัวหิน เป็นจุดเปลี่ยนเลย” นัท เล่าย้อนการแข่ง PUBG Mobile ที่หัวหิน “แต่หลายทีมที่ผ่านเข้ามาเราไม่ได้รู้สไตล์การเล่นของเขา เราเล่นกล้าๆกลัวๆ ไม่กล้าเล่น ผิดพลาดไปหมด แต่ก็ประคองอันดับได้จนถึงที่ 2 จนได้ไปดูไบ ตอนนั้นเรามั่นใจว่าต้องทำได้ ก็เหนือความคาดหมายนะ เพราะมันไม่เคยมาถึงจุดนี้ มันเป็นครั้งแรกด้วย”

EVOS Burnout ของ นัท ฝ่าฟันจนได้ตั๋วไปแข่ง PUBG Mobile Star Challenge 2018 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ แต่น่าเสียดายที่ทีมไปไม่ถึงฝัน เมื่อจบเพียงอันดับ 6 พร้อมความผิดหวังที่ต้องผูกใจเจ็บ

หลังจากนั้นทีมมีการเปลี่ยนแปลงไลน์อัพเรือยมาจนถึงจุดหนึ่งสมาชิกในทีมตัดสินใจแยกทาง ขณะที่ นัท หยุดแข่งไป 3 เดือน และหันไปเป็นสตรีมเมอร์อย่างเดียว เพราะอยากสนุกกับคนดู ประกอบกับเปิดธุรกิจ ชาบู ชื่อ Shabu E’mo แต่ก็ว่างเว้นไม่นานมาก เพราะหลังจากนั้นไฟนักแข่งในตัวถูกจุดขึ้นอีกครั้งเพื่อได้ชมการแข่งขัน PUBG Mobile ถึงขอบสนามรายการหนึ่งจนทำให้รู้สึกกระหาย อยากกลับไปยืนเวทีระดับโลกอีกครั้ง

“มีครั้งหนึ่ง ผมไปดูการแข่งที่สามย่าน มิตรทาวน์ ไปดูทีม RRQ (แชมป์ PUBG Mobile Star Challenge 2018) ลงแข่งกับทีมต่างประเทศก็ไปเชียร์ถึงหน้างาน พอเห็นก็รู้สึกอยากกลับไปแข่ง  มันท้าทายอยากกลับไประดับโลก อยากไปยืนอยู่ในจุดที่ได้แชมป์”

“สิ่งแรกที่ผมทำคือ ผมฝึกตัวเองเป็นอย่างแรก ยังไม่ได้มองหาทีม พยายามพัฒนาตัวเอง ผมไม่กลัวที่เคยหยุดแข่งไปก่อนหน้านี้ เพราะเล่นอยู่ตลอดในตอนสตรีม พอดีผู้จัดการทีมคนปัจจุบันตอนนี้เขารู้จักกับผมตั้งแต่อยู่ EVOS ผมบอกว่า ผมอยากกลับมาแข่ง มีสังกัดใหม่ที่กำลังจะทำไหม ก็รู้ว่ามี FaZe Clan ตอนแรกผมคิดอยากทำทีมสตรีมเมอร์ แข่งด้วยสตรีมไปด้วย แต่สุดท้ายเรามองว่า เราได้ทีมระดับนี้มาก็ต้องทำผลงานให้เยอะเลยมองหาผู้เล่นที่มีฝีมือมาร่วมทีม”

หลังได้ FaZe Clan เข้ามาทำทีม เป้าหมายต่อไปคือการหาสมาชิก ซึ่ง นัท ได้ชักชวนคนรู้จักจาก EVOS บางรายเข้ามาร่วมทีม ก่อนจะได้ผู้เล่นครบถึงเวลาเดินหน้าลุยศึก PUBG Mobile Pro League Season 1 และ 2 แต่ทุกอย่างจบลงด้วยความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ทีมในตอนนั้นค่อนข้างลงตัว ช่วงเปิดลีกเราทำผลงานได้ดีในรอบลีกๆก็ดีมากๆ แต่พลาดไปรอบไฟนอลที่ทำไม่ดีจบแค่ที่สอง ซีซั่นสองเราเปลี่ยนผู้เล่นใหม่ได้ดาวรุ่งมาตอนนั้นคิดว่าทีมโหดมากๆ ครั้งนั้นถ้าได้ที่ 1 ก็ได้ไปชิงแชมป์โลกเลย แต่สุดท้ายคะแนนรอบลีกได้ที่ 2 ผิดหวังกันอีกรอบ มาแข่งไฟนอลก็ทำได้ไม่ดี เราโฟกัสรอบลีกต้องเอาให้ได้พอไฟนอลก็รู้สึกแย่สุดท้ายที่ทำไม่สำเร็จ”

