เจมส์ – ปัญญวัต ‘sushiboys’ ทรัพย์ศิริโรจน์ กำลังเจอจุดเปลี่ยนชีวิตที่ X10 สังกัดที่ทำให้เขาได้เป็นมืออาชีพ แต่หนทางที่รออยู่เต็มไปด้วยความผิดหวังที่กลับมาทำร้ายเขาจนเป็นแผลในใจที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันเสียที
เขาผ่านจุดนั้นมาได้อย่างไร ความผิดหวัง ความสำเร็จ และการต่อสู้ในแบบของ sushiboys เป็นอย่างไร ติดตามทั้งหมดได้จากคำบอกเล่าของเขาผ่าน ONE Esports
แจ้งเกิดวงการ Valorant
การย้ายมาร่วมทีม X10 เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของ เจมส์ เพราะทำให้เขาก้าวเข้าสู่นักกีฬาอีสปอร์ตอาชีพเต็มตัว สิ่งที่เขาภูมิใจที่สุดไม่ใช่เงินเดือน แต่เป็นตัวเขาเองที่พิสูจน์ให้คุณแม่เห็นว่า เขาสามารถหารายได้จากสิ่งที่ชอบได้จริง
…นับตั้งแต่วันแรกกับ X10 คุณแม่ของเขาก็ไม่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับการเล่นเกมของเขาอีกเลย
“เป้าหมายของ X10 ในตอนนั้น ทำอย่างไรก็ได้ต้องได้ไป Champions” เจมส์ เล่าย้อนถึงวันที่ย้ายเข้าสังกัด X10 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขา
“เราตั้งเป้าหมายสูง ทำให้ต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะทำยังไงถึงจะไปถึงจุดนั้นได้ เราต้องซ้อมหนักวันละ 8 ชั่วโมง พอแข่งตอนที่ยังไม่เป็น Official เราไม่แพ้ใครเลยก็รู้สึกว่าเราน่าจะไปถึง Champions ได้แน่”
ย้อนกลับไปในวันแรกกับ X10 สมาชิกในทีมต่างยังไม่เป็นที่รู้จักสำหรับวงการ Valorant แต่แชมป์แรกกับรายการ Official ของ Riot Games อย่าง VCT 2021: Thailand Stage 1 Challengers 1 ก็เป็นตัวจุดประกายที่ทำให้พวกเขาต่อยอดไปสู่ระดับ SEA และไต่ไปเป็นตัวแทนบนเวทีระดับ Masters ได้สำเร็จ
“ตอนแข่ง VCT 2021: Thailand Stage 1 Challengers 1 เราชนะ Foxy Araikordai ภาพมันยิ่งชัดขึ้นว่าเราสามารถเป็นอันดับท็อปของประเทศได้ พอยิ่งชนะไม่แพ้ใครภาพยิ่งชัดมีความสุขมากจนเราไปชนะใน VCT 2021: Stage 2 Masters – Reykjavík เลยคิดว่าอีกไม่ไกลแล้วที่เราจะไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้”
เจมส์ และสมาชิก X10 ออกเดินทางสู่ไอซ์แลนด์เพื่อร่วมแข่งขัน VCT 2021: Stage 2 Masters – Reykjavík ก่อนที่ต่อมาจะเป็นรายการแจ้งเกิดของพวกเขากับฝีมือที่ยอดเยี่ยม แต่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหนีไม่พ้นลีลาเปิดตัว และความกวนเวลาที่ถูกกล้องถ่ายทอดสดจับภาพที่ทำให้พวกเขาถูกพูดถึงในทุกๆ วันตลอดเวลาที่อยู่ไอซ์แลนด์
X10 ประเดิมผลงานไม่ดีเท่าไหร่ พวกเขาเปิดหัวแพ้ Team Vikings 0-2 ก่อนต่อมาจะเอาชนะ Crazy Raccoon 2-0 ทำให้ยังมีหวังเข้ารอบต่อไป น่าเสียดายที่หลังจากนั้นพวกเขาไปเจอทีมแกร่งอย่าง Fnatic แพ้ไป 0-2 ยุติเส้นทางเพียงรอบแบ่งสองของสายล่างเท่านั้น
“ตอนไปไอซ์แลนด์เป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของผม แม่ก็ไปส่งที่สนามบินเขาก็ยืนยิ้มเลย ผมไม่ได้กดดันที่ได้ไปครั้งนั้น แต่มันตื่นเต้นมากกว่า เพราะเป็นครั้งแรกกับการแข่งบนเวทีระดับโลก”
