Valorant: ความสามารถ ภูมิหลัง และวันเปิดตัวของเอเจนท์ทั้งหมด

เกม FPS ชื่อดังของ Riot Games อย่าง Valorant มีตัวละครให้เลือกเล่นมากมาย โดยทุกคนมีภูมิหลังและความสามารถที่แตกต่างกัน

การมี Comp เอเจนท์ที่เหมาะสมจะทำให้ทีมมีข้อได้เปรียบทางยุทธวิธีที่สามารถใช้เอาชนะเกมและเลื่อนอันดับใน Valorant ได้

ในตอนเปิดตัว Valorant มีเอเจนท์ทั้งหมดเพียงแค่ 11 คนเท่านั้น โดยมี Brimstone, Jett, Phoenix, Sage และ Sova เป็น 5 ตัวละครหลักที่ผู้เล่นสามารถใช้งานได้ทันที ส่วนเอเจนท์อื่นจะต้องปลดล็อกเพื่อเล่น

และนี่คือรายชื่อเอเจนท์ Valorant ทั้งหมด รวมถึงชื่อจริง ตำแหน่ง ประเทศที่มา และแพตช์ที่เปิดตัวของพวกเขา

เอเจนท์ Valorant ทั้งหมด

Valorant มีเอเจนท์ทั้งหมดกี่คน

ปัจจุบัน Valorant มีเอเจนท์ทั้งหมด 21 คน โดยตามแผนเดิมของ Riot Games สำหรับ Valorant ทีมพัฒนาตั้งเป้าที่จะเปิดเอเจนท์ใหม่ทุกสองถึงสามเดือน อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาเกมได้ขยายตารางเวลาเพื่อพัฒนาเอเจนท์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น

Valorant เอเจนท์และความสามารถทั้งหมด

Astra

Astral Form (X) – เปิดใช้งาน (X) เพื่อเข้าสู่ Astral Form ที่คุณสามารถจัดวางดวงดาวกับอาวุธหลักของคุณ คุรสามารถเปิดใช้ดวงดาวอีกครั้งในภายหลังเพื่อแปลงพวกมันเป็น Nova Pulse, Nebula หรือ Gravity Well

Gravity Well (C) – จัดวางดวงดาวใน Astral Form (X) เปิดใช้งานดวงดาวเพื่อสร้าง Gravity Well ผู้เล่นที่อยู่ในบริเวณจะถูกดึงเข้าจุดศูนย์กลางก่อนที่มันจะระเบิด ส่งผลให้ผู้เล่นที่ติดอยู่ภายในได้รับสถานะเปราะบาง

Nova Pulse (Q) – จัดวางดวงดาวใน Astral Form (X) เปิดใช้งานดวงดาวเพื่อจุดชนวน Nova Pulse สกิล Nova Pulse จะชาร์จครู่หนึ่งก่อนที่จะทำงาน สร้างความเสียหายแก่ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้น

Nebula/Dissipate (E/F) – จัดวางดวงดาวใน Astral Form (X) เปิดใช้งานดวงดาวเพื่อแปลงมันเป็น Nebula (กลุ่มควัน) ใช้ (F) ไปที่ดวงดาวเพื่อกระจายมันออก ส่งคืนดาวเพื่อวางในตำแหน่งใหม่หลังจากดีเลย์ สลายเป็น Nebula ปลอมในเวลาสั้น ๆ ในตำแหน่งของดาวก่อนที่จะกลับมา

Cosmic Divide (X) – เมื่ออัลติเมตของเธอชาร์จแล้ว ใช้อาวุธเสริมใน Astral Form เพื่อเลือกตำแหน่งที่หนึ่ง แล้วใช้อาวุธหลักเพื่อเลือกตำแหน่งที่สอง จากนั้นก็สร้าง Cosmic Divide ที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อเชื่อมต่อทั้งสองจุด Cosmic Divide จะบล็อกกระสุนและลดทอนเสียงอย่างมาก

Breach

Aftershock (C) – ติดตั้ง Fusion Charge กดยิงเพื่อปล่อยระเบิดที่จะหน่วงเวลาในการยิงทะลุผ่านกำแพง ระเบิดจะสร้างดาเมจอันรุนแรงแก่ผู้เล่นที่อยู่ในพื้นที่นั้น

Flashpoint (Q) – ติดตั้ง Blinding Charge กดยิงเพื่อปล่อยระเบิดที่ทะลุผ่านกำแพงอย่างรวดเร็ว ระเบิดลำแสงจะบดบังวิสัยทัศน์ของผู้เล่นทุกคนที่มองลำแสง

Fault Lines (E) – ติดตั้ง Seismic Blast กดยิงค้างไว้เพื่อเพิ่มระยะทาง และปล่อยเพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือน ทำให้ผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่และในแนวของการสั่นสะเทือนอยู่ในอาการมึนงง

