“อย่างแรกเลยคือเราต้องเก่ง แล้วเราต้องรู้เลยว่าไปได้ขนาดไหน ไม่ใช่ว่าเราเล่นได้กลางๆ แล้วอยากจะเป็น มันไม่ถึงเป้าหมายแน่นอน”
หากจะพูดถึงทีมนักแข่งเกม PUBG สัญชาติไทยในปัจจุบัน ทีมแรกๆ ที่ต้องนึกขึ้นมาคงหนีไม่พ้นทีม Armory Gaming (AG) เนื่องจากพวกเขาได้สร้างผลงานไว้มากมายในปี 2019 อย่างการเข้าร่วมชิงแชมป์โลก PUBG Global Championship 2019 จนคว้าอันดับที่ 28 จาก 32 ทีมได้สำเร็จ และเมื่อพูดถึงตัวแทนทีมชาติไทยนี้ ชื่อนักแข่งที่หลายคนต้องนึกออกหนึ่งในนั้นก็คือ ThanawatTH ผู้ถูกคัดไปร่วมศึกการแข่งขันทีมชาติ PUBG Nation Cup 2019 ด้วยฝีมือยิงแม่นสุดเดือดไม่แพ้เพื่อนร่วมทีม แถมเขายังเป็นยมฑูตมือฉกาจ นับตั้งแต่ทีมเริ่มแข่งขันทัวร์นาเมนต์แรกอีกด้วย
หลังจากที่ ONE Esports ได้นำบทสัมภาษณ์จาก ThanawatTH บางส่วนมาวิเคราะห์ถึงทีม AG ต้องเจออะไรในศึก PGC 2019 ก็ขอนำการผจญภัยแบบชีวิตส่วนตัวล้วนๆ มาให้ดูกันว่าเข้าสู่วงการเกม จนมาเป็นนักแข่งเกมโดดร่มได้อย่างไร และเป้าหมายต่อไปของเขาจะมีอะไรกันบ้าง รวมทั้งยังมีข้อความฝากถึงเหล่าเกมเมอร์ ที่อยากเป็นนักแข่งอีสปอร์ตเอาไว้ด้วย
โตมากับเกม
“ผมเริ่มเล่นเกมตั้งแต่เด็กๆ ประมาณอนุบาลเลยครับ ก็เริ่มเล่นตั้งแต่พวกเกมตลับ เกม PlayStation 1 เกมคอมพิวเตอร์ แล้วก็ไล่มาเรื่อยๆ จนถึง PlayStation 2 แล้วก็กลับมาเล่นคอมพิวเตอร์อีกทีนึง”
ThanawatTH หรืออีกชื่อหนึ่งที่คนชอบเรียกนั่นก็คือจ่าบี เนื่องจากกำลังเข้ารับการเกณฑ์ทหารในปัจจุบัน ได้เผยว่าเขาชอบเล่นเกมมาตั้งแต่ยุคอนุบาล และผ่านเกมหลากหลายสมัยมาก แต่ก็เน้นกลับมาเล่นคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากในช่วงประถมศึกษาปีที่ 1 เขาได้อยู่ในร้านคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจเสียมากกว่า เพื่อไปเล่นเกมร่วมกับเหล่าพี่ๆ และผองเพื่อน โดยยังบอกว่าเกมแรกที่เล่นจริงจังคือเกมสงครามทหาร Special Force (SF) ซึ่งเป็นเกมออนไลน์แข่งขันระหว่างผู้เล่น (PVP) มุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS) ที่ฮิตมากสำหรับเด็กยุค 90 ในประเทศไทย
“ผมเล่นเกมคอมพิวเตอร์จริงจังก็ตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1 เลยครับ เกมแรกที่เล่นคือ SF เพราะส่วนใหญ่เด็กร้านเกมก็เล่นตามกระแสร้านเกม พี่เขาเล่นอะไรกัน เราก็จะเล่นตาม ก็เรียกว่าเริ่มเล่นเกมมานาน แต่ก็ไม่เคยจริงจังที่จะแข่งเลย แค่เล่นสนุกๆ ตามประสาเด็ก”
แม้จะเริ่มเป็นเด็กร้านเกมตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต แต่เขาเผยว่าถ้าพูดถึงงานอดิเรก ก็คงจะชอบไปในการเตะฟุตบอลเสียมากกว่า เนื่องจากความสนุกที่ได้รับ และอนาคตที่ดาวรุ่งได้ไกลมาก โดยที่พวกเราไม่ได้เห็นชื่อ ThanawatTH เป็นนักบอลมืออาชีพคนหนึ่ง ก็เพราะเขารู้สึกว่านี่ไม่ใช่เส้นทางสำหรับตัวเอง
“มีช่วงมัธยมต้นที่สนใจฟุตบอลมาก แต่พอเราไปแข่ง เล่นไปเล่นมา มันกลับรู้สึกว่าไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทีม หรือตัวเรา พอจบช่วงมัธยมต้นแล้วไปเรียนสายอาชีพ ผมเลยเลือกไม่ไปต่อ”
“ถ้าชอบจริงๆ และรู้สึกว่าไปได้ไกลจริงก็คือฟุตบอลครับ แต่ด้วยที่ติดตรงนี้ ผมเลยมาอีกทางเลย”
การพบสิ่งสร้างฝันให้ชีวิต
จ่าบีได้เล่าว่าพบเกม PUBG ผ่านการดูสตรีมเมอร์ผู้ชอบเล่นเกมใหม่ๆ ท่านหนึ่ง ทำให้เขาได้ซื้อมาเล่นตั้งแต่เกมยังอยู่ในช่วงทดลองเปิดให้บริการล่วงหน้า (Early Access) โดยที่เขาก็ได้ผ่านเกมโดดร่มมาก่อนอย่าง H1Z1 ด้วยเช่นกัน ซึ่งเขาก็บอกว่ายังชอบ H1Z1 เยอะกว่าในช่วงแรก แต่พอผ่านไปไม่นาน PUBG กลับสนุกกว่าเห็นๆ
“ผมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ดูสตรีมเมอร์เล่นเกม แล้วมีพี่อยู่ช่องนึง เขาชอบเล่นเกมใหม่ๆ มีเกมไหนมาเปิด เขาก็จะไปเล่นเลย ผมก็นั่งดูเขาเล่น และก็เป็นแนวทางให้เห็นว่าเกมมันน่าสนุกดี ก็เลยลองซื้อมาเล่นดู”
“สำหรับผมก็ผ่าน H1Z1 ที่ตอนนั้นกำลังเป็นกระแสดังมาก่อน ผมเล่นได้ประมาณ 3-4 เดือน แล้วค่อยย้ายมาเล่น PUBG ส่วนตัวผมชอบ H1Z1 กว่านะ ระบบการเล่นมันง่าย คนก็เล่นกันเยอะ แต่พอเข้าสู่ช่วงหลังๆ PUBG ก็ดีกว่า เพราะมีเพื่อนเล่นด้วย คนไทยก็เล่นกันเยอะกว่า”
ชายผู้นี้ รู้สึกว่าการเล่น PUBG เป็นอะไรที่สนุกก็เพราะได้เฮฮากับเพื่อนอย่างไม่น่าเบื่อ โดยเขายังชอบการเล่นในโหมดโซโล่ด้วย และรู้สึกว่าเกมสามารถหาอะไรทำแปลกใหม่ได้ตลอด รวมทั้งยังเป็นผู้เล่นหลักในมุมมอง FPP หรือมุมมองกล้องรูปแบบให้ล็อคไว้เป็น FPS นั่นเอง
