Riot Games เพิ่งเปิดตัว Fade เอเจนท์รายใหม่ล่าสุดในแพตช์ 7.08 ที่ผ่านมา โดย Fade เป็นเอเจนท์ตำแหน่งInitiator ที่มีความสามารถในการหาพื้นที่ของศัตรูในระยะใกล้ พร้อมกับสกิลที่สร้างจังหวะให้กับเธอและเพื่อนร่วมทีมในการเคลียร์มุมต่างๆ ซึ่งเหมาะกับสไตล์การเล่นที่ดุดัน ต่างกับ Sova ที่ต้องหาข่าวโดยใช้สกิลจากระยะไกล
หลังจากที่เราได้ลองทดสอบเล่น Fade มาพักใหญ่ๆ ในวันนี้ เราจะมาอธิบายการเล่นเอเจนท์รายล่าสุดตัวนี้ เพื่อเป็นแนวทางให้เหล่าผู้เล่นนำไปปรับใช้ ช่วยให้ทีมของคุณเอาชนะได้อย่างได้ง่ายดาย
- คนเก่าหน้าคุ้น! Rawkus เปิดตัวคุมทัพ Sentinels รอบสอง
- Riot Games ขวาง kennyS ตำนาน CS:GO เข้าทีม Valorant ของ OG
แนวทางการเล่น Fade Valorant
Fade เป็นลูกผสมระหว่างตัวแทนผู้ริเริ่ม Sova และ Skye โดยเธอสามารถเปิดเผยที่ตั้งของศัตรูได้ คล้ายกับ Sova ในขณะที่ยังทำให้ตาบอดและทำให้คู่ต่อสู้ของเธอหูหนวกได้ ทำให้เธอโดดเด่นทั้งในด้านเกมบุกและเกมรับ
Haunt: สกิล Wall Hack สุดโกง
สกิล Haunt ของ Fade คือหัวใจสำคัญของความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ โดยจะช่วยให้เธอเห็นตำแหน่งของศัตรูที่อยู่ในระยะสกิล
อย่างไรก็ตาม สกิล Haunt มีคูลดาวน์สกิลทั้งหมด 40 วินาที ซึ่งคล้ายกับ Recon Bolt ของ Sova แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือ Haunt ทำให้ศัตรูติดสถานะ “Marked” ที่จะแสดงเส้นทางของศัตรูเป็นระยะเวลา 12 วินาที อีกหนึ่งความได้เปรียบคือสกิล Haunt ของ Fade จะได้จะเผยตำแหน่งของศัตรูได้เร็วกว่า Recon Bolt นอกจากนี้ สกิล Haunt ยังสามารถยึดติดกับหลังคาซึ่งศัตรูมักจะถูกตรวจพบก่อนที่จะทำลายมัน
หนึ่งเทคนิคที่ดีในการใช้สกิลนี้ โดยการโยนสกิลออกจาก Smoke ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นศัตรูและจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ทันได้ระวังตัว
Seize: อย่าวู่วามและใช้สกิลสร้างความได้เปรียบ
สกิล Seize เป็นสกิลที่ช่วยให้สร้างจังหวะให้ Fade และเพื่อนร่วมทีม โดยจะจับศัตรูที่อยู่ในระยะสกิลไว้กับที่เป็นเวลา5 วินาที และทำดาเมจสูงสุด 75 ดาเมจ โดยสกิลดังกล่าวสามารถเพื่อป้องกันหรือชะลอศัตรูในจังหวะศัตรูกำลังจะบุกเข้ามา ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสชนะในจังหวะต่อสู้มากขึ้น
นอกจากนี้ การใช้สกิลดังกล่าวพร้อมกับสกิลทำดาเมจอื่นๆ อย่างเช่น Paint Shells ของ Raze สกิล FRAG/MENT ของ KAY/O หรือสกิล Snake Bite ของ Viper จะทำให้ศัตรูต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หรือบางทีอาจจะจัดการศัตรูได้เลยทีเดียว