Rolling Thunder (X) – ติดตั้ง Seismic Charge กดยิงเพื่อปล่อยแรงสั่นสะเทือนที่เคลื่อนผ่านได้ทุกพื้นที่เป็นรูปกรวยขนาดใหญ่ แรงสั่นสะเทือนจะทำให้ทุกคนที่ติดอยู่มึนงงและสิ้นสติ

Brimstone

Stim Beacon (C) – ติดตั้ง Stim Beacon กดยิงเพื่อวาง Stim Beacon ไปยังเบื้องหน้าของ Brimstone เมื่อวางอยู่บนพื้น Stim Beacon จะเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงให้กับผู้เล่นในบริเวณนั้น

Incendiary (Q) – ติดตั้งเครื่องยิงระเบิดเพลิง กดยิงเพื่อปล่อยระเบิดที่จะระเบิดเมื่อตกสู่พื้น ก่อให้เกิดเปลวไฟที่จะสร้างความเสียหายกับผู้เล่นที่อยู่ในบริเวณนั้น

Sky Smoke (E) – ติดตั้งแผนที่ยุทธวิธี กดยิงเพื่อกำหนดตำแหน่งที่จะปล่อยหมอกควันของ Brimstone กดโหมดการยิงเสริมเพื่อยืนยันตำแหน่งและปล่อยหมอกควันที่จะบดบังวิสัยทัศน์ในพื้นที่ที่กำหนดไว้เป็นเวลานาน

Orbital Strike (X) – ติดตั้งแผนที่ยุทธวิธี กดยิงเพื่อปล่อยเลเซอร์ Orbital Strike ไปยังพื้นที่ที่กำหนด สร้างดาเมจที่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กับผู้เล่นที่อยู่ในพื้นที่นั้น

Chamber

Trademark (C) – วางกับดักที่จะทำการสแกนศัตรู เมื่อมีศัตรูที่มองเห็นได้เข้ามาในระยะ กับดักจะทำการนับถอยหลังแล้วจากนั้นจะทำให้พื้นที่รอบ ๆ เกิดความไม่เสถียร สร้างเป็นพื้นที่ที่จะสโลว์ผู้เล่นที่อยู่ในนั้น กับดักสามารถเก็บขึ้นมาได้เพื่อติดตั้งใหม่

Headhunter (Q) – ใช้งานเพื่อติดตั้งปืนพกหนัก ใช้ปุ่มยิงเสริมเมื่อติดตั้งปืนพกเพื่อเล็งผ่านลำกล้อง

Rendezvous (E) – วางจุดเทเลพอร์ตจุดหนึ่ง เมื่อยืนอยู่บนพื้นและอยู่ในระยะของจุดเทเลพอร์ต กดใช้อีกครั้งเพื่อเทเลพอร์ตอย่างรวดเร็วไปยังจุดเทเลพอร์ต จุดเทเลพอร์ตสามารถเก็บขึ้นมาได้เพื่อติดตั้งใหม่

Tour De Force (X) – กดใช้เพื่อเรียกใช้ปืนสไนเปอร์เฉพาะตัวแรงสูงซึ่งจะสังหารศัตรูโดยทันทีหากถูกยิงโดยตรง การสังหารศัตรูจะสร้างพื้นที่ที่จะสโลว์ผู้เล่นที่อยู่ในนั้นตรงจุดที่ศัตรูถูกสังหาร

Cypher

Trapwire (C) – ติดตั้ง Trapwire กดยิงเพื่อติดตั้งในตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่ง Tripwire นั้นสามารถถูกทำลายได้และอำพรางตัวเองได้ โดยจะสร้างเส้นตรงขึ้นมาระหว่างตำแหน่งที่ติดตั้งไว้กับกำแพงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ศัตรูที่ข้ามผ่าน Tripwire จะถูกหน่วงไว้ เปิดเผยตำแหน่ง และอยู่ในอาการมึนงงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หากทำลายกับดักไม่ทันเวลา อุปกรณ์นี้สามารถหยิบกลับมาและใช้ซ้ำได้

Cyber Cage (Q) – โยน Cyber Cage ไปยังเบื้องหน้าของ Cypher ทันที เปิดใช้งานเพื่อสร้างพื้นที่ที่จะบดบังวิสัยทัศน์และเริ่มเล่นเสียงแจ้งเตือนเมื่อศัตรูเดินผ่านมัน

