Buriram United Esports ได้จารึกหน้าประวัติศาสตร์โดยการเป็นตัวแทนจากไทยเพียงหนึ่งเดียว ที่คว้าโควตา Icons Global Championship 2022 การแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกของวงการ Wild Rift ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้
โดยรายชื่อผู้เล่นของ Buriram United Esports ที่จะไปลุยศึกชิงแชมป์โลกครั้งนี้จะประกอบไปด้วยผู้เล่นหลักของทีมอย่าง Noel, Shiba, Archeny, Bank, Whatthejess และ Coldenfeet รวมถึง VVV ผู้เล่น Stand-in จากทีม Invate Esports ที่เข้าร่วมทีมในการแข่งขัน Champions Southeast Asia 2022 ที่ผ่านมา
ซึ่งทาง ONE Esports ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนึ่งในผู้เล่นของทีมอย่าง เมธิส ”Noel” วงศ์ชูศรี และวันนี้เราจะมาดูกันว่าก่อนที่พวกเขาจะคว้าโควตาชิงแชมป์โลกสำเร็จ ผู้เล่นชุดนี้มีความเป็นมาอย่างไร และผ่านอะไรมาบ้าง
จุดเริ่มต้นของ Buriram Wild Rift
Noel เล่าว่า Buriram United Esports มีเป้าหมายที่จะคว้าแชมป์ระดับประเทศ และได้เป็นตัวแทนไปแข่งในระดับนานาชาติ แต่เนื่องด้วยไลน์อัพและฟอร์มการเล่นของทีมอาจจะยังไม่ดีพอ ทำให้พวกเขาตัดสินใจเสริมผู้เล่น ที่พวกเขาคิดว่ามีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศเข้าสู่ทีม
“เป้าหมายของพวกเราหลักๆเลยคือต้องการคว้าแชมป์ในรายการทัวร์ประเทศ แล้วก็ได้เป็นตัวแทนไปแข่งในรายการระดับนานาชาติสม่ำเสมอครับ ก็เลยทำให้เวลาที่ผลงานของพวกเราเนี่ยไม่ดีพอ หรือว่า Performance ไม่ได้เป็นไปตามที่เราตั้งไว้ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นบ้าง แล้วก็ไลน์อัพที่เราได้เสริมทัพเข้ามาในซีซันนี้ก็เป็นเพลย์เยอร์ที่มีความสามารถสูงที่สุดในประเทศครับ ก็เลยได้ดึงมาครับ”
โดยพวกเขาได้ปรับทัพโดยการปล่อย 2 ผู้เล่นหลักของทีมอย่าง Supporter และ Kinemon ออกจากทีม พร้อมกับคว้า 2 ผู้เล่นมากฝีมืออย่าง Whatthejess และ Coldenfeet และผู้เล่นหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง Bank
ซึ่ง Whatthejess และ Coldenfeet เป็นผู้เล่นที่รู้จักกับ Noel มาตั้งแต่ยุค League of Legends เวอร์ชัน PC แล้ว ทำให้การสามารถปรับตัวเข้ากันได้ง่าย แต่สำหรับ Bank ที่เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ของวงการ อาจจะต้องใช้เวลา แต่ด้วยการที่ Bank นั้นขยันและมีไฟในการซ้อม ทำให้สุดท้ายก็สามารถเป็นตัวหลักของทีมสำเร็จ
“Coldenfeet กับ Whatthejes เนี่ยเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์อยู่แล้วนะครับ แล้วพวกผมก็เคยร่วมงานกันมาก่อนในเกมก่อนหน้านี้ League of Legends PC แล้วพอมานี้ ตอนแรกก็อยู่กันคนละทีม แล้วพอได้มีโอกาสร่วมงานกันอีกครั้งก็ดีครับ คุยกันง่าย ประสบการณ์เยอะทั้งคู่ครับ”
“มีแค่ตัวน้อง Bank ที่เป็นหน้าใหม่เนอะ แต่ว่าไฟแรงมากครับ ขยันมาก ก็เลยลองให้โอกาสน้องดูครับ แล้วน้องก็ทำได้จริงๆ”
แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่มาจากต่างที่กัน ทำให้ความคิดและจังหวะในการเล่นนั้นมีความต่างกัน ซึ่งส่งผลให้ทีมต้องเจอกับปัญหาการเล่นด้วยกันบ้างในช่วงแรกๆ
แต่พวกเขาก็พยายามจะพูดคุยแบ่งปันความรู้และสไตล์การเล่น พร้อมกับพยายามซ้อมด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยใช้เวลาซ้อมด้วยกันถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน และซ้อมทั้งหมด 6 วันต่อสัปดาห์ ไม่รวมการซ้อมส่วนตัว จนท้ายที่สุด ผู้เล่นทุกคนก็ค่อยๆปรับตัวได้
นอกจากนี้ ด้วยการที่ผู้เล่นในทีมส่วนใหญ่ประสบการณ์สูง ทำให้การปรับตัวง่ายขึ้นไปอีก
“เรามาจากต่างทีม สไตล์แล้วก็ความเข้าใจเกมก็อาจจะแตกต่างกัน ก็เหมือนมาเริ่มศึกษาใหม่ครับ มาเริ่มเรียนด้วยกันใหม่ พวกเราก็แบ่งความรู้ที่เรามี เค้าก็แชร์ความรู้ที่เค้ามี แล้วเราก็ค่อยๆจูนกันครับ”
“หลักๆก็น่าจะมาจากทีมเรา ซ้อมกันเยอะๆมากเลยนะครับ เรียกว่าทั้งวันเลย แล้วก็อาทิตย์นึงตก 6 วัน หยุดแค่ 1 วัน นอกนั้นเราก็จะเน้นซ้อมด้วยกันเยอะๆ แล้วก็ทีมเราส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นที่มีอายุในระดับนึงเลย ก็เลยว่ามีความเข้าใจเกมกันอยู่แล้ว ก็คุยกันง่ายครับ”
“โดยเฉลี่ยเราจะ Scrim กันประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวันครับ นอกนั้นก็จะเป็นเล่นแรงค์ แล้วก็ซ้อมส่วนตัว”
ดราม่าที่หนีไม่พ้น
Noel ได้เล่าเผยว่าเรื่องการดราม่าต่างๆยังไงก็เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นอยู่แล้วในวงการนี้ ซึ่งเขาได้เผยว่าในช่วงแรกที่เขาเริ่มมาแข่งขัน คอมเมนต์ Toxic ต่างแทบจะทำให้เขาเกือบเลือกที่จะเลิกเป็นนักแข่งมาแล้ว
“โดยส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าอยู่วงการนี้ มันโดนตลอดเวลาอยู่แล้วนะครับ เพราะว่าโดยส่วนตัวก็มีคอมเมนต์ในเชิงลบ ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างแย่อยู่ตลอดเวลาครับ”
“ตอนที่ผมเริ่มแข่งใหม่ๆ ผมเป็นคนที่อ่านทุกคอมเมนต์จริงๆนะครับ ก็เคยรู้สึกแย่มากๆ เคยเกือบเลิกแข่งไปรอบนึงแล้วด้วยซ้ำ”
แต่ว่าก่อนที่เขาจะหมดไฟเลิกแข่งไป Noel ก็คิดได้ว่าคอมเมนต์ Toxic พวกนั้นไม่ใช่สิ่งที่เค้าจำเป็นต้องไปสนใจ ซึ่งสิ่งที่เค้าควรจะทำคือสนใจและโฟกัสแค่การแข่งขันของตัวเองและทีมก็พอ ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาผ่านเหตุการณ์ตรงนั้นมาได้
“แต่ว่าสิ่งเดียวที่เราทำแล้วรู้สึกว่าดีที่สุดนะครับ คือพยายามอย่าไปสนใจมันมาก พยายามฟังแต่คอมเมนต์ดีๆ หรือว่าการวิเคราะห์ที่ดี การวิจารณ์ที่แบบเป็นเชิงบวกนะครับ อย่าพยายามเอาสิ่งแย่ๆมาใส่ตัว เพราะว่ามันจะยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่ครับ”
“มันมีแต่ทำให้ยิ่งรู้สึกแย่ครับ มีแต่ทำให้รู้สึกกดดันมากขึ้น เราพยายามอย่าเอาตรงนี้มาใส่ใจเรามาก แล้วก็พยายามมาโฟกัสที่การแข่งขันให้เต็มที่ดีกว่าครับ”
หลังจากนี้ เรื่องราวการคว้าโอกาสลุยศึกชิงแชมป์โลกใน Icons Global 2022 จะเป็นอย่างไรต่อ สามารถติดตามได้ใน EP ต่อไปเร็วๆนี้
อ่านเพิ่ม: WCS Finals 2022: สรุปผล 1 พ.ค. Buriram การันตีลุย Icons 2022