Prowler: ใช้สกิลในการช่วยเช็คมุมที่เสี่ยงอันตราย
สกิล Prowler ของ Fade ทำงานคล้ายกับ Boom Bot ของ Raze ในการล็อกเป้าหมายที่มองเห็นข้างหน้า นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมได้เหมือนสกิลแฟลช Guiding Light ของ Skye ซึ่งความสกิลนี้เหมาะสำหรับการตรวจหาศัตรูและเช็คมุมโดยไม่ต้องเสี่ยงอันตราย
สกิลดังกล่าวยังสามารถใช้ควบคู่กับสกิล Haunt โดยการให้ Prowler ตามรอยเท้าของศัตรูที่โดนสกิล Haunt มองเห็น ซึ่งเมื่อ Prowler ตรวจพบรอยเท้าของศัตรูก็จะเพิ่มความเร็วในการเข้าหาศัตรู และทำดาเมจเมื่อถึงศัตรู
Tyson “TenZ” Ngo ผู้เล่นสตาร์ดังของวงการ Valorant ของ Sentinels ได้เปรียบสกิล Prowler ของ Fade ว่าเหมือนคุณมีสกิลอัลติเมตของ Skye อย่าง Seekers ในทุกๆรอบ โดยคุณจะต้องสื่อสารและผสานงานกับเพื่อนร่วมทีมให้ดีในขณะที่ใช้สกิล Prowler เพื่อให้พวกเขาตามสกิลไปและจัดการศัตรูที่ตาบอดชั่วคราวจากสกิล
Nightfall: ไล่ล่าศัตรูของคุณด้วยสกิลอัลติเมตอันทรงพลัง
สกิลอัลติเมตของ Fade มีการใช้งานคล้ายกับ Rolling Thunder ของ Breach โดยแสดงเป็นสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ซึ่งศัตรูที่อยู่ในระยะสกิลจะถูกลดเลือดอย่างต่อเนื่อง และถูกทำเครื่องหมาย รวมถึงการติดสถานะหูหนวก
ซึ่งสถานะหูหนวกเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบที่ทรงพลังของ Nightfall ซึ่งมันจะทำให้ศัตรูไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัวและเสียงฝีเท้าทั้งหมด สิ่งนี้ยังช่วยให้เพื่อนร่วมของคุณทีมมีอิสระในการเล่นที่ดุดันยิ่งขึ้นและจัดการคู่ต่อสู้แบบตัวต่อตัวได้แบบง่ายดาย นอกจากนี้ ยังทำให้ใช้สกิลที่มีเสียงเอฟเฟกต์โดยไม่มีใครได้ยิน ตัวอย่างเช่น Omen สามารถใช้Shrouded Step เพื่อหลบหนีศัตรู
Fade คือเอเจนท์ที่เล่นเพื่อหาข้อมูลให้กับเพื่อนร่วมทีม
อย่างที่รู้กันว่า Fade เป็นเอเจนท์ตำแหน่ง Initiator หากคุณอยากจะดึงความสามารถสูงสุดของ Fade ออกมาให้ได้คุณจะต้องมีระเบียบวินัยและแนวทางในการเล่นที่ถูกต้อง และตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าได้เคลียร์มุมและระบุตำแหน่งของคู่ต่อสู้ นอกจากนี้ คุณต้องไม่เปิดมุมในตำแหน่งอันตรายในขณะที่คุณยังมีสกิลที่มีประโยชน์อยู่ ซึ่งความสามารถของคุณจะช่วยให้ทีมได้เปรียบอย่างมากในทุกๆสถานการณ์
สำหรับข้อมูลหรือข่าวเกี่ยวกับเอเจนท์ยังมีให้อ่านอีกมากมาย ซึ่งคุณสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ ONE Esports หรือแฟนเพจ ONE Esports