“มันสนุกตรงที่เล่นกับเพื่อนครับ เล่นยังไงก็ไม่เบื่อ เกมมันมีอะไรที่แปลกใหม่ เราลองอะไรเล่นสนุกๆ ได้”
“ผมชอบเล่นทั้งโหมดโซโล่ และทีมนะ แต่เล่นกับเพื่อนยังไงก็สนุกกว่า ส่วนด้านโหมดมุมมองการเล่นก็น่าจะ FPP ช่วงหลังๆ การแข่งของ PUBG จะมีแค่ FPP ด้วย และด้านปืนก็คือผมชอบใช้ M4 ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะชอบเล่นสไนเปอร์ แต่หลังๆ จะมาเล่นไรเฟิล เพราะรู้สึกว่ามันยิงได้คมกว่า”
แม้จ่าบีจะได้เล่นเกมโดดร่มนี้ จนกลายเป็นนักแข่งตัวแทนทีมชาติไทย แต่เขาก็กลับไม่ได้รู้สึกว่าเล่นเก่ง หรือมีพรสวรรค์อะไรในช่วงแรก แต่วันหนึ่งที่เขาเริ่มไปดูโปรเพลเยอร์สอนเล่น แล้วนำวิธีมาปรับใช้เป็นของตัวเอง เขาก็พบว่าสามารถทำได้ไม่ยาก จึงเหมือนเป็นการปลุกพลังความโหดภายในตัว และกลายเป็นมือสังหารแห่งทีม AG ในปัจจุบัน
“ตอนแรกก็ยังรู้สึกไม่มีอะไรครับ แล้วไปมาก็คือผมชอบดูโปรเพลเยอร์ หรือคนที่เขาเก่งๆ ผมก็จะนั่งดูเขาว่าเล่นอะไร ถ้าเขาเจอคู่ต่อสู้แบบนี้ เขาจะสู้ยังไง แล้วเขาจะชนะได้ด้วยวิธีไหน ผมก็จะศึกษา แล้วลองเล่นด้วยตัวเองดู ซึ่งก็ลองไปเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกแบบ เออ ผมก็ทำได้เหมือนเขานี่”
เป็นที่ทราบกันดีว่าหลังจากเกม PUBG ได้วางจำหน่ายออกไปไม่นาน ก็มีเกมแนวโดดร่มกำเนิดขึ้นมาใหม่เพียบมากมาย แต่สำหรับจ่าบี ไม่ว่าจะเกมไหนก็เล่นได้ไม่ถูกใจเท่า PUBG ซักเกมเลย ยกเว้น Apex Legends ที่ยังไม่ได้ลอง เพราะเกมเปิดให้บริการช่วงไปเกณฑ์ทหารพอดี
“ไม่มี หรือเจออันไหนที่ถูกใจเลยครับ Fortnite ก็มีไปเล่นบ้าง แต่ด้วยความที่มันไม่มีรายการแข่ง ก็เลยไม่ได้โยกย้ายลองไปเล่นหลักๆ ส่วน Apex Legends ก็เป็นช่วงเวลาที่ผมเข้าไปรับใช้ชาติพอดี ก็เลยไม่ได้ลอง”
จ่าบียังได้แอบบอกอีกว่าแม้เขาจะเล่นเกมยิงตั้งแต่เด็ก แต่เขาก็เล่นเกมแนวอื่นไปด้วย และเหตุผลที่ยังเห็นเขาแข่งเกมบนแพลตฟอร์ม PC ก็เพราะความผูกพันตั้งแต่ยุคอนุบาล รวมทั้งแพลตฟอร์มมือถือที่ไม่สามารถควบคุมได้ดีเทียบเท่า
“ผมเล่นเกมอื่นคือแนว MOBA อย่าง Dota 2 หรือแนวกีฬา บางทีก็เล่น FIFA อะไรประมาณนี้ครับ”
“ผมชอบ PC มากกว่าครับ ผมเล่นตั้งแต่เด็ก ทุกอย่างมันเหมือนทำมาเพื่อให้ขยับได้ดีมากกว่า”
ก้าวสู่เส้นทางนักแข่ง
ชื่อ ThanawatTH เริ่มแจ้งเกิดเป็นครั้งแรก ผ่านการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ขนาดย่อยของ PUBG ในประเทศไทย โดยจ่าบีได้เล่าว่าหลังจากเห็นมีแข่งในตอนนั้น เขาก็รวมตัวกับเพื่อนที่เล่นด้วยกันตลอดอย่าง GeneralGaming, DMG และ RUSHIIE เพื่อซ้อมไปแข่งขันในชื่อทีม Demonic ซึ่งการลงแข่งในแต่ละครั้งก็ไม่ได้แชมป์มาครอบครอง แต่พวกเขาก็ทำผลงานติด 5 อันดับแรกตลอด เลยส่งผลให้ทางสังกัด AG ติดต่อมาทำทีมร่วมกันเสียเลย
“มันมีทัวร์นาเมนต์ PUBG เล็กๆ เกิดขึ้นมาครับ เราเห็นก็เลยรวมตัวกับเพื่อน แล้วก็ลองไปแข่งทัวร์นาเมนต์ดู ซึ่งก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จ แต่ว่าผลงานมันกลับค่อนข้างที่จะดี เราก็เลยฝึกซ้อม และแข่งกันต่อไปเรื่อยๆ ในชื่อทีม Demonic ที่มีตัวผม, GeneralGaming, DMG และ RUSHIIE ที่ตอนนี่ผลันตัวไปเป็นโค้ชด้วย พวกเราใช้ชื่อนี่แข่งไปประมาณครึ่งปีได้ก็มีพี่ที่สนใจ เลยชวนมาทำทีม Armory Gaming ด้วยกัน ก็เลยย้ายเข้ามาทั้งทีมเลย”
“ทีม Demonic ไม่เคยชนะรายการไหน แต่ผลงานก็ติด 5 อันดับมาตลอดครับ”
ส่วนการที่จ่าบีได้รู้จัก และฟอร์มทีม Demonic ร่วมกับ GeneralGaming, DMG และ RUSHIIE ก็ถูกเผยว่านั่นเป็นเพราะเขาค้นหาเพื่อนเล่นด้วยภายในกลุ่มคนเล่น PUBG ในประเทศไทย แล้วดันพบเจอเพื่อนใหม่ 3 คนที่พาเขาไปได้ไกลถึงเวทีระดับโลกนั่นเอง
“จริงๆ อยู่กันคนละจังหวัดเลยครับ แต่บังเอิญไปเจอกันในกลุ่มหาเพื่อนเล่น PUBG ซึ่ง DMG, GeneralGaming และ RUSHIIE รู้จักกันก่อนแล้วในเกม Dead by Daylight เราคนสุดท้ายเพิ่งมารู้จักกันในเกม PUBG”
“เราคุยผ่านเสียงกันมาหลายเดือน แล้วเราก็ไปเจอหน้ากันจริงๆ ตอนแข่งทัวร์นาเมนต์ PUBG ที่ประตูน้ำ เราก็มาเจอแล้วรวมตัวกัน ถือว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี และด้วยความที่ผมเป็นคนนครสวรรค์ ก็เลยเป็นประสบการณ์เดินทางไกลมาหาเพื่อนด้วย”
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าสนใจของจ่าบีด้านนักแข่ง คือแม้เขาจะเล่นเกมมาตั้งแต่อนุบาล แต่เขาก็ไม่เคยที่จะได้แข่งขันเกมไหนมาก่อนเลยนอกจาก PUBG โดยสิ่งที่ทำให้ทราบได้ว่าเป็นเพราะอะไร ก็คงจะมาจากที่ในอดีต เขาไม่เปิดใจที่จะต้องสื่อสาร หรือสร้างมิตรกับคนแปลกหน้าภายในโลกออนไลน์
“ไม่เลยครับ PUBG คือเกมแรกที่ผมเป็นนักแข่ง ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมาเป็น และมาได้ไกลขนาดนี้”
“ตอนสมัยเล่นเกม SF ผมก็อยากลงแข่งอยู่ครับ แต่ตอนนั้นติดตรงที่ผมไม่ได้เปิดใจเรื่องการสื่อสาร หรือต้อนรับเพื่อนใหม่ๆ เข้ามาเลย”
จากที่จ่าบีได้เล่าไว้แบบนี้ จึงทำให้เกิดคำถามว่าแท้จริง เขาเคยผ่านเกมแนวยิงไหนมาบ้าง ซึ่งเขาก็เผยว่าเคยเล่นแทบทุกเกม จะมีก็ Overwatch ที่ไม่เคยจับ เนื่องจากการเกมเล่นที่เน้นว่องไว และหลังจากผลันตัวมาเป็นนักแข่ง PUBG ก็เคยไปติดเกม Rainbow Six: Siege จนแอบบอกว่าขนาดทำให้กลับมาเล่น PUBG แล้วยิงใครไม่ค่อยได้ในการแข่งขัน Nation Cup 2019 อีกต่างหาก
“เรียกว่าผ่านมาทุกเกมยิงครับ ยกเว้น Overwatch ที่ไม่เคยจับ ผมนั่งดูเขาเล่นแล้วพอได้ แต่เล่นจริงๆ ไม่น่าได้ ผมว่าตาลายเพราะเกมมันไว”
“ส่วน Rainbow Six: Siege ก็มีช่วงนึงที่ผมไปติดจนเล่น PUBG ไม่ได้เลย ซึ่งผมก็ไปเล่นกับเพื่อนบ้าง เล่นกับพี่บ้าง เล่นกับน้องในสังกัดบ้าง สุดท้ายติด เล่นไปแบบเดือนกว่า ไม่ค่อยได้จับ PUBG พอไปแข่งชิงแชมป์ประเทศ ผมก็ยิงไม่ค่อยได้เลย”
อย่างไรก็ตาม จ่าบีก็บอกว่าคงจะไม่ได้เห็นชื่อ ThanawatTH ไปเป็นนักแข่งอยู่ในเกม Rainbow Six: Siege แน่นอน เนื่องจากตัวเกมที่ไม่ได้ต้องเก่งแค่ยิงแม่น แต่ต้องเก่งในเรื่องสร้างกลยุทธ์แบบหน่วยรบเข้าไปด้วย
“เกมนี่น่าจะไม่มีทางไปแข่งครับ เพราะทีมน้องของพวกเราค่อนข้างเก่งด้วย ผมเก่งแค่เรื่องยิง แต่เกมมันมีอะไรมากกว่านั้น”
การมาเป็นนักแข่งอีสปอร์ต ก็ถือว่าทำให้เขามีชีวิตที่แตกต่างจากเมื่อก่อนมากอยู่เช่นกัน โดยจ่าบีได้เล่าว่าในอดีต เขาจะสามารถใช้เวลาไปอยู่กับเหล่าผองเพื่อนได้นานด้วย แต่เมื่อมาเดินเส้นทางนี้ เขาก็เริ่มใช้ชีวิตอยู่กับจอคอมพิวเตอร์เป็นหลัก เพื่อทำการซ้อมทุกวัน และหาความสุขผ่านโลกอินเทอร์เน็ตแทน
“ส่วนใหญ่บางทีผมก็จะไปอยู่กับเพื่อน แล้วก็เล่นเกมวันละ 5 ชั่วโมงก่อนนอนอะไรงี้ แต่หลังมาเป็นนักแข่ง ตื่นมาเราก็ซ้อม ว่างๆ ก็มาหาหนังดูประมาณ 3 ถึง 4 ชั่วโมง ถึงค่อยไปนั่งเล่นเกมต่อ เล่นได้ซักพักนึงก็จะพักผ่อน ก่อนที่จะไปซ้อมทีมร่วมกับโปรเพลเยอร์คนอื่นๆ เวลา 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืนตามตาราง”
จ่าบียังเป็นหนึ่งในนักแข่งที่ได้เริ่มเข้าสู่วงการนี้ นับตั้งแต่ยังอยู่ในช่วงวัยเรียนเท่านั้นด้วย แต่หลังจากที่เรียนจบ เขาก็ต้องรับหน้าที่ในการรับใช้ชาติ เนื่องจากจับได้ใบแดงทบ.2 ขณะเข้าคัดตัวการเป็นทหารเกณฑ์ แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการเป็นโปรเพลเยอร์แต่อย่างใด จึงทำให้ยังได้เห็นชื่อ ThanawatTH เข้าแข่งรายการใหญ่ต่างๆ และหลังจากที่เขาปลดประจำการ เขาก็บอกว่าจะยังมุ่งเป็นนักแข่งต่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ช่วงเป็นนักแข่งแรกๆ ผมยังเรียนสายอาชีพก่อนที่จะจบปี 3 อยู่ครับ พอเรียนจบก็ยังเป็นนักแข่ง แต่ผมก็ต้องไปจับใบดำ ใบแดงการเกณฑ์ทหารด้วย แล้วผมก็โดนทบ.2 เลยมีเวลาว่างอยู่เพียงแค่ 7 เดือนก่อนจะเข้าไปรับใช้ชาติ ผมเลยคุยกับทางบ้านว่าขอทุ่มเทกับทางนี้นะ ไหนๆ ก็มาได้แล้ว ขอไปให้สุดเลย ซึ่งที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไร”
นอกจากนี้ จ่าบียังเผยถึงรายได้ของการเป็นนักแข่งอีสปอร์ตว่าได้จากส่วนไหนบ้าง โดยจะเห็นได้ว่าตัวเขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินเลย แต่เมื่อลองถามว่าแล้วนักแข่งอีสปอร์ตจะทำเงินได้ดีทุกคนไหม เขาก็ตอบว่าขึ้นอยู่กับเกมที่แข่งขันด้วย ถ้าแหล่งสนับสนุนเยอะก็มีเงินเดือนดี แต่ถ้าแหล่งสนับสนุนน้อยก็คงต้องไปลุ้นเงินรางวัลการแข่งขันแทน
“แล้วแต่เกมครับ ถ้านักแข่ง ROV ผมว่ามั่นคง แต่ถ้าเกม PUBG ผมว่าไม่มั่นคง เพราะนักแข่ง ROV จะได้เงินเดือนสูงกว่าอยู่แล้ว ขณะที่ของเราต้องหวังเงินชนะจากการแข่ง”
“สำหรับตัวผมก็จะได้จากทางสังกัด Armory Gaming และทางการเป็นสตรีมเมอร์บน Twitch ซึ่งก็จะได้ส่วนหลังเป็นแบบเล็กๆ น้อยๆ จากคนที่โดเนท ถือว่าผมอยู่ได้ครับ สังกัดผมเขาดูแลหมดทุกอย่างทั้งที่พัก คอมพิวเตอร์ ค่าไฟ ค่าอาหาร ที่นอน มีให้เราครบเลย”
หลังจากที่จ่าบีได้เผยรายได้ และความมั่นคงของนักแข่ง เขาก็ได้กล่าวต่อถึงน้องๆ ที่อยากเป็นนักแข่งอีสปอร์ต ว่าจะเริ่มต้นยังไงให้ทำเงินได้มั่นคงเหมือนนักแข่งนาม ThanawatTH
“หนึ่งเลยคือเราต้องเก่งแน่ๆ ครับ แล้วเราต้องรู้เลยว่าไปได้ขนาดไหน ไม่ใช่ว่าเราเล่นได้กลางๆ แล้วอยากจะเป็น มันไม่ถึงเป้าหมายแน่นอน มันต้องทำให้ได้เต็มที่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของช่วงเวลาด้วย ถ้าเรามาถูกทางถูกเวลาพอดี เราก็จะไปได้ไกล”
สตรีมเมอร์ อาชีพที่ควบคู่
ภายในวงการเกม จ่าบีจะไม่ได้ทำอะไรควบคู่กับการเป็นนักแข่ง นอกจากการเป็นสตรีมเมอร์บนแพลตฟอร์ม Twitch โดยเขาก็เผยถึงเอกลักษณ์การสตรีมของเขา ว่าจะเป็นการเล่นเกมปกติ และพูดคุยกับเหล่าผู้ชมไปด้วยบางครั้ง จะไม่ได้มีการทำอะไรแปลกๆ เหมือนคนอื่น แถมนี่ก็เป็นยืนยันจากตัวเขาเองว่า ThanawatTH คือคนพูดน้อยมากๆ
“ไม่มีเลยครับ แถมการสตรีมของผมก็ธรรมชาติมาก เพราะคนรู้จักผมในด้านที่ยิงแม่น ยิงเก่ง ในสตรีมของผมก็จะไม่มีอะไรเลย นอกจากการยิงคนอื่นตายจนได้แชมป์ ไม่ได้มีคอนเทนท์สนุกๆ เหมือนช่องอื่น ผมจะมายิง ยิง ยิงโชว์อย่างเดียว”
“ผมเป็นคนพูดน้อยครับ แล้วก็ไม่ได้นั่งอ่านแชทตลอดเวลา เพราะจะโฟกัสกับหน้าจอเกมมากกว่า พอผมตาย หรือผมว่าง ผมก็จะหันมาอ่านแชท แล้วก็คุยกับคนดู ซึ่งแบบมันเป็นอะไรที่เกิดได้น้อยมาก เนื่องจากต้องรอผมตายก่อน หรือจบเกมก่อน”
ใครที่คิดว่าแชนแนลของจ่าบีจะเล่นเพียงแค่เกม PUBG ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะเขาก็บอกโดยตรงเลยว่ามีการถ่ายทอดสดเกมอื่นที่แปลกตาไปบ้างด้วย แต่เขาก็จะเล่นโดยไม่จริงจัง เป็นเพียงการเปลี่ยนบรรยากาศซักเวลาหนึ่ง
“ก็มีบางทีจะไปไลฟ์ Dota 2, CS:GO, Rainbow Six: Siege แต่ก็ไม่ได้จริงจังมาก ว่างๆ เปิดไปเล่นซัก 3 ชั่วโมงอะไรงี้”
ส่วนการเติบโตในด้านบันเทิง จ่าบีก็เล่าว่ายังไม่มีแผนทำอะไรให้นอกจากเป็นสตรีมเมอร์แน่นอน เพราะเขายังคงมุ่นมั่นพัฒนาด้านฝีมือ และได้สิทธิ์กลับไปโชว์ฟอร์มดุอีกครั้งในรายการ PUBG Nation Cup 2020 เท่านั้นก่อน
“น่าจะไม่มีครับ ตอนนี่ก็อยากทำผลงาน อยากที่จะแข่ง อยากจะมีฝีมือให้มากกว่าก่อน แล้วก็หวังในปีหน้าที่จะกลับไปแข่งระดับโลกด้วย”
สู่สังกัด Armory Gaming
สังกัด AG ถูกริเริ่มการแข่งเกม PUBG ขึ้นมาโดยมีนักแข่ง 4 คนจากทีม Demonic นั่นก็คือ ThanwatTH, DMG, GeneralGaming และ RUSHIIE ก่อนที่คนสุดท้ายจะผลันตัวไปเป็นโค้ช แล้วมีการนำผู้เล่นในชื่อ p1scezPRO เข้ามาในตำแหน่งที่ว่างอยู่ แต่การที่ทีมได้มี DuckmanZ เข้ามาร่วมสังกัดด้วย จ่าบีก็ได้เล่าว่านั่นเป็นเพราะเขาเห็นว่าเล่นโหดมาก เลยชวนเข้าทีมมาเล่นแทนในตำแหน่งของเขาขณะที่ต้องไปรับใช้ชาติ
“ตอนเข้ามาจะมีนักแข่งหลักเลยคือ ThanawatTH, DMG, p1scezPRO และ GeneralGaming ส่วน RUSHIIE ก็ผลันไปเป็นโค้ชของทีมครับ”
“DuckmanZ เป็นคนที่ผมแนะนำให้พี่ต้นสังกัดชวนเข้ามาแทนตำแหน่งผม ตอนที่ติดไปรับใช้ชาติ ผมเห็นเขายังไม่มีทีม เลยบอกลองไปชวนเขาดูก็ดีนะ เขาเล่นเก่งมาก”
กลยุทธ์ของทีมนี้ ก็ยังถูกเผยโดยจ่าบีแบบง่ายๆ ว่าพวกเขาจะเล่นกับทุกแผนของเกมที่มีอยู่ โดยจะดูจากสถานการณ์ว่าแผนไหนดีที่สุด และพวกเขาก็จะปรับแผนใหม่ได้ว่องไวมาก ทำให้ทีมอื่นที่จะงัดกับ AG จึงจะต้องคิดให้เร็วกว่าพวกเขาเท่านั้น
“เรียกว่าผมเล่นกันทุกแผนครับ เล่นตามสถานการณ์ และแก้ไขในสถานการณ์นั้น แต่เราจะแก้ได้เร็วมาก เราจะคิดปุ้บ ทำปั้บ แล้วก็จะบอกทุกคนให้เข้าใจทันที”
ด้านแผนการเล่นของทีม ก็ยังมีรูปแบบที่วางไว้ต่างสำหรับการแข่งภายใน และนอกประเทศอีกด้วย โดยจ่าบีได้กล่าวว่าเนื่องจากการแข่งขันระดับโลก หลายทีมจะให้ความสำคัญกับการยึดพื้นที่ไล่ยิงผู้เล่น
ขณะที่ในประเทศไทย จะเน้นไล่ฆ่ากันโดยไม่สนพื้นที่เลย จึงทำให้การเล่นจะไม่เหมือนกัน เพื่อให้แมตช์นั้นๆ อยู่ในภายใต้กำมือของพวกเขาได้สำเร็จ
“สไตล์ฺการเล่นจะไม่เหมือนกันครับ ถ้าระดับโลก เขาจะมองว่าพื้นที่นั้นมีค่ามากกว่า เราก็จะยึดพื้นที่เป็นหลัก และก็หาจุดต่อไปว่าจะไปยึดตรงไหน แต่ถ้าการแข่งในไทย คนส่วนใหญ่เขาจะหวงทีมไฟ้ทกันมากกว่า เขาอยากยิงกันอย่างเดียวเลย เราก็เลยคิดว่าถ้าอยู่กลางวง เราจะมี 1 คนที่อยู่แต่ในบ้าน แล้วอีก 3 คนจะไปหาคิลกัน ถ้ามีคนนู้นยิงกับคนนี้ เราก็จะไปหลอยซักคน แล้วก็วิ่งกลับบ้าน”
ทีมดังกล่าว ก็อยู่ด้วยกันมานานถึง 1 ปีครึ่งแล้วอีกด้วย โดยรายการแรกที่พวกเขาได้แข่งก็คือ PUBG Global Invitational Thailand เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วทีม AG มีความแตกต่างไปเยอะจากวันแรกขนาดไหน ก่อนที่จ่าบีจะบอกว่าเยอะจนน่าภูมิใจมาก ด้วยความที่เขาเล่นเพื่อทีม และพี่เจ้าของสังกัด เวลา 1 ปีครึ่งที่ทีมได้โชว์ฝีมือจนมีสปอนเซอร์เข้ามาตลอด จึงทำให้เขาประทับใจมากสุดๆ
“ค่อนข้างที่จะเยอะนะครับ ด้วยความที่ผมเล่นเพื่อทีม และให้พี่เจ้าของสังกัด ตอนแรกที่พวกเรามากัน เสื้อบนสังกัดพวกเราไม่มีอะไรเลย มีแค่คำว่า Armory Gaming และก็ธงของประเทศ พร้อมชื่อผู้เล่น แต่ตอนนี่มีสปอนเซอร์เต็มตัว ถือว่ารู้สึกประสบความสำเร็จแล้ว เรามีอะไรหลายอย่างที่เข้ามาสนับสนุนแล้ว”
สปอนเซอร์เจ้าแรกที่มาติดต่อทีมดังกล่าว ก็ยังถูกเผยจากจ่าบีว่าเข้ามาติดต่อผ่านหน้าเวทีแข่งขันในรายการ JIB SEAC 2018 อีกต่างหาก เนื่องจากทีมพวกเขาในวันนั้นได้โชว์ฝีมือสุดโหด จนคว้าแชมป์แรกมาครอบครองได้สำเร็จ
“รู้สึกจะตอนที่แข่งคัดเลือกไประดับโซน SEA ของปีที่แล้วครับ ทีมผมโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี เลยมีสปอนเซอร์มาติดต่อหน้าเวทีเลย”
จ่าบียังเปิดใจเพิ่มเติมถึงการมาอยู่ภายใต้สังกัดนี้ ว่าพวกเขาก็ไม่ได้แค่ต้องการที่จะซ้อมตามความถนัดไปตลอด แต่พวกเขาจะลองกลยุทธ์ใหม่ๆ หรือซ้อมในรูปแบบที่คิดว่าไม่ต้องก็ได้ เพื่อให้พวกเขาได้เข้าใจทุกแผนการเล่นทั้งหมด และนำไปพิชิตแชมป์โลกให้ได้ซักวันหนึ่ง
“ก็มีเยอะเลยครับ เราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ไม่ได้แค่ซ้อมแข่งไปวันๆ เราจะคุยกับทีมทุกวันว่าจะซ้อมแบบนี้นะ จะฝึกแบบใหม่ดูนะ ไม่ดีเราค่อยเปลี่ยน แต่เราจะต้องฝึกแบบนี้ ถึงจะแพ้ก็ช่างมัน แต่เราต้องซ้อมแบบนี้”
เมื่อจ่าบีถูกถามว่าทีมนี้ น่าจะอยู่ในอันดับไหนของประเทศแล้ว เขาก็ไม่ได้มีการตอบอะไรออกมาตรงๆ แต่ทีมของพวกเขาจะเล่นได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอน รวมทั้งก็น่าจะอยู่ภายใน 5 อันดับของประเทศเลยทีเดียว
“ผมก็ไม่ได้การันตีว่าจะแชมป์ตลอด แต่ทีมผมก็สามารถรักษามาตรฐานได้ดีมาก บางรายการก็รับเชิญเราไปแข่งรอบชิงเลย ซึ่งก็ทำให้บางคนก็ไม่ชอบเราเหมือนกัน ในมุมมองว่าทำไมไม่แข่งรอบแบ่งกลุ่มเลยหละ โดยเราก็ไม่อยากจะเถียงอะไร แต่เรามีผลงาน แล้วเขาก็ชวนเราไปเพราะตรงนี้ ผมเลยคาดว่าทีมของเราอยู่ประมาณ 5 อันดับของประเทศในเกม PUBG ครับ”
ส่วนทัวร์นาเมนต์ที่จ่าบีรู้สึกว่าเขา และทีม AG สามารถเล่นได้ดีมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นรายการ PUBG SEA Championship 2019 – Phase 2 ที่เป็นรายการทำให้ทีมดังกล่าวรับตั๋วไปแข่งขันชิงแชมป์โลก PUBG Global Championship และยังโดนดึงตัวไปเป็นนักแข่งทีมชาติไทย ในรายการ PUBG Nation Cup ร่วมกับ MinORu และ Shippy
“ก็น่าจะเป็นการแข่งในรายการ PUBG SEA Championship 2019 – Phase 2 ที่ได้แชมป์มาครับ เป็นทัวร์นาเมนต์ที่พวกเราเล่นได้ดีทั้งผม และก็ DuckmanZ จนโดนดึงไปเป็นนักแข่งทีมชาติในรายการ PUBG Nation Cup 2019 เพราะสามารถสังหารผู้เล่นได้มากที่สุดในการแข่งขัน”
การที่ ThanawatTH และ DuckmanZ จากทีม AG ได้ร่วมทีมกับ MinORu จากทีม MiTH และ Shippy จากทีม Tokio Striker ไปแข่งขัน PUBG Nation Cup 2019 ก็น่าจะทำให้ใครหลายคนเห็นว่า MinORu และ Shippy จะรู้แผนว่า AG เล่น และคิดยังไงกัน จนสามารถนำไปปราบภายในการแข่งขันตอนอยู่คนละทีมได้ ซึ่งจ่าบีก็บอกว่าเรื่องนี้ เขาก็รู้เหลี่ยมทั้งสองคนนั้นเหมือนกัน ทำให้เวลาไปเจอกันศึกไหน เขาก็จะมีการแก้ทางเป็นช่วงๆ กันไป
“เราก็รู้เหลี่ยมเหมือนกันครับ และเขาก็รู้แนวคิด หรือแผนการเล่นจาก Nation Cup เหมือนกัน เราก็จะต้องแก้ทางด้วยการไม่เล่นแผนเดิมที่เขารู้ว่าพวกเรามี DuckmanZ เป็นนักอ้อมหลัง ตอนที่เขามัวแต่หา DuckmanZ ก็แอบใช้วิธีอื่นจัดการซะเลย”
ทีม AG ก็ยังเป็นทีมที่ได้แข่งขันรวมมาแล้วทั้งหมด 25 รายการ โดยบางรายการก็สามารถคว้าแชมป์มาได้สำเร็จ และบางรายการก็ถือว่าพลาดรางวัลไปจนน่าเสียดาย ทำให้เมื่อลองถามจ่าบีว่าพอจะมีรายการไหนที่อยากกลับไปได้รางวัลบ้าง เขาก็ตอบว่าคงเป็นรายการแรกสุดที่ทีม AG ได้เข้าแข่งนั่นก็คือ PUBG Global Invitational Thailand ที่ผู้ชนะจะได้บินไปประเทศเยอรมนี เพื่อชิงแชมป์โลกประจำปี 2018
“น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์แรกของ Armory Gaming ในโซน SEA ครับ เป็นการแข่งขันคัดนักแข่งไปชิงแชมป์โลกที่เมืองเบอร์ลิน เป็นรายการที่พวกผมเปิดงานได้สวยมาก แต่กลับเล่นไม่ดีช่วงกลาง เลยอยากกลับไปแข่งให้ได้ที่ 1 ในตอนนั้น”
สุดท้ายในเรื่องของทีม AG จ่าบีก็ได้บอกถึงอนาคตของทีม ว่าพวกเขาอยากจะได้แชมป์ตลอดทุกรายการที่เข้าแข่งขัน หรือไม่ก็ที่ 3 เป็นอย่างต่ำ เพื่อให้เป็นทีมตัวเต็งที่ถูกเชิญไปแข่งรายการใหญ่ๆ ในอนาคต
“อยากจะได้แชมป์ตลอดทุกรายการ หรือไม่ก็ที่ 2 หรือ 3 ครับ เพราะมันจะมีผลต่อการเชิญไปแข่งรายการใหญ่, มีผลต่อมาตรฐานของทีม และสปอนเซอร์ของทีมเรา เลยไม่อยากหลุดจาก3 อันดับแรกได้ตลอด”
มุมมองวงการเกมโดดร่ม
สำหรับวงการเกมโดดร่มในประเทศไทย ผ่านมุมมองของนักแข่งอีสปอร์ตอย่างจ่าบี เขายังคงรู้สึกว่าเป็นวงการที่มีการสนับสนุนน้อยมาก หากลองนำไปเทียบกับเกมฝั่งมือถือชื่อเดียวกันอย่าง PUBG Mobile โดยเขาคิดว่าที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะทุกคนสามารถเข้าถึงมือถือได้ง่ายกว่า แต่ถ้าหากพูดถึงทีมเก่งๆ ในประเทศนี้ เขาก็รู้สึกว่ามีเยอะจนพอจะฝึกฝนให้ไปสู้กับทีมจากต่างประเทศได้อยู่ดี
“ผมว่าประเทศเราต้องเป็น PUBG Mobile ครับ ทางเขาสนับสนุนเกมบนมือถือมากกว่า เพราะทุกคนยังไงก็ต้องมีโทรศัพท์คนละ 1 เครื่อง แต่บางบ้านยังเลือกมีคอมพิวเตอร์แค่เครื่องเดียวต่อ 4 คน”
“ส่วนจะมีทีมเก่งๆ ให้เราไปปราบทีมจากต่างประเทศได้ไหม ผมว่าก็ได้ครับ”
จ่าบียังได้เผยถึงวงการแข่งขันเกม PUBG ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) ว่ามีหลายทีมที่เล่นกันเดือดไม่แพ้ทวีปอื่นเลยทีเดียว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาถึงความเข้มข้นของการแข่งขัน นั่นคือเรื่องของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ที่มักจะใช้อินเทอร์เน็ตแข่งขันข้ามประเทศกันเยอะหลายแมตช์ จนส่งผลให้มีเรื่องของความเร็วไม่เสถียร (Ping) ที่ทำให้หลายๆ ทีมไม่สามารถดึงความสามารถได้เต็มศักยภาพ และภายในภูมิภาคนี้ ก็ยังใช้วิธีคัดทีมจากหลายประเทศรวมกันไปแข่งระดับโลกแทน จึงส่งผลให้มีทีมจากไทยน้อยมาก ที่จะได้ไปเยือนเวทีระดับโลกแบบ AG
“ผมว่าดุครับ โซนเราค่อนข้างเป็นโซนที่ยิงกันดุมาก แต่ความเข้มข้นก็ยังไม่ถึงฝั่งยุโรป ด้วยที่ว่าฝั่งเราจะคัดกันภายในโซน SEA ที่มีหลายประเทศรวมกัน แต่ของเขาจะเป็นโซนแต่ละประเทศไปเลย”
“เขาสามารถคัดตัวแทนทีมชาติแบบออฟไลน์ทั้งหมด 90 แมตช์ได้ แต่ของเราต้องมาแข่งแบบออนไลน์ด้วย ทำให้มีเรื่องของอินเทอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวอีก เพราะต้องแข่งแบบข้ามประเทศ ก่อนจะมาแข่งช่วงท้ายแบบออฟไลน์ประมาณกัน 10 แมตช์เท่านั้น”
ส่วนถ้าถามว่าแล้วประเทศไหนในโซนนี้ ที่มีฝีมือ และหลายทีมสุดโหดให้น่าจับตามองนอกจากไทย จ่าบีก็มองว่านั่นคือทีมจากเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่เริ่มมีการสนับสนุนอีสปอร์ตกันหนักมากในช่วงหลังนั่นเอง
“น่าจะเป็นเวียดนามครับ เพื่อนบ้านใกล้ๆ เลย แต่ก็เจอค่อนข้างบ่อย จนรู้เหลี่ยมว่าเขาจะเล่นแบบไหน”
การผจญภัย 2 ศึกใหญ่ประจำปี 2019
รายการแข่งขัน PUBG Global Championship 2019 ที่เพิ่งได้แข่งชิงชนะเลิศจบในวันที่ 25 พฤศจิกายน น่าจะทำให้หลายคนทราบผลแล้วว่าทีม AG สามารถคว้าอันดับ 28 และได้รับเงินรางวัลมากถึง 12,000 ดอลล่าร์ (360,000 บาท) แต่นี่ก็ยังเป็นการแข่งขันชิงแชมป์โลกในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำให้ทุกประเทศไม่สามารถแข่งออนไลน์ภายในบ้านตัวเองได้ เพราะอินเทอร์เน็ตที่ไม่สามารถเสถียรข้ามประเทศขนาดนั้น และก็ต้องเดินทางผ่านเครื่องบินมาแข่งกันเป็นหลัก โดยในเรื่องดังกล่าว จ่าบีก็เล่าว่านี่เป็นการเดินทาง ที่ทำให้บางคนต้องพบเจออาการ Jet Lag หรืออาการป่วยเกี่ยวกับความผิดปกติทางการนอน ซึ่งเป็นโรคสุดฮิตสำหรับผู้ต้องเดินทางบนเครื่องบินด้วย และยังเป็นการเดินทางที่พบอุปสรรคมากมายเอาเรื่องเลยทีเดียว
“ พวกเราพบปัญหา Jet Lag ครับ บางคนอย่างผมจะไม่เป็น แต่บางคนปรับตัวนอนไม่ได้ ก็เลยต้องใช้เวลาหน่อย แต่สภาพอากาศก็ปกติดี ไม่มีใครป่วย หรืออะไร”
“PUBG Nation Cup 2019 ที่จัดในประเทศเกาหลีใต้ เรานั่งเครื่องแค่ 7 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่ PGC 2019 เรานั่งไปค่อนข้างลำบากนิดนึง เพราะเราต้องไปลงเครื่องที่เกาหลีใต้ก่อน แล้วก็ต้องไปพักรอเครื่องออกไปประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ต้องรออีกถึง 7 ชั่วโมง เราก็รอจนต้องนั่งเครื่องไปอีก 12 ชั่วโมง แต่ยังดีที่โรมแรมอยู่ข้างสนามบิน ใช้เวลา 15 นาทีในการเดินทางถึงเลย แต่ดันมาเจอปัญหาตรงด่านตรวจคนเข้าเมือง เราต้องรอนานถึง 3 ชั่วโมง ถึงจะเข้าประเทศได้ เพราะคนเข้าประเทศเยอะมากในวันที่ผมไป”