Spycam (E) – ติดตั้ง Spycam กดยิงเพื่อติดตั้ง Spycam บนตำแหน่งที่ต้องการ กดใช้สกิลนี้อีกครั้งเพื่อเข้าควบคุมตัวกล้อง กดยิงในขณะที่ควบคุมกล้องเพื่อปล่อยลูกดอกระบุตำแหน่ง ลูกดอกจะเปิดเผยตำแหน่งของผู้เล่นที่ถูกยิงด้วยลูกดอกนี้

Neural Theft (X) – ใช้ร่างของศัตรูที่ถูกสังหารอยู่ในเบื้องหน้าของคุณเพื่อเปิดเผยตำแหน่งของศัตรูที่ยังมีชีวิตอยู่ทันที

Jett

Cloudburst (C) – โยนลูกบอลควันออกไปทันที โดยจะขยายตัวออกเป็นหมอกควันเพื่อบดบังวิสัยทัศน์เมื่อกระทบกับพื้นผิว กดปุ่มสกิลค้างไว้เพื่อโยนวิถีโค้งไปตามทิศทางเป้าเล็งของคุณ

Updraft (Q) – พัดพา Jett ให้ลอยขึ้นไปบนอากาศทันที 

Tailwind (E) – เปิดใช้งานเพื่อเตรียมเรียกพลังแห่งสายลมในช่วงเวลาหนึ่ง กดใช้อีกครั้งเพื่อให้ Jett ใช้สายลมพุ่งตัวไปในทิศทางการเคลื่อนที่ของเธอ หาก Jett ยืนอยู่กับที่ เธอจะพุ่งตัวไปข้างหน้า

Blade Storm (X) – ติดตั้งเซ็ตมีดบินสุดแม่นยำ ที่จะรีชาร์จเมื่อสังหารศัตรู กดยิงเพื่อขว้างมีดสั้นไปยังเป้าหมาย กดโหมดการยิงเสริมเพื่อขว้างมีดสั้นที่เหลือทั้งหมดไปยังเป้าหมาย

KAY/O

FRAG/MENT (C) – ติดตั้งเศษชิ้นส่วนระเบิด ยิงเพื่อปา เศษชิ้นส่วนจะติดกับพื้นและระเบิดหลายครั้งติดต่อกัน สร้างความเสียหายเกือบถึงตายในพื้นที่ศูนย์กลางหลังการระเบิดแต่ละครั้ง

FLASH/DRIVE (Q) – ติดตั้งระเบิดแฟลช ยิงเพื่อปา ระเบิดแฟลชจะระเบิดหลังจุดชนวนสั้น ๆ ทำให้ผู้เล่นทุกคนที่มองดูสูญเสียการมองเห็น

ZERO/POINT (E) – ติดตั้งใบมีดยับยั้งพลัง ยิงเพื่อปา ใบมีดจะติดกับพื้นผิวแรกที่โดน ชาร์จสักครู่ แล้วยับยั้งพลังของทุกคนที่อยู่ในรัศมีระเบิด

NULL/CMD (X) – โอเวอร์โหลดทันทีด้วยพลังงาน Radianite เปลี่ยนขั้วที่จะเสริมพลัง KAY/O และปล่อยคลื่นพลังงานขนาดใหญ่จากพื้นที่ของเขา ศัตรูที่โดนคลื่นเหล่านี้จะถูกยับยั้งพลังเป็นระยะเวลาสั้น ๆ

Killjoy

Nanoswarm (C) – ติดตั้งระเบิด Nanoswarm ยิงเพื่อปาระเบิด เมื่อถึงพื้น Nanoswarm จะซ่อนตัวทันที เปิดใช้งาน Nanoswarm เพื่อปล่อยฝูง Nanobots ออกไปสร้างความเสียหาย

Alarmbot (Q) – ติดตั้ง Alarmbot ลับ ยิงเพื่อปล่อยบอทที่จะไล่ล่าศัตรูที่อยู่ในรัศมี เมื่อไปถึงเป้าหมายของมันแล้ว บอทจะระเบิดเพื่อสร้างความเสียหายและทำให้ติดสถานะเปราะบาง กดปุ่มติดตั้งค้างไว้เพื่อเรียกบอทที่ถูกส่งออกไปกลับมา

Turret (E) – ติดตั้ง Turret ยิงเพื่อปล่อยป้อมปืนที่จะยิงศัตรูในรูปกรวย 180 องศา กดปุ่มติดตั้งค้างไว้เพื่อเรียกป้อมปืนที่ถูกส่งออกไปกลับมา

Lockdown (X) – ติดตั้งอุปกรณ์กักขัง ยิงเพื่อปล่อยอุปกรณ์ หลังจากทิ้งไว้เป็นเวลานาน อุปกรณ์จะกักขังศัตรูทุกตัวที่อยู่ในรัศมี ศัตรูสามารถทำลายอุปกรณ์ได้

Omen

Shrouded Step (C) – ติดตั้งสกิล Shrouded Step และดูตัวบอกระยะ กดยิงเพื่อทำการร่ายสั้น ๆ จากนั้นเทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้ ศัตรูสามารถได้ยินเสียงจากตำแหน่งที่ออกเดินทางเท่านั้น

Paranoia (Q) – ติดตั้ง Blinding Orb ยิงเพื่อโยนไป จะทำให้หูหนวกและลดช่วงวิสัยทัศน์ของผู้เล่นทุกคนที่สัมผัสกับมันเป็นเวลาสั้น ๆ ลูกกระสุนนี้สามารถทะลุผ่านกำแพง

Dark Cover (E) – ติดตั้ง Shadow Orb และดูตัวบอกระยะผ่านกำแพง กดใข้สกิลเพื่อโยน Shadow Orb ไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้เพื่อสร้างโดมเงาดำที่จะบดบังวิสัยทัศน์เป็นเวลานาน กดยิงค้างไว้ในขณะกำหนดเป้าหมายเพื่อขยับเป้าหมายให้ไกลออกไป กดยิงเสริมค้างไว้ในขณะกำหนดเป้าหมายเพื่อขยับเป้าหมายให้ใกล้เข้ามา กดรีโหลดเพื่อสลับเป็นมุมมองการกำหนดเป้าหมายปกติ

From the Shadows (X) – ติดตั้งแผนที่ยุทธวิธี กดยิงเพื่อเริ่มทำการเทเลพอร์ตไปยังตำแหน่งที่กำหนดไว้ ระหว่างการเทเลพอร์ต Omen จะปรากฏตัวเป็นร่างเงาที่สามารถถูกศัตรูทำลายได้ เพื่อหยุดยั้งการเทเลพอร์ต หรือ Omen สามารถกดติดตั้ง เพื่อยกเลิกการเทเลพอร์ต

Phoenix

Blaze (C) – ติดตั้งกำแพงไฟ กดยิงเพื่อสร้างเส้นทางของไฟไปยังด้านหน้า ทำให้เกิดกำแพงไฟที่จะบดบังวิสัยทัศน์และสร้างดาเมจแก่ศัตรูที่เดินผ่าน กดยิงค้างไว้เพื่อโค้งกำแพงตามทิศทางเป้าเล็งของคุณ

Curveball (Q) – ติดตั้ง Flare Orb ที่จะวิ่งเป็นเส้นโค้งและระเบิดหลังจากขว้างออกไปไม่นาน กดยิงเพื่อปล่อย Flare Orb โค้งไปทางซ้าย ระเบิดและทำให้ผู้เล่นที่เห็นออร์บนั้นสูญเสียการมองเห็น กดโหมดการยิงเสริมเพื่อปล่อย Flare Orb โค้งไปทางขวา

Hot Hands (E) – ติดตั้งลูกบอลเพลิง กดยิงเพื่อขว้างลูกบอลเพลิงที่จะระเบิดหลังจากระยะเวลาที่กำหนดหรือเมื่อกระทบกับพื้น ทำให้เกิดบริเวณที่มีเพลิงไหม้ซึ่งจะสร้างดาเมจแก่ศัตรู

Run it Back (X) – ทำเครื่องหมายลงบนตำแหน่งของ Phoenix ในทันที การถูกสังหารหรือหมดเวลาขณะที่สกิลนี้ถูกใช้งานอยู่จะทำให้สกิลนี้สิ้นสุดลง และนำ Phoenix กลับสู่ตำแหน่งเดิมด้วยพลังชีวิตที่สมบูรณ์

Raze

Boom Bot (C) – ติดตั้ง Boom Bot กดยิงเพื่อปล่อยบอทให้วิ่งไปบนพื้นเป็นเส้นตรงและจะกระดอนออกมาเมื่อชนกำแพง Boom Bot จะล็อกเป้าหมายบนศัตรูที่ตรวจพบและไล่ติดตามไป โดยจะทำการระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อไปถึงศัตรู

Blast Pack (Q) – โยน Blast Pack ที่จะยึดติดกับพื้นผิวทันที กดใช้งานสกิลอีกครั้งหลังจากปล่อยออกไปเพื่อจุดชนวนระเบิดที่จะสร้างดาเมจและผลักทุกสิ่งที่ถูกกระทบออกไป

Paint Shells (E) – ติดตั้งระเบิดมือ กดยิงเพื่อโยนระเบิดมือออกไป การจุดชนวนจะสร้างดาเมจและทำให้เกิดระเบิดลูกย่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งแต่ละลูกก็จะสร้างดาเมจกับทุกคนที่อยู่ในรัศมีของมัน

Showstopper (X) – ติดตั้งเครื่องยิงจรวด กดยิงเพื่อปล่อยจรวดที่จะสร้างดาเมจในวงกว้างเมื่อกระทบกับสิ่งใดๆ

Reyna

Leer (C) – ติดตั้งดวงตา เพื่อทำลายการมองเห็น เปิดใช้งานเพื่อฟื้นฟูความสามารถในการมองเห็นเป็นระยะทางสั้นๆข้างหน้า ศัตรูที่มองมันจะมองเห็นเป็นระยะทางสั้น ๆ เท่านั้น

Devour (Q) – “Soul Harvest: ศัตรูที่ถูกสังหารด้วย Reyna จะทิ้ง Soul Orb ที่สามารถคงอยู่เป็นเวลา 3 วินาที Devour: ใช้ Soul Orb ที่อยู่ใกล้เคียงในทันที เพื่อทำการฮีลอย่างรวดเร็วเป็นระยะเวลาสั้น ๆ พลังชีวิตที่ได้รับจากสกิลนี้ที่เกิน 100 หน่วยจะสลายตัวลงตามระยะเวลา หากสกิล EMPRESS ทำงานอยู่ สกิลนี้จะถูกร่ายโดยอัตโนมัติ และไม่ต้องใช้ Soul Orb”

Dismiss (E) – ใช้ Soul Orb ที่อยู่ใกล้เคียงในทันที ทำให้ไร้ตัวตนเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หากสกิล EMPRESS ทำงานอยู่ จะทำให้ล่องหนด้วย

Empress (X) – เข้าสู่สถานะบ้าคลั่งในทันที ซึ่งจะเพิ่มความเร็วในการยิง การติดตั้งอุปกรณ์ และการรีโหลดอย่างมาก รับการชาร์จไม่จำกัดของสกิล Soul Harvest การสังหารจะทำให้เริ่มนับระยะเวลาใหม่อีกครั้ง

Sage

Barrier Orb (C) – ติดตั้ง Barrier Orb กดยิงเพื่อร่ายกำแพงสุดแข็งแกร่ง กดโหมดการยิงเสริมเพื่อหมุน

Slow Orb (Q) – ติดตั้ง Healing Orb กดยิงและใช้เป้าเล็งของคุณชี้ไปยังพันธมิตรที่บาดเจ็บเพื่อฮีลพวกเขาเป็นระยะเวลาหนึ่ง กดโหมดการยิงเสริมขณะที่ Sage ได้รับบาดเจ็บ เพื่อฮีลตนเองเป็นระยะเวลาหนึ่ง

Healing Orb (E) – ติดตั้ง Healing Orb กดยิงและใช้เป้าเล็งของคุณชี้ไปยังพันธมิตรที่บาดเจ็บเพื่อฮีลพวกเขาเป็นระยะเวลาหนึ่ง กดโหมดการยิงเสริมขณะที่ Sage ได้รับบาดเจ็บ เพื่อฮีลตนเองเป็นระยะเวลาหนึ่ง

Resurrection (X) – ติดตั้งสกิล Resurrection กดยิงและใช้เป้าเล็งของคุณชี้ไปที่ร่างของพันธมิตรที่เสียชีวิตเพื่อชุบชีวิตพวกเขาให้ฟื้นกลับมามีพลังชีวิตที่สมบูรณ์ภายในระยะเวลาสั้นๆ

Skye

Regrowth (C) – ติดตั้งเครื่องประดับฮีล กดยิงค้างไว้เพื่อร่าย ฮีลพันธมิตรในระยะและรัศมีการมองเห็น สามารถใช้ซ้ำได้จนกว่าการฮีลของเธอจะหมดลง Skye ไม่สามารถฮีลตนเองได้

Trailblazer (Q) – ติดตั้งเครื่องประดับเสือแทสเมเนียน ยิงเพื่อปล่อยนักล่าออกไปข้างหน้าและควบคุมมัน เมื่ออยู่ในการควบคุม ยิงเพื่อกระโจนไปข้างหน้า ระเบิดด้วยการสั่นสะเทือนและสร้างความเสียหายต่อศัตรูโดยตรง

Guiding Light (E) – ติดตั้งเครื่องประดับเหยี่ยว ยิงเพื่อปล่อยมันออกไปข้างหน้า กดยิงค้างไว้เพื่อนำทางเหยี่ยวที่อยู่ในรัศมีเป้าเล็งของคุณ ใช้งานอีกครั้งในขณะที่เหยี่ยวยังคงบินอยู่เพื่อแปลงร่างมันเป็นแฟลชที่จะส่งเสียงเมื่อยิงโดนศัตรู หากศัตรูอยู่ในระยะการโจมตีและรัศมีการมองเห็น

Seekers (X) – ติดตั้งเครื่องประดับ Seeker ยิงเพื่อส่ง Seeker ออกไปสามตัวและล่าตำแหน่งของศัตรูสามคนที่อยู่ใกล้ที่สุด หาก Seeker พบเป้าหมาย มันจะทำให้ศัตรูมองเห็นเพียงแค่ในระยะประชิดทันที

Sova

Owl Drone (C) – ติดตั้ง Owl Drone กดยิงเพื่อปล่อยโดรนออกไปและควบคุมการเคลื่อนไหวของมัน กดยิงในขณะที่ควบคุมโดรนเพื่อยิงลูกดอกระบุตำแหน่งซึ่งจะเปิดเผยตำแหน่งของผู้เล่นที่ถูกยิง

Shock Bolt (Q) – ติดตั้งธนูด้วย Shock Bolt กดยิงเพื่อปล่อยลูกธนูระเบิดสายฟ้าไปข้างหน้า ซึ่งจะระเบิดเมื่อปะทะและสร้างดาเมจแก่ผู้เล่นใกล้เคียง กดยิงค้างไว้เพื่อเพิ่มระยะการยิง กดโหมดการยิงเสริมเพื่อเพิ่มจำนวนการเด้งของลูกธนูได้ถึงสองครั้ง

Recon Bolt (E) – ติดตั้งธนูด้วย Recon Bolt กดยิงเพื่อปล่อยลูกธนู Recon Bolt ไปข้างหน้า ซึ่งจะทำงานเมื่อปะทะและเปิดเผยตำแหน่งของศัตรูใกล้เคียงที่อยู่ในรัศมีการมองเห็นของลูกธนู ศัตรูสามารถทำลายลูกธนูนี้ได้ กดยิงค้างไว้เพื่อเพิ่มระยะการยิง กดโหมดการยิงเสริมเพื่อเพิ่มจำนวนการเด้งของลูกธนูได้ถึงสองครั้ง

Hunter’s Fury (X) – ติดตั้งธนูด้วยระเบิดพลังงานสูงสามนัดที่สามารถยิงได้ไกลและทะลุกำแพงได้ กดยิงเพื่อปล่อยระเบิดพลังงานไปยังเบื้องหน้าของ Sova สร้างดาเมจและเปิดเผยตำแหน่งของศัตรูที่อยู่ในแนวการยิง สกิลนี้สามารถใช้ซ้ำได้อีกสองครั้งขณะที่ยังอยู่ในระยะเวลาที่กำหนด

Viper

Snake Bite (C) – ติดตั้งเครื่องยิงสารเคมี ยิงเพื่อปล่อยกระป๋องที่จะระเบิดเมื่อตกถึงพื้น ก่อให้เกิดพื้นที่เขตเคมีที่สร้างดาเมจให้กับศัตรู

Poison Cloud (Q) – ติดตั้งระเบิดประจุควัน กดยิงเพื่อขว้างระเบิดที่จะคงอยู่ตลอดจนจบเกมออกไป กดใช้สกิลอีกครั้งเพื่อสร้างหมอกควันพิษด้วยเชื้อเพลิงที่มีอยู่ สกิลนี้สามารถใช้ซ้ำได้และสามารถหยิบระเบิดกลับขึ้นมาเพื่อใช้งานอีกครั้ง

Toxic Screen (E) – ติดตั้งเครื่องปล่อยอุปกรณ์ประจุควัน กดยิงเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ประจุควันเป็นแนวยาว กดใช้งานอีกครั้งเพื่อสร้างกำแพงควันพิษด้วยเชื้อเพลิงที่มีอยู่ สกิลนี้สามารถใช้ซ้ำได้มากกว่าหนึ่งครั้ง

Viper’s Pit (X) – ติดตั้งเครื่องพ่นควันเคมี กดยิงเพื่อพ่นหมอกควันเคมีออกไปทุกทิศทางรอบ ๆ Viper สร้างกลุ่มหมอกควันขนาดใหญ่ซึ่งจะลดระยะการมองเห็นและค่าพลังชีวิตสูงสุดของผู้เล่นที่ติดอยู่ภายใน

Yoru

Fakeout (C) – ติดตั้งเสียงสะท้อนที่เปลี่ยนรูปร่างเป็นเสมือนของ Yoru เมื่อเปิดใช้งาน ยิงเพื่อเปิดใช้งานภาพเสมือนโดยทันทีและส่งมันออกไปข้างหน้า กดโหมดยิงเสริมเพื่อวางเสียงสะท้อนลง กดใช้เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของเสียงสะท้อนที่ยังไม่เปิดใช้งานให้เป็นภาพเสมือนและส่งออกไปข้างหน้า ภาพเสมือนจะระเบิดออกด้วยแฟลชที่จะบดบังวิสัยทัศน์เมื่อถูกศัตรูทำลาย

Blindside (Q) – ติดตั้งเพื่อฉีกชิ้นส่วนห้วงมิติที่ไม่เสถียรออกจากความเป็นจริง ยิงเพื่อปาชิ้นส่วนออกไป ทำให้เกิดแสงสว่างวาบหลังจากกระทบกับพื้นผิวชั่วครู่

Gatecrash (E) – ติดตั้งโซ่ริฟท์ ยิงเพื่อปล่อยโซ่ให้พุ่งไปข้างหน้า กดโหมดยิงเสริมเพื่อวางโซ่ลง กดเปิดใช้งานเพื่อเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งของโซ่ กดใช้เพื่อเทเลพอร์ตหลอก

Dimensional Drift (X) – ติดตั้งหน้ากากที่ช่วยให้มองเห็นมิติต่าง ๆ ยิงเพื่อเข้าไปยังมิติของ Yoru ทำให้ศัตรูที่อยู่ภายนอกไม่สามารถมองเห็นหรือโจมตีเขาได้

Neon

Fast Lane (C) – กดยิงเพื่อปล่อยเส้นพลังงานสองเส้นไปตามพื้น ซึ่งจะยืดไปเป็นระยะทางสั้น ๆ หรือจนกว่ามันจะไปโดนพื้นผิวใด ๆ เส้นพลังงานดังกล่าวจะพุ่งขึ้นมาเป็นกำแพงไฟฟ้าสถิตที่บดบังการมองเห็นและสร้างความเสียหายให้ศัตรูที่เดินผ่าน

Relay Bolt (Q) – ยิงคลื่นพลังงานทันที มันสามารถชิ่งได้หนึ่งครั้ง เมื่อกระทบพื้นผิวแต่ละครั้ง ลูกดอกจะสร้างกระแสไฟฟ้าช็อตพื้นดินเบื้องล่าง ก่อให้เกิดแรงสะเทือน

High Gear (E) – ใช้พลังของ Neon เพื่อเพิ่มความเร็วทันที เมื่อมีชาร์จพอ จะสามารถกดยิงเสริมเพื่อสไลด์ด้วยพลังงานไฟฟ้า ชาร์จสำหรับการสไลด์จะถูกรีเซ็ตทุก ๆ การสังหารสองครั้ง

Overdrive (X) – ปลดปล่อยพลังของ Neon ถึงขีดจำกัดสูงสุด เพิ่มความรุนแรงและความเร็วของเธอเป็นระยะเวลาสั้น ๆ กดยิงเพื่อรวมพลังงานเป็นลำแสงสายฟ้าที่มีความแม่นยำสูง ระยะเวลาของมันจะถูกรีเซ็ตเมื่อสังหารศัตรูได้

Fade

Prowler (C) – ติดตั้ง Prowler ยิงเพื่อปล่อย Prowler ออกไปเป็นเส้นตรง Prowler จะทำการล็อกเป้าหมายศัตรูหรือร่องรอยระยะการมองเห็นรูปกรวยด้านหน้าของพวกเขาและทำการไล่ล่า พร้อมทั้งจำกัดการมองเห็นของพวกเขาเมื่อถึงตัว กดปุ่มยิงค้างไว้เพื่อเบี่ยงทิศทางของ Prowler ไปตามเป้าเล็งของคุณ

Seize (Q) – ติดตั้ง Orb ที่บรรจุหมึกแห่งฝันร้าย ยิงเพื่อปล่อย Orb ที่จะตกลงบนพื้น หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อตกกระทบพื้น หมึกจะระเบิดออกและสร้าง พื้นที่ที่ศัตรูในระยะจะไม่สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ด้วยวิธีปกติ กดใช้สกิลอีกครั้งเพื่อปล่อย Orb ที่ลอยอยู่กลางอากาศให้ร่วงลงบนพื้นก่อนเวลาที่กำหนด

Haunt (E) – ติดตั้งตัวตนแห่งฝันร้าย ยิงเพื่อปล่อย Orb ที่จะตกลง บนพื้นหลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อตกกระทบพื้น Orb จะกลายเป็น ตัวตนแห่งฝันร้ายที่จะเปิดเผยตำแหน่งของเหล่าศัตรูที่อยู่ภายในระยะ การมองเห็น ศัตรูจะสามารถทำลายตัวตนแห่งฝันร้ายนี้ได้ กดใช้สกิลอีกครั้งเพื่อปล่อย Orb ที่ลอยอยู่กลางอากาศให้ร่วงลงบนพื้น ก่อนเวลาที่กำหนด