“ตอนแรกก็ปรับตัวไม่ทันเราแพ้ Team Vikings แต่ไปชนะ Crazy Raccoon ที่เราเคยซ้อมกับเขามาอยู่แล้ว ตัวผมไม่ได้หวังว่าจะได้แชมป์เลยนะ เพราะมันไกลเกินเอื้อม ยิ่งพอเราได้สัมผัสการซ้อมของยุโรปทำให้รู้เลยว่าโซนเรากับบ้านเขามันต่างกัน ขนาดทีมในโซนเขาที่ไม่ได้เข้ามาแข่งยังเก่งจนเราสู้ไม่ได้เลย“
แม้จะจบลงด้วยความผิดหวัง แต่ประสบการณ์ครั้งแรกบนเวทีระดับโลกทำให้ เจมส์ และ X10 เติบโตขึ้น พวกเขาได้เห็นการเล่นของทีมจากโซนอื่น อีกทั้งยังได้โอกาสซ้อมกับบรรดาทีมชั้นนำ โดยเฉพาะการซ้อมกับ Sentinels ที่เรียกว่าเป็นยุคทอง โดยในปีนั้นพวกเขาเป็นเจ้าของแชมป์ VCT 2021: Stage 2 Masters – Reykjavík ยิ่งทำให้ X10 ได้ประโยชน์จากการได้ซ้อมกับพวกเขาชนิดที่เปลี่ยนแปลงทีมจนกลายเป็นทีม Valorant แถวหน้าของไทยในเวลาต่อมา
“หลังจากซ้อมกันพี่ทีมน่าจะถาม Shazam ว่า ทำไมเราถึงแพ้ เขาเลยสอนมาว่า พวกเราโจ่งแจ้งกันเกินไปไม่เก็บข่าวเงียบ มันเป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่รู้มาก่อน ทำให้เรารู้ว่ามันมีเทคนิคการเล่นแบบนี้ด้วยนะ”
“หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มมีแนวคิดใหม่ๆ เข้ามา เหมือนเราบรรลุแล้วว่ายังมีวิธีเล่นแบบอื่นอยู่อีก ซึ่งเราก็นำเอามาใช้ในภายหลัง”
“เราคิดวิธีการเล่นของเราใหม่ เรามีลำดับการคิดในหัวมากยิ่งขึ้น พวกเราได้แนวคิดจากทีม CS:GO ทีมหนึ่งในยุคนั้นคือ Astralis ที่เขาใช้แนวคิดว่าเป็นกลุ่มเพื่อนมาทำทีมกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทำทุกอย่างด้วยกันมันจะสนิทรู้ใจมากขึ้น เราเข้าแคมป์ เราซ้อมด้วยกันวันละ 8 ชั่วโมง ทำให้เราน่าจะรู้ใจกันมากขึ้น”
จากแรงกระหายสู่ความผิดหวัง
X10 ใช้ประสบการณ์จากไอซ์แลนด์สร้างทีมจนแข็งแกร่ง แต่ในรายการถัดมาผลงานกับช็อกแฟนๆ เมื่อพลาดไปเล่น VCT 2021: Stage 3 Masters – Berlin เพราะตกตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่แต้มสะสมใน VCT 2021 – Circuit Point Standings ยังดีพอที่ทำให้ X10 การันตีไปเล่น VALORANT Champions 2021 ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ตามที่เจมส์ และทีมตั้งเป้าไว้
อย่างไรก็ตาม X10 เจอศึกหนักตั้งแต่แมตช์แรกของรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อต้องเจอกับ Team Envy ทีมดังจากโซน NA และผลการแข่งก็จบลงที่พวกเขาแพ้ไป 0-2 แต่ X10 ไม่ยกธงขาวง่ายๆ เมื่อพวกเขาคัมแบ็กกลับมาอีกครั้งหลังชนะ Keyd Stars 2-0 จนได้โคจรมาดวลกับ Team Envy อีกครั้ง ซึ่งเป็นศึกชี้ชะตาเข้ารอบของทั้งสองทีม
“ก่อนหน้านั้น Team Envy เป็นคู่ชิงกับ Gambit Esports ใน VCT 2021: Stage 3 Masters – Berlin ทำให้เรารู้สึกว่าทีมนี้จะเป็นทีมที่ได้ไป VALORANT Champions 2021 แน่นอน แต่พอไปเจอตอนแรกมีเสียขวัญในแมพสุดท้ายโดนนำ 9-3 แต่ราวปาฏิหาริย์ พี่ทีม ทำให้เก็บ ACE อีกอย่างต้องชมปั้นใน Round สุดท้าย เชื่อในสัญชาตญาณตัวเองเก็บ Round ไปได้”
“มีเสียงดูถูกตลอดว่าโซนบ้านเราไม่ได้เก่ง แต่เราก็ทำให้เขาเห็นว่าสามารถเอาชนะทีมจาก NA ได้ แต่มาเจอแชมป์ของเบอร์ลินอย่าง Gambit เราคิดไม่ทันเขา เพราะเราไปเลือกแมพที่เคยซ้อมกับเขาแล้วก็แพ้”
ชัยชนะเหนือ Team Envy เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับทีมจาก SEA แต่ความพ่ายแพ้ต่อ Gambit Esports ทำให้ เจมส์ และสมาชิกในทีมต่างรู้สึกผิดหวัง
ซ้ำร้ายหลังจบ VALORANT Champions 2021 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อทั้งหมดตัดสินใจแยกทางกับ X10 เพื่อย้ายไปหาสังกัดใหม่ลงเล่น เพราะพวกเขายังคงปักธงต้องการกลับไปเล่นใน VALORANT Champions 2022 แต่สมาชิกเหลือเพียง 4 คน เนื่องจาก Patiphan กลับไปลงแข่ง Overwatch League ที่ สหรัฐ อเมริกา กับ Los Angeles Gladiators
แผลในใจของ sushiboys
“ปี 2022 พวกเรา 4 คน (sushiboys,sScary, foxz, Crws) ยังคงตั้งเป้าหมายเหมือนเดิมว่าจะต้องได้ไปแข่ง Champions อีกครั้ง” sushiboys
เจมส์ และเพื่อน ได้สังกัดใหม่ไม่นานหลังแยกทางกับ X10 เมื่อเซ็นสัญญากับ XERXIA ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมน่าจับตามองทันที แน่นอนว่าการได้อดีตสมาชิก X10 ที่เคยไประดับโลกมาแล้ว ทำให้ XERXIA ถูกมองเป็นทีมเต็งทั้งในการแข่งชิงแชมป์ระดับประเทศรวมถึงศึกคัดเลือกตัวแทน SEA
แต่ทุกอย่างกลับผิดคาด เจมส์ และ XERXIA ได้ไปครบทุก Masters ทว่าตกตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งหากเทียบกับปี 2021 นับเป็นฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวัง และไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะตกรอบเร็วแบบนี้…
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนเรามีแรงกดดันจากสิ่งรอบข้างเยอะเลยทำผลงานออกมาได้ไม่ดี มันเหมือนเราไม่เป็นตัวเอง ไม่มั่นใจในตัวเองสูงทำให้เกิดภาพนั้นขึ้นมา”
“ความรู้สึกผมแย่ไปเลย ความมั่นใจหายไปหมด ยิ่งกดดันมากขึ้นก็ยิ่งมองตัวเองด้านลบ ทำให้ทุกอย่างดร็อปลงไป ยิ่งพอแข่งติดกันมันยิ่งกดทับเรากว่าจะรู้ตัวก็ช้าไปแล้ว แต่ผมพยายามหากำลังใจให้ตัวเองเยอะขึ้นคิดด้านบวกเยอะๆ จนกลับมาได้”
XERXIA ได้โควตาไปเล่น VALORANT Champions 2022 ตามที่ตั้งเป้าไว้ แต่เป็นอีกครั้งที่ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มรั้งบ๊วยในกลุ่ม C ด้วยผลงานที่ไม่ชนะใครเลยในรายการนั้น
ความผิดหวังไม่ได้จบแค่นั้น เมื่อต่อมา Riot Games ที่เปลี่ยนระบบการแข่งมาเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ลีก ที่จะมีเพียงไม่กี่ทีมได้สิทธิ์เป็นพาร์เนอร์ลงแข่งในลีกของแต่ละภูมิภาค ซึ่ง XERXIA ไม่ได้ถูกเลือกเป็นหนึ่งในนั้น ทำให้อนาคตของ เจมส์ เคว้งคว้างทันทีกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เพราะหากเขาไม่ได้ถูกทีมที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Riot Games ดึงไปร่วมทีม เขาจะหมดสิทธิ์ได้เล่นในลีกปีถัดไปทันที…
- Valorant: ความสามารถ ภูมิหลัง และวันเปิดตัวของเอเจนท์ทั้งหมด
- จากพื้นฐานสู่กลยุทธ์โดยโค้ช Voo : แข่ง Valorant ดูยังไง ?
Reunion ที่ Talon Esports
สถานการณ์ของ เจมส์ ไม่แตกต่างกับอดีตสมาชิก XERXIA คนอื่นๆ เพราะพวกเขาต่างไม่รู้อนาคตของตัวเอง อีกทั้งตอนนั้นยังไม่มีทีมไหนในไทยผ่านการคัดเลือกเป็นพาร์ทเนอร์ นอกเหนือจาก XERXIA บรรดาทีมชั้นนำในไทยทั้ง MiTH และ FULL SENSE ต่างก็พลาดโอกาสไปเล่นในลีกเช่นกัน
แต่หลังจากนั้น Talon Esports ประกาศข่าวดี เมื่อพวกเขาได้รับโควตาเป็นพาร์ทเนอร์กับ Riot Games และได้สิทธิ์ลงเล่น VCT Pacific 2023 ซึ่งไลน์อัพที่ประกาศออกมาก็สร้างความฮือฮาสะเทือนวงการ Valorant ไทย เพราะมี Patiphan กลับมาจาก Overwatch อีกครั้ง พร้อมด้วยสมาชิกที่ล้วนคุ้นตาอย่าง Crws, foxz และ เจมส์ บวกสองสมาชิกใหม่คือ garnetS กับ JitboyS
“ตอนนั้นใจผมยังไงก็อยากไปต่อ 100%” เจมส์ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเขาตอนยังไร้สังกัดที่ต้องการแข่ง Valorant ต่อไป แม้อนาคตข้างหน้ายังไม่มีความแน่นอน
“ถ้าในมุมที่เลวร้ายที่สุดคือไม่มีใครเลือกเราเข้าลีกก็คงไปทำทีมกับสังกัดอื่นในไทย แต่สุดท้ายพี่ๆ ที่เคยอยู่กับ XERXIA ชวนกันมาที่ Talon Esports แต่ผมยังไม่สบายใจ เพราะผมยังรู้สึกแย่อยู่ รู้ว่าต้องพิสูจน์ตัวเองพยายามให้มากขึ้น”
เจมส์ กับ Talon Esports ประเดิมรายการแรกคว้าอันดับ 2 รายการ Gwangju Esports Series: Asia ที่เกาหลีใต้ ถือเป็นทัวร์นาเมนต์เตรียมความพร้อมก่อนลุยเมเจอร์แรกของปีอย่าง VCT 2023: LOCK//IN São Paulo
แต่เป็นงานหนักพอสมควร เพราะผลงานการซ้อมย่ำแย่ แม้จะเคยร่วมงานกันมาแล้ว แต่การเริ่มต้นใหม่ก็ต้องใช้เวลา แม้ถึงวันที่ต้องเดินทางไปบราซิล เจมส์ ยังยอมรับว่าพวกเขาก็ยังไม่ได้อยู่ในความพร้อมที่ดีพอสำหรับประเดิมเมเจอร์แรกปี 2023
“ช่วงแรกที่ซ้อมเราไม่ชนะใครเลย สกอร์แย่มากทั้งทีมคิดหนักว่าทำอะไรพลาดตรงไหนผลงานถึงไม่ดี แต่มันก็เริ่มดีขึ้นจนก่อนบินไปบราซิล ปั้น(Patiphan) ต้องเข้ารับการรักษา แล้วสิ่งที่เราซ้อมมาทั้งหมดต้องรีเซ็ตใหม่”
“เรามีผู้เล่น 6 คน ต้องสลับกันลง มาตอนนั้นต้องมานั่งคิดกันใหม่เพื่อหาคนมาแทนตำแหน่งปั้น บอกตามตรงเราไม่ได้พร้อม เพราะเตรียมแผนไป 5 แมพ บางแมพเรายังซ้อมได้ไม่ดีพอด้วยซ้ำเช่น Lotus ที่เป็นแมพใหม่ แต่พี่ทีมบอกว่า เราขาดทีมเวิร์คกับแผนที่ยังไม่ดีก็จริง แต่เรายิงแม่นทุกคน เรามั่นใจในสกิลการยิงของทั้ง 5 คน ที่เป็นจุดเด่น นี่คือสิ่งที่เราเอาไปสู้กับเขา”
ความหวังครั้งใหม่ของ sushiboys