PUBG Mobile Pro League ทั้งสองซีซั่น นัท และ FaZe Clan ต้องเป็นพระรองทั้งสองหน ความผิดหวังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจที่รู้สึกย่ำแย่ แต่หนนี้เขาเลือกที่จะเดินต่อไป ไม่ยอมแพ้ เพราะเชื่อมั่นว่า วันหนึ่งต้องเป็นวันของเขา

แชมป์ประเทศไทย

2 ซีซั่น ที่จมอยู่กับความผิดหวัง นัท ไม่ได้ปล่อยให้สูญเปล่า เขาได้เห็นจุดอ่อนมากมายของทีมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งตัวผู้เล่นตลอดจนแบบแผนที่พลิกโฉม FaZe Clan ในซีซั่นถัดมา และทำให้พวกเขาไม่ใช่ทีมพระรองอีกต่อไป

“ซีซั่น 3 ต้องบอกว่าเป็นการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ เราเพิ่มผู้เล่นใหม่ 2 คน คือ sOup77 กับ Korpaii เรามีมันสมองของทีม 3 คนคือผม sOup77 และ Korpaii คอยแลกเปลี่ยนข้อมูล เรารีเซ็ตทุกอย่างใหม่หมด มีช่วงแรกที่เล่นแผนเดิมในรอบลีก เราเล่นแผนที่รู้สึกว่า แผนเก่าการไฟต์มันหายไปเยอะ เล่นไม่เป็นตัวเอง เข้าวงก็ตายตลอดเลยคุยว่า เราเล่นแบบนี้ไม่ได้ ถึงเวลาต้องเปลี่ยน เราเริ่มใหม่ทั้งหมด เรื่องแผนการเล่นช่างมัน เราเอาทีมไฟต์ก่อน ผู้เล่นก็ต้องเพิ่มสกิล ความั่นใจกันใหม่”

PUBG MOBILE PRO LEAGUE Thailand Season 3 Champion .(25/4/2021)

Posted by FaZe Clan Thailand on Sunday, April 25, 2021

ในการแข่งขัน PUBG Mobile Pro League – S3 2021: Thailand Finals (PMPL 3) ถึงเวลาที่ FaZe Clan จะประกาศความเป็นที่หนึ่งของเมืองไทย ช่วงแรกพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ แต่สามารถฮึดแซง The Infinity ในวันที่สอง ก่อนจะรักษาอันดับจนจบวันสุดท้าย นัท ทำสำเร็จพา FaZe Clan คว้าแชมป์ลีกสมัยแรกมาครอง

นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์เป็นตัวแทนไทยร่วมกับ Valdus The Murder และ The Infinity เข้าแข่งขัน PUBG Mobile Pro LeagueSeason 3 2021 Southeast Asia Championship 

“เราทำสำเร็จในซีซั่น 3 เราทำได้ เราได้เป็นที่หนึ่งของประเทศไทย วันนั้นทุกคนร้องไห้ออกมา รวมถึงโค้ชก็ร้อง เพราะนี่คือสิ่งที่เรารอมานาน ตั้งแต่เริ่มแข่งกันมาเราพักผ่อนน้อยมาก เพราะต้องฝึกซ้อมหนัก เราโฟกัสการแข่งมากๆ พอทำได้ก็ดีใจ”

“ผมภูมิใจมาก และดีใจที่ได้เป็นตัวแทนไทยอีกครั้งหนึ่ง…”

เกมเป็นมากกว่าเกม

จากวันแรกในวงการอีสปอร์ตกับการแข่งขัน FPS อย่าง Point Blank จนมาถึง PUBG Mobile เขาได้สัมผัส และเห็นความแตกต่างของเวลาแต่ละช่วยในวงการเกมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับมุมมองของเขาที่วันนี้อีสปอร์ตได้รับการยอมรับ และเติบโตอย่างก้าวกระโดด

“ผมคิดว่า วงการบ้านเราเติบโตมากๆ สำหรับ FaZe Clan เป็นทีมระดับโลก การที่เขาเลือกเข้ามาทำทีมในไทยแสดงว่าเขาต้องคิดว่า น่าจะทำรายได้จากเราได้ ผมคิดว่า ยุคสมัยนี้แตกต่างกันค่อนข้างเยอะในเรื่องการแข่ง และผู้เล่น” นัท เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้เขายังมองว่า แพลตฟอร์มหรือผู้ให้บริการต่างๆที่เป็นผู้สนับสนุน และเป็นช่องทางสำหรับคนรักเกมใช้เผยแพร่คอนเทนต์ สร้างตัวตนขึ้นมาอย่าง Online Station ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกมเป็นที่ยอมรับในสังคม