แม้จะเป็นการแข่งขันเวทีระดับโลก ที่มีทีมจากหลายประเทศเข้ามาแข่งขันกันมากมาย แต่ทางจ่าบีก็บอกว่าคนในทีมไม่ได้รู้สึกต่างจากเวทีในประเทศไทย และจะมีเพียงผู้เล่น Sceat เท่านั้นที่ตื่นเต้นมาก เนื่องจากเพิ่งถูกซื้อตัวให้มาเป็นผู้เล่นหลัก แล้วลุยศึกดังกล่าวกับทีมเป็นครั้งแรก
“สำหรับตัวผมเองไม่ต่าง รวมทั้งตัว DuckmanZ และ DMG เช่นกัน แต่ก็น่าจะเป็นทาง Sceat ที่เป็นน้องใหม่ของทีม เขาค่อนข้างตื่นเต้น ผมเลยบอกให้ใจเย็น ไม่ต้องร้อนรน หรือไม่ต้องทำอะไรให้เกินหน้าที่เรา เราเล่นกันดีอยู่แล้ว”
หากย้อนกลับไปถึงทัวร์นาเมนต์ PUBG Nation Cup 2019 ที่จัดขึ้นภายในเดือนสิงหาคม ก็ต้องเรียกได้ว่าทีมชาติไทย สามารถทำผลงาน และช็อตสวยๆ เอาไว้เยอะหลายครั้งมาก แต่ช็อตที่ใครหลายคนจดจำได้มากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นการที่เพื่อนร่วมทีมสละชีวิตให้ DuckmanZ บุกเข้าไปคนเดียวจนคว้าชัยชนะกินไก่ในแมตช์สุดท้ายของวันที่ 2 ได้สำเร็จ โดยช็อตนั้น จ่าบีก็ยังคงจำเรื่องราวตอนแข่งได้ จึงได้นำมาเล่าสู่กันฟังอีกด้วย
“ตอนนั้นเราจะมีพี่ MiNoRu เป็นคนสั่งการว่าทุกคนจะต้องทำอะไร และผมก็จะคุมอีกทีนึง เลยบอกให้ช่วยกันดูจอเพื่อนในตอนนั้นว่าเห็นคนที่ตรงไหนบ้าง ยิงได้ไหม แล้วก็บอกเขาว่าตรงไหนมีคนไม่ใกล้ ไม่ไกล ก็ให้คอยบอก”
“ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่าคงไม่ได้ที่ 1 เราอาจจะได้ที่ 2 แต่ทุกคนก็บอกดีแล้ว สวยแล้ว แต่แล้วเหตุการณ์ก็พลิกขึ้นมา เพราะฝั่งนั้นมั่นใจมากว่าจะชนะ เขาเลยมายืนนิ่งยิงเรา ซึ่ง DuckmanZ ก็เลยได้โชว์ฟอร์ม”
ส่วนภายในการแข่งขันระดับชาติครั้งนี้ จ่าบีก็กล่าวว่าเขาชอบช็อตที่ได้ชัยชนะกินไก่มาทั้งหมด แล้วก็มีช็อตตอนที่เขาสังหารทีมประเทศสหรัฐอเมริกาได้ 3 ศพ จนทำให้ทีมดังกล่าวต้องอดทำคะแนนไปก่อนประเทศไทย
“ส่วนตัวผมชอบช็อตได้แชมป์ทั้ง 2 ครั้ง แล้วก็มีช็อตนึงที่ผมยิงทีมประเทศสหรัฐอเมริกาได้ถึง 3 คน ขณะที่เขาบุกเข้าบ้านเราครับ”
สำหรับการแข่งในครั้งนี้ ทีมไทยก็สามารถคว้าอันดับ 6 จาก 16 ทีมไปได้สำเร็จ ถือเป็นผลงานที่ทำได้ดีมาก รวมทั้งจ่าบีก็ได้บอกว่าเขา รวมทั้ง DuckmanZ, MinORu และ Shippy ก็ภูมิใจเหมือนกัน แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ได้เล่นพลาดบางแมตช์ ก็อาจจะคว้าแชมป์มาครอบครองไปแล้ว
“มันมีเกมที่เราพลาด ถ้าเราไม่พลาดก็ได้แชมป์ หรือที่ 2 กันแน่นอน การันตีกันเลย ทุกคนคุยถึงเกมนั้นกันประจำ”
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันทีมชาติก็ถูกเปิดเผยจากจ่าบีว่ามีเวลาซ้อมทีมน้อยมาก โดยเขายังเผยว่ามีผลที่ทำให้ไม่คุ้นเคยว่าใครต้องสั่งการรบเลยทีเดียว
“ซ้อมกันน้อยครับ เพราะว่าปัญหาก็คือผมกับ DuckmanZ อยู่ทีมเดียวกัน เราก็ต้องไปแข่งทัวร์นาเมนต์อื่นอย่าง MET Asia Series: PUBG Classic และพี่ MiNoRu กับทีมของเขาก็มาแข่งรายการเดียวกัน พี่ Shippy ก็เหมือนกันด้วย ทำให้เมื่อมีเวลาว่าง เขาก็ต้องไปซ้อมร่วมกับทีมของเขา จึงทำให้การซ้อมทีม Nation Cup 2019 จะมีเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน รวมๆ คือซ้อมได้รวม 3 วัน”
“แต่ในการแข่งนั้น เรามีแค่พลาดไม่ถูกจังหวะเฉยๆ ครับ เราตัดสินใจพลาดกันด้วยความที่ไม่คุ้นว่าใครจะต้องเป็นคนสั่ง”
แม้มีเวลาซ้อมเพียงแค่ 3 วัน แต่จ่าบีก็ขอบอกเลยว่าพวกเราไม่ได้เล่นแค่แผนเดียว พวกเขามีการเปลี่ยนแผนเล่นทุกวันอีกด้วย แถมบางครั้งก็นัดเปลี่ยนกันทุกแมตช์ จนทำให้ทีมไทยได้ขึ้นมาอยู่อันดับ 6 สำเร็จ
“เปลี่ยนทุกวันครับ บางครั้งก็เปลี่ยนกันตาต่อตา โดยจะดูว่าควรเล่นแผนไหนตามเส้นทางเครื่องบิน”
ในการเล่นแบบทีม หลายคนก็น่าทราบด้วยว่าหากเป็นแผนที่ Erangel ทีมไทยเราจะเลือกโดดในโซนหมู่บ้านเล็กๆ หลายจุดช่วงกลางของแผนที่ตลอดเวลา ขณะที่ใน Miramar พวกเขาก็เลือกจะไปโดดในจุด Power Grid ทุกรอบเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ จ่าบีเผยว่าเป็นแผนที่ดัดแปลงมาจากกลยุทธ์ของทีม AG และด้วยความที่เป็นจุดกลางแผนที่ทั้งหมด จึงสร้างความสมดุลให้เข้าถึงวงเอาชีวิตรอดสีขาวชุดแรกได้ง่ายทุกแมตช์นั่นเอง
“เราเลือกกันตรงนั้นเพราะว่าทีม Armory Gaming ลงกันเป็นประจำอยู่แล้ว ด้วยความที่ทีมชาติมีนักแข่ง AG ถึงสองคนจึงใช้แผนตามเลยดีกว่า ซึ่งส่วนตัวที่พวกเราเลือกลงก็เพราะหนึ่งเลย ไม่มีโปรทีมไหนเลือกมาลง และข้อสอง มันอยู่ตรงกลางแผนที่พอดี ส่วนแผนที่ Erangel เราจะแยกโดดกันไปฟาร์มครับ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าไม่มีคน พอฟาร์มเสร็จก็มารวมตัวกัน”