เจมส์ และทีมต้องใช้เวลาเดินทางจากประเทศไทยแบบมาราธอนยาวนานกว่า 30 ชั่วโมงไปบราซิล พวกเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ส่วนความพร้อมของแผนการเล่นก็ยังไม่เต็มร้อย แต่ผลงานที่เกิดขึ้นกลับผิดคาดชนิดที่ช่วยลบแผลใจจากความผิดหวังจากปีที่ผ่านมาได้น่าประทับใจ
Talon Esports เริ่มต้นด้วยชัยชนะเหนือทีมจากชาติเจ้าภาพ MIBR 2-0 ตามด้วยชนะ Evil Geniuses 2-0 ทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย เหลืออีกเพียงสองก้าว พวกเขาจะผ่านเข้าไปชิงแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตทันที
น่าเสียดายที่ เจมส์ และเพื่อนถูก DRX ดับฝันจากความพ่ายแพ้ 1-2 แต่นับเป็นเกมที่สู้ได้สุดสูสี และสมศักดิ์ศรี ไม่มีแฟนคลับคนไหนผิดหวังกับความพ่ายแพ้ของพวกเขาในครั้งนี้
“มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าเรามาแรงมาก ชนะได้ 2 ทีมจนไปเจอ DRX ที่เขาเบรกเกมที่สองของเรา ตอนนั้นความมั่นใจเราเกินร้อยที่จะเข้ารอบต่อไป”
“ทุกคนน่าจะคิดเหมือนกันว่า เรามีแววจะไปได้ไกลจากทีมที่ผ่านมาที่เราได้เจอเราสู้ได้หมด ทุกคนยิงแม่นมากน่าจะเป็นสายที่เราไปได้ไม่ยากแล้วก็เป็นไปตามที่เราคิดไว้”
“เกมที่แพ้ DRX ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องประสบการณ์ เราเข้าใจมากขึ้น แต่ทั้ง 6 คน ยังต้องใช้เวลา เราอยู่ด้วยกันต้องใช้เวลาให้มากขึ้นถึงจะเห็นผลว่า เรามีทีมเวิร์คที่ดี ซึ่งก็ต้องใช้ประสบการณ์เป็นส่วนใหญ่”
“เราเหนื่อยจากการเดินทางไกล กระทบเวลานอน เวลาโซนที่ต่างกัน ทุกอย่างส่งผลหมด ไม่เหมือนกับที่เราเคยใช้ชีวิตอยู่ แต่เราเล่นตามสไตล์ของเราเองทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดีก็เหมือนที่เห็นในแข่งพี่ทีมสู้ยิบตาเลย เรามั่นใจในสไตล์การเล่นของเรามาก”
แม้จะแพ้ DRX อย่างน่าเจ็บใจจากการเล่นที่สู้ได้สูสี แต่เป็นอีกครั้งที่ผลงานทะลุถึงรอบ 8 ทีมในเมเจอร์ใหญ่ช่วยจุดไฟให้ เจมส์ กลับมามีความหวังอีกครั้งในสิ่งที่เขาฝันมาตลอด ซึ่งมากกว่าการไป Champions นั่นคือภาพของตัวเองที่ได้ยืนชูถ้วยแชมป์สักครั้ง
“จนถึงตอนนี้ผมให้คะแนนตัวเองแค่ 6.5 ผมรู้สึกว่ายังทำได้ดีกว่านี้ ทั้งการยิง วิธีคิด การเล่นของผมยังไปได้อีก”
“ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า วันหนึ่งผมจะได้ถือถ้วยแชมป์สักครั้งในชีวิตรายการไหนก็ได้ ผมไม่รู้หรอกนะว่า มันจะรอไปอีกสักกี่ปี แต่ผมจะขอเข้าใกล้มันให้ได้มากที่สุด” เจมส์ ทิ้งท้าย
อ่านเพิ่ม: sushiboys EP.1: โปรไทยที่ไปเป็นหนุ่มโรงงานเพื่อเก็บเงินซื้อคอมพิวเตอร์แข่ง Valorant