“ต้องบอกว่า Online Station เป็นสิ่งที่ดีสำหรับสตรีมเมอร์ ล่าสุดที่ผมร่วมการแข่งของ Online Station เป็นการแข่งของสตรีมเมอร์ การแข่งตอนนั้นเล่นในไทยและแข่งทีมต่างประเทศด้วย ผมคิดว่า หลายคนที่แข่งก็เป็นสตรีมเมอร์ คนที่เข้ามาดูจะรู้ว่าการเล่นเกมมันสามารถทำรายได้ให้เราได้จริง ผมมองว่า ดีมากต้องบอกว่า หลายคนมากๆที่เข้ามาสตรีมเกมเพราะเขามองว่า มันสามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้จริง”

“ผมคิดว่าในอนาคตเด็กๆน่าจะมีโอกาสเข้ามาอยู่ในวงการเกมได้เยอะขึ้น แต่มันมีข้อดีและเสียต่างกัน เกี่ยวกับเรื่องเรียน การแบ่งเวลาการเล่นที่ต้องแยกแยะให้ออก”

นัท ไม่ลืมเอ่ยถึงการแบ่งเวลา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เปลี่ยนภาพลักษณ์คนเล่นเกม และทำให้พวกเขาเหล่านี้เติบโตเป็นนักแข่งเกมที่มีคุณภาพ เหมือนที่เขาเองรู้จักการแบ่งเวลาให้ถูกต้องจนเปลี่ยนสิ่งที่ชอบเป็นอาชีพได้ ยิ่งกว่านั้น เขายังมองเป็นเรื่องดีกับการที่มีเยาวชนไทยรุ่นใหม่ฝีมือดีเข้าสู่วงการเกมเพื่อลงแข่งขันในอนาคต

“ผมมองว่า เป็นเรื่องดีที่มีเด็กมีพรสวรรค์เก่งๆเข้ามาเล่น อย่าง TonyK ผมมองว่า เขาไม่ได้ดูเด็กเลย เขาเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง แบ่งเวลาได้ในเรื่องการเรียน และการแข่งที่เป็นเรื่องของการทำงานเพื่อจะพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ”

Mission Complete

จากวันแรกที่เข้าสู่วงการอีสปอร์ต นัท ในวัย 29 ย่าง 30 ปี ผ่านช่วงชีวิตล้มลุกคลุกคลาน ทั้งเกือบเบนเข็มไปรับราชการ หยุดแข่งขันไปช่วงหนึ่ง ก่อนกลับมาอีกคร้ง และผิดหวังถึงสองหน แต่วันนี้เขาทำสำเร็จในการเป็นแชมป์ประเทศไทย อีกทั้งยังเคยผ่านเวทีระดับโลกมาแล้ว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกม มีส่วนสำคัญกับความสำเร็จของชีวิตอย่างมาก เพราะตั้งแต่วันแรกที่เขาเลือกเส้นทา

งนี้ เขาเชื่อมั่นเสมอว่า วันหนึ่งจะต้องทำสำเร็จ

“ผมอยากให้ผู้ใหญ่ลองเปิดใจ ยุคนี้เป็นยุคเทคโนโลยี หลายอย่างเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องลองศึกษา บางอย่างมันไม่ได้เป็นพิษร้าย อยากให้เห็นว่า เด็กเล่นเกมไม่ใช่แค่เด็กติดเกม”

“ตัวผมคงเสียดาย ถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้ เกมทำให้ผมเป็นคนใหม่ ทำให้เรามีชื่อเสียง เงินทอง และมีทุกวันนี้ จากที่คุณแม่ไม่สนับสนุน มาวันนี้เขาก็เข้ามาเชียร์มาดูการแข่งของผมด้วย แต่เขาก็ต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะกับการทำความเข้าใจในสิ่งที่เราทำ แต่ผมก็รู้สึกดีที่ทำให้เกมเป็นอาชีพ เราได้ทำสิ่งที่เราชอบ ครอบครัวก็เข้าใจเราด้วย”

“วันหนึ่งถ้าผมเดินไปถึงบันไดขั้นที่ 10 วันนี้น ผมคงไม่ได้แข่งแล้วก็คงทำธุรกิจส่วนตัว มีบ้านดูแลแม่ได้อย่างสบายทุกอย่าง ซึ่งมันเริ่มจากเกม อย่างแรกเลยเกมให้มิตรภาพ ให้สังคมใหม่ๆ ให้ชื่อเสียงตัวผมเองที่ทำรายได้เข้ามาได้จริง”

“เกมให้ทุกอย่างที่ผมต้องการ เพราะผมคิดเสมอว่า เกมไม่ใช่แค่เกม” นัท ปิดท้าย 

อ่านเพิ่ม: ฟ้าหลังฝน : การกลับมาของ Cherie กับมุมมองชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม