Riot Games กำลังทดสอบทักษะการใช้อาวุธของคุณด้วยโหมด Escalation ของ Valorant
โหมด Escalation จะให้ผู้เล่นต่อสู้กันแบบ 5v5 ซึ่งปืนจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆหลังจากสังหารได้ตามจำนวนที่กำหนด โดยโหมดนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างการสุ่มปืนในโหมด Spike Rush และการยิงที่รวดเร็วของ Deathmatch พร้อมการเกิดใหม่ไม่จำกัด
แฟนเกม FPS ที่รู้จักกันมานานอาจรู้จัก Escalation ในรูปแบบใหม่ในโหมดที่คล้ายกัน เช่น Gun Game ของ Call of Duty และ Arms Race ของ CS:GO อย่างไรก็ตาม Riot ได้สร้างความแตกต่างด้วยการเพิ่มการทำงานเป็นทีม และกลไกที่ปืนจะมีความอันตรายน้อยลงเรื่อยๆ
ต่อไปนี้จะเป็นเทคนิคการเล่น 3 ข้อที่จะช่วยให้คุณเป็นนักแม่นปืนที่ดีที่สุดใน Escalation
3 ข้อแนะนำที่จะช่วยพาคุณเก็บชัยชนะในโหมด Escalation ของ Valorant
สังเกตปืนอันดับต่อไปที่จะได้เล่น
ในแง่ของการดรอปอาวุธ Escalation จะคำนึงถึงการสุ่มเพื่อให้ทุกแมตช์ไม่ซ้ำกัน โดยเมื่อเริ่มเกม ทั้งสองทีมจะต้องใช้อาวุธที่สุ่มขึ้นมา 12 ชุด โดยเรียงจากอาวุธที่มีความอันตรายมากที่สุด(ส่วนมากจะเป็นปืนประเภทไรเฟิล) ไปจนถึงอันตรายน้อยที่สุด
แม้ว่าในตอนแรกมันอาจจะค่อนข้างสุ่ม แต่คุณสามารถทำให้ตัวเองได้เปรียบได้ด้วยการเฝ้าดูแถบความคืบหน้าของคุณและคู่ต่อสู้ที่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีชุดอาวุธที่สุ่มเหมือนกัน ดังนั้นหากคุณกำลังตามหลังหรือนำหน้าคู่ต่อสู้ คุณจะได้รับเบาะแสว่าคุณกำลังจะได้รับอาวุธไหน
นอกจากนี้ ต้องระวังความสามารถพิเศษและอาวุธที่ปรากฏขึ้นในด่านให้ดี โดยคุณอาจจะเจอกับฝูง Boom Bots, Showstoppers แบบไม่จำกัด หรือแม้แต่ Snowball Launchers ที่จะสร้างสงครามหิมะกลางสมรภูมิ Valorant
อย่าเล่นเหมือน Deathmatch
แม้จะมีเวลาเล่นเฉลี่ยแปดนาที แต่ Escalation จะกลายเป็นโหมดที่สนุกมากขึ้นเมื่อคุณเล่นช้าลง โดยตรงกันข้ามกับความโกลาหลของโหมด Deathmatch คุณจะเล่นในทีมที่มีผู้เล่น 5 คนในโหมดนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะเล่นตามแบบปกติ
มีโอกาสที่คุณจะพบคู่ต่อสู้สองคนขึ้นไปในแต่ละครั้ง แม้ว่าคุณจะสามารถฆ่าได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะตาย แต่คุณก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นเช่นกัน
และหากคุณกังวลเกี่ยวกับการเล่นเกมนานเกินไป Riot ได้จำกัดเวลาเล่นโหมด Escalation ไว้ที่ 10 นาที ซึ่งหมายความว่าคุณจะใช้เวลาไม่นานในการเล่นเพื่อเพลิดเพลินกับอาวุธแบบสุ่มนี้ เมื่อหมดเวลาสิบนาที ทีมที่เป็นผู้นำจะได้รับชัยชนะ
ใช้ประโยชน์จากกลไกการเล่นแบบทีม
เช่นเดียวกับ Deathmatch ผู้เล่นทุกคนจะเกิดใหม่ในจุดต่างๆทั่วทั้งแผนที่ จะเป็นการดีที่สุดถ้าคุณและทีมของคุณสามารถเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะเกิดบริเวณไหน
สำหรับความก้าวหน้าของปืน ทีมของคุณจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อช่วยกันสังหารศัตรูและเก็บเกี่ยวความคืบหน้าของปืนถัดไป ถ้าคุณสังหารในช่วงการอัพขั้นปืน ปืนของคุณจะเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆจะต้องถูกสังหารเพื่อเปลี่ยนไปใช้ปืนถัดไป
จำไว้ว่าคุณสามารถกอบโกยการสังหารได้อย่างง่ายดายด้วย Vandal แต่คุณอาจจะรู้สึกว่าพลังการยิงลดลงอย่างกะทันหันเมื่อคุณก้าวไปสู่อาวุธที่อันตรายน้อยกว่าอย่าง Guardian
สิ่งสำคัญคือคุณต้องติดตามความคืบหน้าของเพื่อนร่วมทีมด้วย คุณสามารถตรวจสอบกระดานคะแนนเพื่อดูว่ามีผู้เล่นคนใดที่มีเลเวลปืนตามหลังหรือไม่ ตัวอย่างเช่น มีเพื่อนร่วมทีมยังคงติดอยู่ที่ด่านแรกซึ่งเป็น Showstopper เนื่องจากเธอไม่ได้สังหาร
อย่างไรก็ตาม หากทั้งทีมของคุณสามารถแยกส่วนและผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้ ผู้เล่นที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังจะเปลี่ยนอาวุธเป็นระดับเดียวกับคนอื่นๆโดยอัตโนมัติ
โหมด Escalation นี้จะเน้นไปที่การทำงานร่วมกันเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ โดยเหล่าผู้เล่นจะได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่ ในขณะที่ยังได้เล่นตามยุทธวิธีปกติของ Valorant
อ่านเพิ่ม: Exclusive: แนวทางการเป็น IGL สุดตึง ตามแบบสไตล์ FNS