นับตั้งแต่ที่มีการแข่งขันระดับโลกของเกม PUBG ทีมไทยก็ยังคงไม่สามารถมีโอกาสคว้าแชมป์อันดับ 1 มาได้ซักรายการ แต่ถ้าถามว่าเรื่องดังกล่าวจะมีความเป็นไปได้ซักวันหรือไม่ จ่าบีก็บอกว่าเป็นไปได้อยู่ แต่ทีมไทยจะต้องมีประสบการณ์เจอกับทีมจากประเทศอื่นบ่อยๆ ให้ได้เยอะเสียก่อน
“เป็นอะไรที่ตอบไม่ได้ครับ แต่ว่าต้องรอดู ผมว่าทีมไทยเราเก่งกันหลายทีม และหลายคน ซึ่งเขาแค่ขาดประสบการณ์แค่ภายนอก บางทีมเก่งในประเทศ แต่พอเจอระดับนอกก็สู้ไม่ได้ ต้องไปเจอบ่อยๆ ก่อนถึงจะสู้ได้”
เกมเมอร์ และการรับใช้ชาติ
จากที่ได้กล่าวในช่วงแรก จ่าบีกำลังต้องรับใช้ชาติอยู่ไปด้วยในปัจจุบัน เพราะเขาจับได้ใบแดงทบ.2 ขณะคัดตัวเกณฑ์ทหารใหม่ ทำให้น่าจะมีหลายคนที่สงสัยว่าแบบนี้ จะมีการใช้ชีวิต และเล่นเกมได้ลำบากขึ้นหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ จ่าบีก็ได้เปิดใจออกมาว่าก็รู้สึกแบบนั้นอยู่ แต่ก็ต้องปรับตัวให้ได้ หากอยากเป็นนักแข่งต่อไป
“ค่อนข้างต่างครับ มีเวลาน้อยลง แล้วต้องฝึกเป็นทหารให้มากขึ้น สายตาเริ่มเปลี่ยน เราไม่ได้จ้องจอคอมนานอีกแล้ว เราได้ไปเจอทุ่งหญ้า ทุ่งนาบ้าง ป่า ภูเขาบ้าง กลับมาเล่นคอมพิวเตอร์อีกทีวันแรกคือไม่ได้เลย เจ็บตาบ้าง มองไม่เห็นคนในจอบ้าง ก็ต้องปรับกันไป”
เหตุการณ์นี้ ยังเคยทำให้จ่าบีรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้ จนคิดว่าควรออกจากทีมมาแล้วด้วย เนื่องจากตัวเขาที่เริ่มมีเวลาน้อยลงกว่าเดิม จึงกลัวว่าจะเป็นตัวถ่วงให้กับเพื่อนร่วมทีม และพี่ในสังกัด ซึ่งท้ายที่สุด ทีม AG ที่มองว่า ThanawatTH ไม่ใช่นักแข่ง แต่เป็นครอบครัว ก็บอกกับเขาว่าไม่มีปัญหา ทำให้เกิดการล้มเลิกความคิดดังกล่าวไป แถมก็กำลังจะปลดประจำการในปีหน้านี้ โดยการที่ได้เข้าแข่งขัน PUBG Global Championship 2019 ก็เพราะเป็นช่วงพักประจำการพอดี
“ตอนแรกก็ไม่เป็นอะไรครับ เพราะผมจับได้ใบแดงตอนผมทำทีมกันเองในชื่อ Demonic แต่หลังจากที่ได้สังกัด Armory Gaming เข้ามา ผมก็บอกเขาว่าจะออกจากทีมนะ ผมไม่อยากให้เป็นตัวถ่วง แม้ผมจะเล่นเก่งก็จริง แต่เรื่องนี่ผมก็กลัวทีมจะไปต่อไมไ่ด้ ผมก็เลยอยากได้คนร่วมแข่งสม่ำเสมอ หรืออยู่กับเขาได้ยาวเลย”
“ตอนแรกผมก็นึกว่าจะได้ออกแล้ว แต่ทางสังกัดก็บอกไม่เป็นอะไรหรอก อยู่ต่อเล่นด้วยกันไปเลย แล้วค่อยว่ากันอีกทีนึง ผมก็เลยยังอยู่กับทางนี้ แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะคุยกับที่บ้านแล้วด้วยส่วนนึง เลยไปให้สุดทางดีกว่า และก็จะปลดประจำการตอนปี 2020 พอดีครับ ช่วงสิ้นเดือนตุลาคม”
สุดท้ายนี้ จ่าบีก็ได้ฝากวิธีการเตรียมตัวเป็นนักแข่งอีสปอร์ตให้เกมเมอร์ชาวไทยอีกครั้งหนึ่ง และก็ได้เผยถึงอนาคตของตัวเขา ว่าจะแข่งในรายการที่ทีมคิดว่าเขาพร้อมเท่านั้นไปก่อน
“ถ้าเรามีทีม เราก็ควรซ้อมทีม เราควรดูแข่งปูแนวทางให้กับเราว่าเขาซ้อมกันยังไง เขาแข่งกันยังไง วงแบบนี้ เล่นกันยังไง ถ้ามีทีมก็จะเป็นแบบนั้น ส่วนใครที่ไม่มีทีม เราก็ควรเปิดใจ เล่นกับคนอื่น หรือลองไปเล่นกับทีมที่เขาเปิดรับสมัครดู เพื่อทำมาตรฐานให้กับตัวเอง ถ้าเราเล่นดีแต่เขาไม่เอา เราก็ไปทีมอื่นได้อยู่แล้ว ถ้าเรามีแววจริงๆ ก็ลองดู เราต้องหาประสบการณ์ให้ได้ ของแบบนี้ มันไม่ได้เกิดในช่วงข้ามคืน มันต้องเกิดจากหลายๆ วัน และสะสมผลงาน”
“ส่วนการแข่งก็แล้วแต่ช่วงเวลาครับ ไม่รับประกันว่าเราจะได้ออกทุกทัวร์นาเมนต์ แต่ถ้าผมพักแล้วตรงกับรายการไหน ผมก็จะพยายามซ้อมให้ได้กลับมาแข่ง แต่ถ้าไม่พร้อมจริงๆ ก็จะไม่แข่ง ผมก็จะให้ทีมประเมินด้วยว่าทีมพร้อมที่จะแข่งหรือเปล่า และทางสังกัดจะให้ผมแข่งหรือไม่”
สำหรับใครที่อยากติดตามการผจญภัย และข่าวสารโดยตรงจาก ThanawatTH ก็สามารถทำได้ด้วยการกดไลค์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Thanawatlive และเพจ Armory Gaming ส่วนการถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์ม Twitch ของจ่าบีก็จะใช้ชื่อช่องว่า Thanawatlive เช่นกัน
นอกจากนี้ ทาง ONE Esports ก็ยังได้นำรางวัลของสะสมเป็นพวงกุญแจโลโก้ Armory Gaming พร้อมลายเซ็นต์จาก ThanawatTH มาแจกกันถึง 5 รางวัลอีกด้วย โดยจะสุ่มแจกให้ผู้โชคดีที่เข้ามาคอมเมนท์ให้กำลังใจทีม AG และแชร์โพสต์บทความจากเพจลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง ใครที่สนใจก็สามารถทำตาม และรอลุ้นรับกันได้เลย โดยเราจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 13.00 น. ทางหน้าเพจ ONE Esports