Nightfall (X) – ติดตั้งพลังแห่งความหวาดกลัว ยิงเพื่อปล่อยคลื่นพลังงานแห่งฝันร้ายที่จะสามารถ แผ่ขยายผ่านกำแพงได้ หากคลื่นพลังโดนศัตรู มันจะสร้างร่องรอยของศัตรูทิ้งไว้พร้อมกับจำกัดการได้ยิน และทำให้เสื่อมสลาย

Harbor

Cascade (C) – ติดตั้งคลื่นสายน้ำ กดยิงเพื่อปล่อยคลื่นน้ำไปข้างหน้าทะลุผ่านกำแพง กดใช้อีกครั้งเพื่อหยุดคลื่นน้ำไว้ ผู้เล่นที่โดนสกิลจะเคลื่อนที่ช้าลง

Cove (Q) – ติดตั้งลูกบอลสายน้ำแห่งการปกปักษ์ กดยิงเพื่อปา กดโหมดยิงเสริมเพื่อโยนออกไป เมื่อกระทบกับพื้น มันจะสร้างโล่สายน้ำป้องกันกระสุนที่สามารถทำลายได้ขึ้นมา

High Tide (E) – ติดตั้งกำแพงสายน้ำ กดยิงเพื่อปล่อยสายน้ำออกไปข้างหน้าไปตามพื้น กดยิงค้างไว้เพื่อนำทางสายน้ำไปตามทิศทางเป้าเล็งของคุณ ตัดผ่านทะลุไป พร้อมสร้างกำแพงขึ้นมาตามเส้นทางของสายน้ำ กดโหมดยิงเสริมในตอนที่เบี่ยงสายน้ำเพื่อหยุดมันก่อนเวลาที่กำหนด ผู้เล่นที่โดนสกิลจะเคลื่อนที่ช้าลง

Reckoning (X) – ติดตั้งพลังของวัตถุโบราณอย่างเต็มรูปแบบ กดยิงเพื่อสร้างบ่อน้ำพุร้อนขึ้นมาบนพื้น ผู้เล่นฝ่ายศัตรูที่อยู่ในพื้นที่จะตกเป็นเป้าหมายของกระแสน้ำรุนแรงต่อเนื่อง ผู้เล่นที่โดนสกิลนี้จะถูกทำให้ติดสถานะกระทบกระเทือน

Gekko

Dizzy (E) – แฟลชที่จะบดบังวิสัยทัศน์ของศัตรู และจะมีความพิเศษตรงที่ต่อให้หันหน้าหลบ ก็ไม่สามารถหลบได้เหมือนสกิลแฟลชอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สกิลจะเคลื่อนที่ได้ค่อนข้างช้า

Wingman (Q) – ความสามารถหลักคือการตรวจหาศัตรูและสตันศัตรูตัวแรกที่เจอ แต่ก็สามารถหลบได้ในจังหวะที่กำลังจะสตัน และยังมีความสามารถในการกู้และวาง Spike แทนผู้เล่นได้อีกด้วย โดยจะใช้เวลาวางและกู้เท่ากับผู้เล่น

Mosh Pit (C) – จะเป็นสกิลที่เป็นระเบิดวงกว้าง หลังจากผ่านไป 3 วิ สกิลจะทำดาเมจ 150 แก่ศัตรูที่อยู่บริเวณตรงกลาง(สังหารทันที) และจะลดเหลือ 130 ดาเมจในบริเวณขอบ

Thrash (X)  – สกิล Thash จะให้ผู้เล่นได้ควบคุมสัตว์ (คล้ายกับ TRAILBLAZER ของ Skye) และเมื่อเจอศัตรู มันจะพุ่งใส่ศัตรูและระเบิดออก สร้างสถานะถูกกักขัง (เหมือนอัลติเมต Lockdown ของ Killjoy) 

โดยสกิลทุกสกิลของ Gekko สามารถยิงเพื่อทำลายได้ และจะกลายเป็นลูกกลมหลังจากใช้งาน และจะอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะสลายตัวไป หาก Gekko เก็บได้ทัน ก็จะสามารถใช้สกิลได้อีกหลังจากคูลดาวน์ 10 วินาที

Valorant วิธีปลดล็อกเอเจนท์

เอเจนท์ Valorant ทุกตัวจะมีสัญญาของพวกเขาที่ผู้เล่นจะต้องกดดำเนินการเพื่อปลดล็อกตัวละครนั้นๆ พร้อมกับไอเท็มในเกมเพิ่มเติม

• ไปที่เมนูของเกม และเลือกหน้า ’Agent’ 
• เลือกเอเจนท์ที่พวกคุณต้องการจะปลดล็อก
• กด ‘เปิดใช้งาน’
• เล่นเพื่อรับแต้มประสบการณ์สำหรับการปลดล็อกเอเจนท์

อ่านเพิ่ม: Gekko Valorant: สกิลทำอะไรได้บ้าง?